พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 170

ชายหนุ่มหลุบตามองนาง จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงแล้วกลืนสิ่งที่เฟิ่งชิงหัวต้องการจะพูด มือใหญ่จับหลังของนางไว้แน่น และเป็นไปไม่ได้ที่นางอยากจะหลุดพ้นออกมาได้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงปล่อยให้จ้านเป่ยเซียวทำอะไรก็ตามที่เขาต้องการ

จูบของชายหนุ่มหลั่งไหลออกมาด้วยความโกรธและเอาแต่ใจ

เฟิ่งชิงหัวรู้สึกหงุดหงิดและงงงวยในเวลาเดียวกัน ทำไมอารมณ์ของคน ๆ นี้ถึงเหมือนกับท้องฟ้าในเดือนมีนาคม เปลี่ยนแปลงง่าย นางแค่อยากจะไปที่ชานเมืองเพื่อดูเท่านั้นเอง นางสงสัยว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวข้องกับหนานกงจี๋ เพื่อให้แน่ใจ ทำไมเขาถึงมีปฏิกิริยาที่มากเช่นนี้?

ถอยออกมาหนึ่งก้าวแล้วพูดว่าเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนานกงจี๋ เป็นโรคระบาดจริงๆ และนางไปก็สามารถช่วยป้องกันได้ด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีสำหรับแคว้นเทียงหลิงของพวกเขา

ความคิดเฟิ่งชิงหัวปั่นป่วนอย่างรวดเร็ว แต่ความโกรธของจ้านเป่ยเซียวไม่ได้ลดลงเลย แต่กลับจูบจนเกิดโทสะ

เมื่อเห็นว่าขัดขืนไม่มีประโยชน์ เฟิ่งชิงหัวจึงโอบรอบเอวของจ้านเป่ยเซียวด้วยมือข้างที่ว่าง

ร่างกายของชายหนุ่มแข็งทื่อ โทสะของเขาสลายไปเล็กน้อย และความรู้สึกอ่อนหวานเกิดขึ้นในหัวใจของเขา การกระทำที่เอาแต่ใจก่อนหน้านี้ก็อ่อนโยนลงไปมาก ริมฝีปากของเขาก็โค้งขึ้นเล็กน้อย

หญิงสาว ไม่ปฏิเสธ ถือว่าตกลงใช่ไหม?

ว่าแล้ว สตรีในโลกนี้ แค่เขาต้องการ จะไม่ยอมรับเขาหรือ?

ในขณะที่เขากำลังจะหลงเข้าไป ทันใดนั้น จ้านเป่ยเซียวรู้สึกว่าหลังของเขาแข็งทื่อและร่างกายของเขานิ่งไปสองสามวินาที ไม่กี่วินาทีนี้เพียงพอที่เฟิ่งชิงหัวจะหลุดจากการเกาะกุมของเขาและถอยไปที่มุมที่ไกล

“คนเลว” จ้านเป่ยเซียวกัดฟันถลึงตาใส่นาง หญิงสาวลอบทำร้ายเขาในขณะที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

“นั่นก็ไม่ได้ไร้ยางอายเท่าเจ้า” เฟิ่งชิงหัวใช้แขนเสื้อเช็ดปาก รู้สึกเพียงว่าปากแสบร้อน แก้มของนางแดงเล็กน้อย อาจเป็นเพราะพื้นที่ที่นี่เล็กเกินไปและอากาศไม่ไหลเวียน

“ห้ามไป” จ้านเป่ยเซียวพูดเสียงต่ำ

“เพราะเหตุใด?”

“ไม่ว่ายังไงก็ห้ามไป”

“จ้านเป่ยเซียว เจ้าอย่าเอาแต่ใจตัวเองจนเกินไป ข้าเป็นคน มีอิสระ สิ่งที่ข้าต้องการจะทำและสิ่งที่ข้าจะทำ ไม่มีใครสามารถตัดสินใจแทนข้าได้นอกจากตัวข้าเอง”

“เจ้าคือพระชายาอ๋องของข้า!” จ้านเป่ยเซียวโพล่งออกมา แต่เมื่อเขาพูดออกมา หัวใจของเขากลับว่างเปล่า

เหตุผลนี้เกือบจะใช้ไม่ได้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกว่าข้ออ้างนี้ไม่สามารถรั้งนางไว้ได้

จ้านเป่ยเซียวเคยประสบกับความรู้สึกพ่ายแพ้เพียงสองครั้งในชีวิตของเขา ครั้งหนึ่งเมื่ออาการบาดเจ็บที่ขาของเขายากจะรักษา แต่เขาพยายามสุดกำลังก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และอีกครั้งคือนาง

แม้ว่านางจะสมรสกับเขาและเป็นพระชายาอ๋องของเขา เขากลับรู้สึกว่านางเป็นเหมือนพระจันทร์ในน้ำ ดอกไม้ในกระจก ราวกับว่านางอาจหายไปได้ทุกเมื่อ และเขาไม่สามารถให้นางอยู่กับเขาได้

เฟิ่งชิงหัวกล่าว “จ้านเป่ยเซียว ข้าไม่เคยเป็นเครื่องประดับของใคร แม้ว่าข้าจะสมรสกับเจ้า แต่ข้ามีความคิดและสิ่งที่ข้าอยากทำ ไม่ใช่เป็นเหมือนผู้หญิงเหล่านั้นที่อยู่ในเรือนไม่ออกไปไหนและล้อมรอบเจ้าอยู่ทุกวัน ใช้ชีวิตด้วยการมองสีหน้าเจ้า แล้วแย่งชิงความรักของเจ้าในวันข้างหน้า”

จ้านเป่ยเซียวจ้องเฟิ่งชิงหัว ด้วยสายตาที่มองเฟิ่งชิงหัวอย่างซับซ้อน แต่ดูเหมือนว่าจะมองอีกคนอื่นผ่านนาง

“เซียวเอ๋อร์ คนๆเดียวที่ข้ารู้สึกผิดคือเจ้า จากนี้ไป เจ้ากลับไปยังราชวังพร้อมเสร็จพ่อของเจ้าเถอะ เขาจะดีต่อเจ้า”

“ท่านแม่ เหตุใดท่านจึงไม่กลับไปกับเสร็ดพ่อล่ะ?”

“ชีวิตในวังไม่เหมาะกับข้า ข้าเคยชินกับอิสระแล้ว เข้ากับคนมากมายไม่ได้”

เฟิ่งชิงหัวยืนอยู่ตรงนั้น มองดูจ้านเป่ยเซียวที่นิ่งเงียบ รู้สึกประหม่าเล็กน้อย เพราะกลัวว่าเขาจู่ ๆ ก็จะเป็นบ้าและพุ่งมาอีกครั้ง

แต่เขาแค่มองนาง จากนั้นเคาะกระดานไม้สองครั้ง ประตูเปิดออกแล้วเดินออกไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว