พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 180

 ยามอาทิตย์คล้อยลงสู่ภูเขาฝั่งตะวันตก แสงแดดก็ไม่ได้ร้อนแรงเสียดแทงดวงตาอีกแล้ว ความอบอุ่นฉาบร่างกายทำให้รู้สึกง่วงนอน

เสียงก็อกแก๊กดังขึ้นสะท้อนเข้าหูเบาๆ เฟิ่งชิงหัวลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือจึงพบภาพเบื้องหน้าที่ทำให้ตกใจสุดขีด จ้านเป่ยเซียวนั่งข้างตัวนาง ใบหน้าของคนทั้งสองห่างกันโดยมีเพียงหัวไหล่ขวางกั้นเท่านั้น เขานั่งอยู่บนเก้าอี้หินเตี้ยโดยกำลังแกะเปลือกเม็ดแตงอย่างตั้งใจ

 เนื่องจากสองปีที่ผ่านมาไม่ได้อยู่ในสนามรบเลย ทำให้ผิวของเขาขาวเนียนละเอียด และด้วยไม่ได้เจอแสงแดดมาเป็นเวลานานทำให้ผิวของเขาซีดขาวราวคนป่วยจนเห็นเส้นเลือดดำปรากฏบนผิวหนัง ท่าทางแกะเปลือกเม็ดแตงของเขาในตอนนี้ราวกับท่าทางของคนที่กำลังบรรเลงพิณ

 จานเล็กๆ ตรงหน้ามีเม็ดแตงที่ถูกปอกเปลือกออกแล้ว บนโต๊ะหินมีกองเปลือกเม็ดแตงกองเล็กๆ วางอยู่ ดูแล้วเป็นภาพที่มีความสวยงามแฝงอยู่

 “ท่าน ท่านอ๋อง” ความง่วงงุนของเฟิ่งชิงหัวหายไป น้ำเสียงของนางแหบแห้ง

 “อืม” จ้านเป่ยเซียวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง น้ำเสียงที่ตอบรับแสดงความไม่สนใจเท่าไหร่นัก พลางเอาเปลือกอันหนึ่งวางกองไว้บนกองเปลือกอย่างมั่นคง

 เฟิ่งชิงหัวกึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม “ท่านอ๋องสง่างามยิ่ง”

 จ้านเป่ยเซียวเช็ดมือของเขาที่มีเศษผงเลอะอยู่จนสะอาดเอี่ยม จากนั้นจึงยื่นจานเล็กๆ ส่งให้เฟิ่งชิงหัว “กินสิ”

 ท่าทางของเขาสงบนิ่ง แต่ดวงตาของเขากลับปรากฏอาการยินดี

 เฟิ่งชิงหัวจ้องไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ ราวกับต้องการจะจับผิดความหมายในดวงตาของเขา ก่อนจะหันไปมองเม็ดแตงเม็ดกลมๆ แล้วกลืนน้ำลาย “ท่านไม่ได้วางยาเอาไว้ในนี้ใช่ไหม”

 หากไม่ได้วางยาพิษเอาไว้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าสมองของเขาเพี้ยนไปแล้ว

 ไม่อย่างนั้นแล้วทำไมถึงลดตัวลงมาทำเรื่องแบบนี้ได้

 จ้านเป่ยเซียวขมวดคิ้ว “กินสิ”

 เขาเอ่ยสั้นๆ และเด็ดขาดอย่างคำสั่งการ ยากต่อการปฏิเสธ

 เฟิ่งชิงหัวคว้าเม็ดแตงขึ้นมาหนึ่งกำมือก่อนจะเอาใส่เข้าปากแล้วเคี้ยวเบาๆ เม็ดแตงทั้งกรอบทั้งหอม

 “อร่อยไหมล่ะ” จ้านเป่ยเซียวกล่าวด้วยความอ่อนโยนลง

 มันก็ต้องมีรสชาติเดียวกันอยู่แล้วไหมล่ะ

 ท่านคิดว่าพอท่านลงปลอกเองแล้วรสชาติมันจะหวานขึ้นงั้นหรือ คำชมอะไรแบบนั้นนางไม่สามารถกล่าวออกมาได้ ได้แต่พยักหน้างึกๆ

 จ้านเป่ยเซียววางจานในมือเฟิ่งชิงหัว “อย่างนั้นก็กินเยอะๆ”

 อร่อยก็กินเยอะๆ งั้นหรือ

 เฟิ่งชิงหัวเอามือกำเม็ดแตงขึ้นมาอีกหนึ่งกำ ส่วนอีกมือถือจานเอาไว้ แต่กลับไม่กล้ากินเพราะไม่อยากแสดงทักษะความอยากอาหารของตนที่กินทีเดียวเป็นร้อยเม็ดออกมาต่อหน้าชายคนนี้

 “คือว่า อันที่จริงแล้ว เมื่อกี้นี้ข้ากินเข้าไปไม่น้อยแล้ว ตอนนี้รู้สึกอิ่มๆ ขอพักก่อนแล้วกัน” เฟิ่งชิงหัวกล่าวอย่างลำบากใจและเตรียมจะเอาจานวางไว้บนโต๊ะ

 แต่เมื่อเริ่มขยับตัวก็เห็นดวงตาของเขาจ้องเขม็งมาที่ตน มือทั้งสองข้างของนางลอยอยู่กลางอากาศก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น “อย่างนั้นข้า กินเข้าไปให้หมดเลยแล้วกัน”

 ด้วยเหตุนี้เฟิ่งชิงหัวยังคงอยู่ในท่าทางอันแข็งทื่อพลางโยนเม็ดแตงแต่ละเม็ดเข้าปาก เดิมทีคิดว่าจะกินไม่ลง แต่สุดท้ายยิ่งกินก็ยิ่งอร่อย ทำให้นางหยิบเม็ดแตงเข้าปากถี่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานนักก็เริ่มเห็นก้นจานของเม็ดแตงแล้ว

 สีหน้าของจ้านเป่ยเซียวดีขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนขึ้นไม่น้อย “คืนนี้อยากกินอะไร ข้าจะให้ครัวเตรียมเอาไว้ให้”

 นี่ต้องการจะขุนให้อ้วนกระมัง

 ในหัวของเฟิ่งชิงหัวปรากฏคำพูดเหล่านี้ขึ้นมาทันที จากนั้นเอามือลูบใบหน้าของตัวเอง ทันใดนั้นนางก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา

 ใครจะคิดว่าเมื่อครึ่งปีที่แล้วผู้หญิงตัวเล็กๆ น่าสงสารที่ใช้ชีวิตอย่างลำบากยากแค้น ตอนนี้จะสามารถสั่งอาหารที่ตนเองอยากกินได้ตามอำเภอใจแล้ว

 เฟิ่งชิงหัวคิดแล้วจึงกล่าวว่า “ยังไม่เอาดีกว่า ตอนนี้รู้สึกอิ่มอยู่”

 “อืม จะเอาผลไม้มาเพิ่มหน่อยไหมล่ะ เมื่อวานมีลิ้นจี่มาใหม่ ทั้งหอมทั้งหวานเลย ผีผารสชาติก็ไม่เลว หอมหวานสดใหม่”

 ในใจของเฟิ่งชิงหัวปฏิเสธ แต่ปากนางกลับตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ได้เจ้าค่ะ”

 เมื่อกินลิ้นจี่เข้าไปหนึ่งโลครึ่งและผีผาอีกครึ่งโลแล้ว นางก็กินขนมแป้งนึ่งที่พึ่งทำเสร็จใหม่ๆ ไปอีกสองสามคำ หลังจากนั้นนางจึงตบพุงอย่างพอใจ “กินไม่ไหวแล้ว กินไม่ไหวแล้วจริงๆ ข้าต้องพักสักหน่อยแล้ว”

 แสดงว่าตอนนี้จ้านเป่ยเซียวต้องการเลี้ยงนางให้อ้วนนางจะได้ขี้เหล่ จากนั้นใช้ข้ออ้างว่านางกินเยอะและขี้เกียจ มีรูปร่างไม่น่ามองเพื่อปลดนางออกจากตำแหน่งใช่หรือไม่

 นี่เป็นความคิดที่ชั่วร้ายมาก

 จ้านเป่ยเซียวที่รับบทเป็นคนป้อนอาหารและผู้ควบคุมตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เห็นเหตุการณ์เช่นนั้นก็เลือกคิ้วขึ้น “แค่นี้จะไปพอได้อย่างไร เดี๋ยวพักผ่อนแล้วก็ต้องกินอาหารเย็นอีก ข้ามีเงิน เจ้าไม่ต้องประหยัดก็ได้”

 เฟิ่งชิงหัวอยากจะร้องไห้เบาๆ ตอนแรกที่นางเข้ามา เขาไม่ได้เป็นเช่นนี้ ร่างกายของนางย่อยเร็ว เขายังเคยหัวเราะเยาะนางมาก่อน ทำไมตอนนี้ถึงเป็นอย่างนี้ไปได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว