เฟิ่งชิงหัวกลายเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในดีที่เกิดขึ้นนี้ไปโดยปริยาย ไม่มีตำแหน่งทางราชสำนักอะไรทั้งสิ้น ยิ่งไม่มีประสบการณ์ใดๆ ด้วย ที่พอดีก็ประมาณว่ามีเพียงหัวโขนที่เป็นท่านอ๋องเจ็ดผู้นี้ ดังนั้นนางเตรียมตัวขึ้นตำแหน่งใหม่นี้ที่ใครๆ ก็เห่อ เอาไฟกองนี้ไปสุมเผาจวนเฉิงเซี่ยงก่อนเลย
ใช้ป้ายติดตัวที่ฮ่องเต้เซวียนถ่งมองให้นางระดมกำลังเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่รวมๆ 300 นาย ล้อมจวนเฉิงเซี่ยงทั้งจวนไว้อย่างแน่นหนา ทั้งรุนแรงซึ่งหน้าและตรงไปตรงมา ทำให้พวกชาวบ้านที่อยู่หน้าประตูจวนเฉิงเซี่ยงต่างพากันคิดว่าเฉิงเซี่ยงต้องโทษความผิดอันใดอะไร เตรียมที่จะถูกยึดทรัพย์
เฟิ่งชิงหัวกวักเรียกคนผู้หนึ่งให้ขึ้นไปเคาะประตู หลังจากพูดกับผู้เฝ้าประตูชัดเจนแล้ว ทางนั้นก็ตอบกลับมาว่าจะไปเรียนให้นายท่านทราบ จากนั้นประตูนั้นก็ไม่ได้เปิดอีกนานมาก
เฟิ่งชิงหัวก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ก็เลยให้คนยกเก้าอี้มาตัวหนึ่ง นั่งตัวตรงอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ ทางด้านของจวนเฉิงเซี่ยง ในมือถือแส้ที่หาเจอในห้องหนังสือของจ้านเป่ยเซียวหนึ่งเส้นอยู่ อีกทั้งเดี๋ยวกันตวัดออกไปอยู่บ้างเป็นครั้งคราว
ชาวบ้านที่ห้อมล้อมอยู่นั้นยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปทางด้านหน้าประตูทางเข้า เสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
เฟิ่งชิงหัวชี้มั่วซั่วไปยังคนที่ดูจะพูดจาคล่องแคล่วคนหนึ่งแล้วกล่าวว่า: “เจ้า บอกกับทุกคนหน่อยว่าวันนี้พวกเรามาทำอะไรกัน”
“ขอรับ” องครักษ์นั้นจัดแจงชุดเกราะบนร่างทั้งร่าง แล้วก็กล่าวด้วยเสียงดังกระจ่าง
“เมื่อวานใต้เท้าขุนนางชั้นผู้ใหญ่และใต้เท้าเหยียนแห่งศาลาว่าการพระนครพบศพหลายศพเข้าด้วยกัน ศพพวกนี้ต่างตายเพราะถูกพิษ ในขณะเดียวกัน ฝ่าบาทสงสัยว่าคุณหนูสามแห่งจวนเฉิงเซี่ยงก็ถูกพิษด้วยเช่นกัน ฝ่าบาททรงมีความห่วงใย เลยให้คุณหนูสามเข้าไปอยู่ในวังเพื่อให้หมอหลวงทำการวินิจฉัย แต่จวบจนตอนนี้ ทั้งตระกูลเฉิงเซี่ยงไม่ได้ส่งคนเข้าวังหลวงเลย ไม่เพียงเท่านี้ ประตูจวนก็ปิดสนิท ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่”
เฟิ่งชิงหัวได้ฟังดังนั้นก็พยักหน้า แสดงความยอมรับในความสามารถของการกล่าวอธิบายออกมาของคนผู้นี้
พวกชาวบ้านโดยรอบต่างเริ่มวิจารณ์เสียงเบาๆ ขึ้นมา
“เช้านี้พวกเราก็ได้ยินว่า ที่บอกว่ารูปร่างหน้าตาของศพหลายศพนั้นก็ไม่ชัดเจนนัก ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีญาติมารับไปเลย”
“ใช่แล้วล่ะ พิษนั้นดูรุนแรงมาก ตามที่ได้ยินมีคนที่ใจกล้าปลอมเป็นคนในครอบครัวไปดูแล้ว พอเห็นสภาพแล้วก็ตกใจไปเลย”
“งั้นนี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีนะ ในเมื่อคุณหนูสามก็ถูกพิษ งั้นก็ควรจะเข้าวังไปรักษาสิ ไม่แน่ว่ายังสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้”
“คุณหนูสามผู้นั้นหากอยู่ในจวนดีๆ ไม่ได้ไปไหนแล้วจะถูกพิษได้อย่างไรกันเล่า ศพหลายศพนั้นที่พบต่างก็เป็นผู้ชายหมด ก็มีเพียงเขาที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว เป็นไปได้ไหมว่าตระกูลเฉิงเซี่ยงคิดที่จะปกปิดอะไรอยู่? อีกอย่างข้าได้ยินว่าคุณหนูสามนิสัยไม่มีเหตุผลเอาแต่ใจ ไม่แน่ว่าก็อาจจะไปล่วงเกินใครเข้า ตระกูลเฉิงเซี่ยงรู้สึกว่านางทำให้ขายหน้า ไม่ยอมส่งเข้าวังน่ะสิ”
“แต่นี่มันคืออะไรขายหน้าไม่ขายหน้าเหรอ? ข้าได้ฟังศาลาว่าการพระนครทางนั้นกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าถูกพิษอะไรเลย ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมียาถอนพิษ คุณหนูสามผู้นี้เข้าวังก็เท่ากับว่าหนีเสือปะจระเข้ ไม่แน่ว่าก็เพียงแค่ลองยาเท่านั้น พ่อแม่คนเขาก็เลยทำใจไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...