น้ำเสียงของเฟิ่งชิงหัวดังขึ้นกว่าเดิมมากอย่างไม่สนใจว่าการแผดเสียงของนางจะทำให้คนอื่นตกใจหรือไม่
ทุกประโยคที่เฟิ่งชิงหัวกล่าว น้ำเสียงของนางจะดังขึ้นเรื่อยๆ ส่วนจ้านเป่ยเซียวกลับหงอยลง สายตาของเขาเริ่มสอดส่ายไปทางอื่น
เมื่อเห็นตามแขนของเฟิ่งชิงหัวมีรอยกิ่งไม้ขูด และยังมีดวงตาของนางที่ปรากฏเส้นเลือดแดงๆ เดิมทีเขาที่มีท่าทางโมโหสุดขีด ตอนนี้เมื่อเห็นนางก็รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ
โดยเฉพาะตอนที่นางพูดว่าตัวเองเป็นคนแข็งแกร่ง จ้านเป่ยเซียวอดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองทะลุเสื้อผ้าของนางเข้าไปมองร่างกายอันผอมบางของนาง และอดไม่ได้ที่จะเอามือลูบจมูกและเริ่มครุ่นคิด เมื่อครู่นี้เขาทำอะไรเกินเลยมากไปหรือไม่
“ตอนนี้ท่านคิดว่าข้าเป็นตัวปลอมใช่หรือไม่ ดังนั้นท่านจะทำอะไรกับข้าก็ได้ใช่หรือไม่ อย่างนั้นข้าจะไปแล้ว! จะได้ไม่ขวางหูขวางตาของท่าน!”
เฟิ่งชิงหัวกล่าว พลางกระโดดลงจากเตียงอย่างโกรธเกรี้ยว และเตรียมจะวิ่งออกไปด้านนอก
เฟิ่งชิงหัววิ่งไปที่ประตูและลากประตูเปิดออก ไม่ว่าจะเปิดอย่างไรนางก็เปิดไม่ออก จึงรู้ว่าจ้านเป่ยเซียวได้ลงมือทำอะไรบางอย่างเอาไว้แล้ว
เมื่อเห็นหน้าต่างเปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่ง นางตั้งท่าจะวิ่งไปที่หน้าต่างโดยที่ไม่คิดอะไรทั้งนั้น ก่อนจะถูกจ้านเป่ยเซียวโอบเอวของนางเอาไว้และจับนางโยนไปบนเตียง
“วิ่งเท้าเปล่าออกไปเช่นนี้ เจ้าเป็นเด็กน้อยหรืออย่างไร” จ้านเป่ยเซียวกล่าวเสียงเข้ม ระหว่างที่กล่าวก็เอาผ้าห่มมาคลุมขาของนางเอาไว้ “ดูสิ สภาพของเจ้าเป็นอย่างนี้ไปแล้ว
เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนี้ก็โกรธจนแทบอกแทบแตก
“จ้านเป่ยเซียว ข้าเคยบอกท่านแล้วว่าข้าคือเฟิ่งชิงหัว ไม่ใช่หนานกงเยว่ลั่ว ไม่ใช่พระชายาของท่าน ท่านสนใจคนผิดไปแล้ว! ข้าอยากจะเดินเท้าเปล่าเดินไปตามพื้นก็เป็นเรื่องของข้า ข้าอยากเดินไปไหนข้าก็เดิน!” เฟิ่งชิงหัวแผดเสียง นางกล่าวอย่างโมโห ขาทั้งสองข้างของนางดิ้นพล่านๆอยู่บนเตียง
จ้านเป่ยเซียวหยุดนิ่งมองนาง แต่เฟิ่งชิงหัวกลับเบือนหน้าหนีอย่างไม่สนใจ
ใครบ้างที่งอนไม่เป็น และใครกันจะเย่อหยิ่งไม่ได้
ถึงอย่างไรก็ฉีกหน้ากันแล้ว อย่างมากคงถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่คงไม่ถึงขั้นทำร้ายนางถึงตายได้ หากนางไม่ตาย นางจะต้องปีนหนีออกไปให้ได้ นางไม่อยากอยู่กับเขา
“หากเจ้าไป เจ้าจะไปที่ไหน?”
“กลับบ้าน!”
“บ้านของเจ้าอยู่ที่ไหน”
“มันเรื่องอะไรของท่าน!” เฟิ่งชิงหัวสบถคำหยาบออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
ตอนนี้ในใจของจ้านเป่ยเซียวไม่สบอารมณ์อยู่แล้วส่วนหนึ่ง เมื่อได้ยินคำพูดดื้อรั้นเช่นนี้ของเฟิ่งชิงหัว หน้าผากของเขาก็เต้นตุบๆ
เขาแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แต่เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าขอนางก็หันตัวเดินออกจากห้องไป
เฟิ่งชิงหัวเฝ้ามองแผ่นหลังของเขา จากนั้นจึงถอนใจ เขาไปได้ก็ดี นางจะได้นอนต่อ
แต่ใครรู้จะรู้ว่าในขณะที่นางล้มตัวลงนอนนั้น จ้านเป่ยเซียวก็ย้อนกลับมาและยืนเรียกนาง “ลุกขึ้น”
เฟิ่งชิงหัวทำเป็นไม่ได้ยิน จากนั้นใช้ผ้าห่มคลุมหัวตัวเองเอาไว้
ผ้าห่มถูกเปิดออกมุมหนึ่ง เขาดึงแขนนางออกมา สักพักนางก็รู้สึกถึงวัตถุเย็นๆ บางอย่างมาสัมผัสที่แขนของนาง เฟิ่งชิงหัวแอบแง้มผ้าออกมุมหนึ่ง แต่กลับเห็นว่าจ้านเป่ยเซียวกำลังทายาให้ที่แขนของนาง
เฟิ่งชิงหัวไม่ได้กล่าวอะไร เพียงหลับตาต่อไปแล้วแกล้งทำเป็นหลับ
จ้านเป่ยเซียวค่อยๆ ทาพลางกล่าวเบาๆ ว่า “คนอย่างหนานกงจี๋ดูภายนอกเป็นคนขี้ขลาด ความจริงแล้วเป็นคนที่มีแผนสูง แถมยังระมัดระวังตัวมาก ต่อให้เจ้าไปถึงที่หมู่บ้าน เจ้าก็คงหาหลักฐานอะไรไม่ได้อยู่ดี และอาจทำให้ตัวเจ้าเองต้องเดือดร้อน คราวนี้เจ้าถูกจับได้ วันหน้าเขาก็คงจะระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม”
จะโทษว่านางแหวกหญ้าให้งูตื่นงั้นหรือ?
เฟิ่งชิงหัวยังคงครุ่นคิดอย่างไม่ยอมแพ้ ต่อให้ข้าถูกเจอตัว แต่ข้าก็ค้นพบความลับที่สำคัญกว่าเช่นกัน แต่ว่าข้าจะไม่บอกท่าน
จากนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “เรื่องศพพวกนั้นต่อให้เกี่ยวข้องกับเขา เจ้าก็ไม่มีทางเชื่อมโยงให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องได้แน่ อยู่ที่จวนอ๋องอย่างว่าง่ายดีกว่า”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนั้นนางก็เปิดผ้าห่มออก “ท่านต่างหากที่ทำไม่ได้ ข้าเก่งจะตาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...