เมื่อเห็นสีหน้าของเฟิ่งชิงหัว จ้านเป่ยเซียวก็เอ่ยว่า “ในเมื่อเขาไม่มีทางหันกลับ เขาจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ ภายในช่วงเวลานี้จะต้องมีการเคลื่อนไหวใหญ่ ข้าได้ส่งคนออกไปจับตาดูแล้ว เจ้าอดทนรอดูก็แล้วกัน”
“รอ? แล้วต้องรอถึงเมื่อไหร่” เฟิ่งชิงหัวไม่ใช้คนใจร้อน แต่เมื่อนึกถึงแผนการเบื้องหลังของหนานกงจี๋นางก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมา ใครจะรู้ว่าต้องมีคนบริสุทธ์อีกมากมายเท่าไหร่ต้องตายไปด้วยน้ำมือของเขา
“เจ้าไม่อยากรอ? แล้วเจ้าคิดอย่างไร บุกเข้าไปจับเขาถึงที่เลยงั้นหรือ หลักฐานล่ะ? คนเผ่าเซียนเปย์ที่ยังอยู่ในหมู่บ้านตอนนี้งั้นหรือ ตอนนี้เทียนหลิงพยายามเป็นพันธมิตรกับทุกประเทศ แม้ว่าจะเป็นชาวเผ่าเซียนเปย์ก็ยังคงต้องมีท่าทางผ่อนปรณ เจ้าจะใช้เหตุผลแค่นี้ไปจับเขางั้นหรือ”
เฟิ่งชิงหัวที่เดิมทีคิดว่าตนเองควบคุมความลับขั้นสุดยอดเอาไว้ ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของจ้านเป่ยเซียวแจกแจงออกมาเช่นนี้ก็รู้สึกท้อใจและรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองทำมาตลอดทั้งคืนนั้นสูญเปล่า
“อย่างนั้นจะทำอย่างไร เสด็จพ่อของท่านให้ข้าเป็นตัวแทนสืบคดี ตอนนี้เรารู้ตัวคนร้ายแล้วแต่ยังจับไม่ได้ แถมยังไม่มีเบาะแสอีก หลังจากนี้ข้าจะรับมือต่ออย่างไรดี” เฟิ่งชิงหัวกล่าวอย่างเหลืออด
“ใครบอกว่าไม่มีหลักฐาน ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าคนร้ายคือใคร เจ้าก็แค่คิดหาวิธีโยงเรื่องทั้งสองเข้าด้วยกันก็เท่านั้นเอง”
“จะโยงยังไงล่ะ”
“เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าผู้ส่งสารที่นำทางศพมาหายตัวไปไม่ใช่หรือ ถ้าหากหนานกงจี๋รู้ว่าผู้ส่งสารที่นำทางมาอยู่ที่ไหน เขาจะต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้บ้างไม่ใช่หรือ”
“ท่านรู้หรือว่าเขาอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้ แล้วสร้างขึ้นมาไม่ได้หรือ”
“จะสร้างยังไงล่ะ” เฟิ่งชิงหัวรีบร้อนกล่าว
จ้านเป่ยเซียวเลิกคิ้วมองนาง “เรื่องนี้เจ้าเป็นตัวแทน ข้าก็แค่ให้ความร่วมมือกับเข้า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่เจ้าต้องคิดเองอยู่แล้วไม่ใช่รึ ตัวข้าอุตส่าห์ช่วยเจ้าตั้งมากมายขนาดนี้แล้ว เจ้าคงไม่คิดจะยืมมือคนอื่นหรอกกระมัง”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนั้นก็ตะลึงงัน เขาให้แนวทางก็จริง แต่นางรู้สึกว่าเขายังไม่ได้พูดอะไรที่เป็นประเด็นสำคัญเลย
จ้านเป่ยเซียวส่ายหน้า “ใช้สมองให้มากกว่านี้ อย่าคิดจะฉวยโอกาสง่ายๆ ข้าได้สอนวิธีให้เจ้าแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...