ปรากฏความคิดหนึ่งขึ้นมาในสมองของเฟิ่งชิงหัว แต่กลับยังไม่กล้ามั่นใจ อย่างไรเสีย ความคิดนี้ก็ดูเหมือนจะใจกล้าไปเสียหน่อย
จ้านเป่ยเซียวมีท่าทีสงบนิ่ง แต่ที่จริงแล้วในใจกลับรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย และพูดออกมาว่า : “วันนี้ข้าเองก็ร่วมแข่งขันด้วย”
“ท่าน ?” เฟิ่งชิงหัวตกใจ : “ท่านเสียสติไปแล้วหรือ ?”
ไม่รู้หรืออย่างไรว่าสภาพร่างกายของตนเองนั้นเป็นเช่นไร พายเรือมังกรต้องใช้พละกำลังมากขนาดไหน สภาพของเขาในตอนนี้ ดูเหมือนจะปกติ แต่ใครจะไปรู้ว่าจู่ ๆ จะล้มลงหรือไม่ หากตกลงไปในน้ำจะทำเช่นไร
จ้านเฟป่ยเซียวหันมองเฟิ่งชิงหัวอย่างไม่สบอารมณ์ : “ข้ารู้ตัวเองดี”
มุมปากของเฟิ่งชิงหัวกระตุก ครุ่นคิดอยู่สักพักก็พูดออกมาว่า : “เลือกคนทั้งหมดเอาไว้เรียบร้อยหรือยัง ?”
“อืม ทั้งหมด 20 คน รวมกับมือกลองอีกหนึ่งคนก็ 21 คน” จ้านเป่ยเซียวตอบ
“ข้าก็จะเข้าแข่งขันด้วย”
“ไม่ได้ !”
“ทำไม ?” เฟิ่งชิงหัวขมวดคิ้ว : “หรือห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าร่วมการแข่งขัน ? ดูเหมือนประเทศเทียนหลิงของท่านขะให้ความสำคัญกับชายหญิงไม่เท่าเทียมกันนะ ? บางครั้งก็ใช่ว่าผู้หญิงจะอ่อนแอกว่าผู้ชายเสียเมื่อไร
“ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงเข้าร่วมก็เรื่องหนึ่ง แต่เจ้าเป็นถึงพระชายาผู้สูงศักดิ์ จะไปโหวกเหวกโวยวายกับกลุ่มชายฉกรรจ์บนเรือได้อย่างไร คนอื่นจะมองอย่างไร นั่งดูอยู่นิ่ง ๆ บนเรือมังกรก็พอแล้ว ข้าจะคว้ารางวัลกลับมาให้เจ้าจงได้”
เมื่อเฟิ่งชิงหัวได้ยินว่ามีรางวัล อีกทั้งฟังแล้วก็น่าสนุกไม่น้อย เช่นนี้จะให้นั่งนิ่งอยู่ได้อย่างไร นางไม่อยากจะนั่งรวมกลุ่มกับหญิงสาวสักหน่อย ถึงตอนนั้นก็คงไม่พ้นเรื่องการวางอุบายใส่กัน ไม่สู้ไปร่วมสนุกด้วยดีกว่า อย่างน้อยก็รู้สึกมีส่วนร่วม
“หากพระชายาไม่อาจเข้าร่วมได้ เช่นนั้นหากข้าปลอมตัวเป็นชายก็คงไม่มี่ปัญหาแล้วใช่ไหม ? ข้าแต่งกายเป็นบุรุษได้ยอดเยี่ยมมาก รับรองว่าไม่มีใครมองออกอย่างแน่นอน” ดวงตาทั้งสองข้างของเฟิ่งชิงหัวเป็นประกาย
“ไม่ได้ ไม่มีเรื่องเช่นนี้” จ้านเป่ยเซียวปฏิเสธโดยไม่ลังเลสักนิด
เฟิ่งชิงหัวกอดแขนของจ้านเป่ยเซียวแล้วเขย่าไปมา แสดงท่าทีออดอ้อนเป็นพิเศษ : “ท่านอ๋อง ข้าอยู่บนฝั่งต้องอยู่ห่างจากท่านขนาดนั้น จะมองเห็นท่าทางอันห้าวหาญของท่านอย่างชัดเจนได้อย่างไร ? ท่านตัวคนเดียวข้าเองก็ไม่วางใจ อีกอย่าง ท่านไม่กลัวว่าข้าตัวคนเดียว อยู่ที่นั่นท่ามกลางฝูงจนจำนวนมาก จะไม่ก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกหรือ ?”
จ้านเป่ยเซียวได้ยินเฟิ่งชิงหัวพูดเช่นนี้ ก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมา จากนั้นจึงเม้มปากแล้วพูดขึ้นอย่างจริงจัง : “ยืนตัวตรงแล้วค่อยว่ากัน เจ้าไม่มีกระดูกหรืออย่างไร ?”
เฟิงชิงหัวมุ่ยปาก แล้วยืนตัวตรงอย่างว่าง่าย หันไปกระพริบตาปริบ ๆ ใส่เฟิ่งชิงหัวอย่างสุดกำลัง ท่าทางเช่นนั้น ช่างดูเหมือนจิ้งจอกน้อยที่มีหางงอกขึ้นมาจากด้านหลัง ทั้งเจ้าเล่ห์และน่ารัก ทำให้รู้สึกจี๊กจี้หัวใจเสียจริง ๆ
จ้านเป่ยเซียวจงใจทำท่าทีเคร่งขรึมอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเย็นชาว่า : “เช่นนั้นเจ้าต้องคอยตามติดข้า ห้ามทำอะไรเองโดยเด็ดขาด”
“รับทราบ !” เฟิ่งชิงหัวรับปากอย่างเบิกบาน
จ้านเป่ยเซียวรีบสั่งให้คนไปนำชุดมาหนึ่งชุด เมื่อเฟิ่งชิงหัวเดินออกมาหลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็เกล้ามวยผมขึ้นด้วยเช่นกัน ดวงตาทั้งสองข้างดูมีพลัง เห็นแล้วให้ความรู้สึกห้าวหาญเป็นพิเศษ
ยังไม่ทันที่นางจะพูดอะไร จู่ ๆ ก็มีบางอย่างสวมเข้ามา บนศีรษะ บดบังดวงตาที่ดูเป็นประกายนั้นไปกว่าครึ่ง
“ห้ามถอดออกเด็ดขาด” จ้านเป่ยเซียวกล่าว
“ทำไม ? เช่นนี้ทำให้มองทางลำบากนะ” เฟิ่งชิงหัวไม่สบอารมณ์
“หากมีคนจำได้ขึ้นมาล่ะ ?” จ้านเป่ยเซียวพูดอย่างเย็นชา
“นั่นก็ไม่เห็นเป็นไร ข้าปลอมตัวได้นี่ ? ให้ข้าปลอมตัวเป็นหลิวหยิ่งดีไหม ?” เฟิ่งชิงหัวพูดขึ้นอย่างมั่นใจ ทักษะการปลอมตัวของนาง ไม่มีใครมองออกได้แน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...