สรุปตอน บทที่ 251 เรื่องหลอนๆ – จากเรื่อง พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว โดย เสี่ยวโหม
ตอน บทที่ 251 เรื่องหลอนๆ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว โดยนักเขียน เสี่ยวโหม เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งๆ ที่รู้ว่าคนที่อยู่ใต้คำสั่งของเขาก็ได้เพียงแค่ทำอาหารที่หยาบกระด้างออกมาเช่นนี้ แต่กลับพูดอะไรที่หวนรำลึกความขมขื่น ความรู้สึกในจิตใจ ความทุกข์ของชาวบ้านขึ้นมา
เฟิ่งชิงหัวที่ทราบถึงความในใจก็จับไปบนแขนที่ขนลุกขนพองไปหมดแล้ว แล้วก็รีบนั่งไปอีกฝั่งหนึ่งทันที
หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว เหลียวเถียนเถียนเอ่ยปากกล่าวว่า: “องค์หญิงซีหลัน ท่านไม่ลืมเรื่องที่พวกเราจะพนันกันใช่ไหม? หรือว่าไม่สงสัยเลยว่าทำไมข้าจึงพาท่านมาถึงแค่ชั้น 3 แต่กลับไม่ใช่ชั้น 6 น่ะ?”
เฟิ่งชิงหัวกลอกตามองบนไปครู่หนึ่ง นางก็ไม่ได้โง่นะ
หากนางพานางไปชั้น 6 จริงๆ ผีถึงจะมาสนใจว่านางเดิมพันอะไรกัน
เฟิ่งชิงหัวตวัดสายตาจ้องไปยังเหลียวเถียนเถียนอย่างไม่สนใจไยดี: “จะพนันอะไร เจ้าพูดมาเลยดีกว่าเถอะ”
เหลียวเถียนเถียนกวาดสายตามองไปรอบๆ ครู่หนึ่ง กล่าวออกมาอย่างเปี่ยมไปด้วยความลึกลับ: “ข้าขอถามหน่อยว่า องค์หญิงซีหลันไม่ทราบว่าท่านใจกล้ามากไหม?”
นี่มันคำถามบ้าบออะไรกัน
เฟิ่งชิงหัวรู้สึกว่าตนเองน่าจะมีความเหลื่อมล้ำกับแม่นางน้อยพวกนี้มากจริงๆ หรือว่าความกล้าของนางว่ามากหรือไม่มากนั้นสามารถเอามาตัดสินว่าจะเดิมพันอะไรงั้นหรือ?
เฟิ่งชิงหัวกล่าวออกมาอย่างถ่อมตัวว่า: “ก็พอได้”
เหลียวเถียนเถียนกล่าวด้วยรอยยิ้มออกมาว่า: “งั้นดี งั้นพวกเราก็มาแข่งขันกันดูว่าใครจะใจกล้ามากกว่ากัน หากความกล้าของท่านมีมากกว่าพวกเราที่อยู่ในที่แห่งนี้ ถ้าเช่นนั้นแล้วก็นับว่าข้าแพ้ ข้าจะส่งท่านไปที่ชั้น 6 ด้วยตัวเอง เป็นเช่นไร?”
“ได้สิ จะแข่งยังไง?”
“งั้นดีเลย ท่านไปปิดประตูให้สนิท ท่านไปรูดม่านลงมาทั้งหมด คนอื่นๆ พวกเราเดินไปด้านใน องค์หญิงซีหลัน ท่านก็มาด้วยเช่นกัน” เหลียวเถียนเถียนพูดจบก็พาคนเข้าไปด้านในทันที แล้วก็หาอาสนะนั่งลงมาตามอำเภอใจ
ตอนที่เฟิ่งชิงหัวเข้าไป ก็เลือกที่นั่งแล้วนั่งลงตามสะดวก คนอื่นก็นั่งลงมาตามๆ กันเช่นเดียวกัน
เห็นเพียงในมือของเหลียวเถียนเถียนถือเทียนแดงแล้วจุดไฟขึ้น ถืออยู่บนมือแล้วส่องไปที่หน้าของตน เห็นได้ชัดว่าดูแปลกประหลาดหลายเท่าตัว
มาถึงตรงนี้แล้ว เฟิ่งชิงหัวก็ยังเดาไม่ออกว่าพวกเขาจะทำอะไรกันแน่
จวบจนเหลียวเถียนเถียนใช้เสียงแหบแห้งที่เหมือนกับถูกคนบีบคอเอาไว้แน่นกล่าวออกมาอย่างช้าๆ ว่า: “เอาล่ะ การประชุมเรื่องหลอนๆ ครั้งใหญ่ตอนนี้เริ่มขึ้นแล้ว เริ่มจากข้าแล้วไล่ลงไปเรื่อยๆ คนที่ถูกทำให้ตกใจออกจากอาสนะไปหรือว่าส่งเสียงกรีดร้องออกมาก็เท่ากับว่าแพ้
เฟิ่งชิงหัวได้ยินคำพูดนี้ รอยย่นที่หน้าผากก็เกิดเป็นเส้นๆมา
เรื่องหลอนๆ?
เดิมพัน?
การพนันในตอนนี้ “เข้มงวดกวดขัน” เช่นนี้เลยหรือ?
ในตอนนี้เหลียนซินก็กล่าวอย่างรีบร้อนจากวงนอกว่า: “องค์หญิง ท่านกลัวผีที่สุดเลย พวกเรายอมแพ้แล้วไปกันเถอะ”
ได้ยินคำพูดนี้เหลียวเถียนเถียนก็เริ่มมีความสุขขึ้นมาในทันที แล้วรีบกล่าวออกมาว่า: “เมื่อถลำตัวเข้ามาแล้วก็ไม่อาจย้อนกลับไปได้ วาจาเมื่อพูดออกมาแล้วก็ยากที่จะคืนคำได้ ในเมื่อรับปากว่าจะเข้าราวมการเดิมพันแล้วจะถอยออกไปกลางคันได้อย่างไร พอแล้วๆ ข้าจะเริ่มแล้ว”
แน่นอนว่าเหลียวเถียนเถียนทราบดีว่าองค์หญิงซีหลันกลัวผี นี่นางถึงกลับไปสืบมาโดยเฉพาะเลยนะ วันนี้บังเอิญเจอกับนางเข้า นี่มันช่างเท่ากับว่าสวรรค์ได้ให้โอกาสนางจริงๆ
เฟิ่งชิงหัวมีอาการอินอยู่หลายเท่าตัว ราวกับว่าได้เห็นหนอนหนังสือโง่เขลาผู้หนึ่งทำเรื่องเขลาๆ เรื่องหนึ่งขึ้นจริงๆ
“หนอนหนังสือหาที่ทางอยู่หนึ่งรอบ สุดท้ายก็ตัดสินใจค้างคืนใต้โต๊ะ”
“ช่วงเวลากลางคืน เขาได้ยินเสียงฝนหยุดแล้ว นอกประตูมีเสียงตอกเคาะพื้นผิวดังขึ้น รบกวนจนทำให้เขานอนไม่หลับดังนั้นเขาก็เลยยืนขึ้นมาเปิดประตูแล้วเดินออกไป”
“เขาเห็นที่หน้าประตูมีชายชราคนหนึ่งกำลังยืนหันหลังให้เขาอยู่ บนมือถือค้อนไว้หนึ่งอันจริงๆ แล้วทุบไปบนพื้น เสียงนั้นดังตึกๆๆ ราวกับว่าทุบอยู่บนหัวใจของคนอยู่ก็ไม่ปาน”
และเสียงที่ติดตามมาเบื้องหลังนั้นมีเด็กผู้หญิงหลายคนเปล่งเสียงหายใจหอบเย็นขึ้นมา
“หนอนหนังสือนั้นถาม ท่านปู่ดึกขนาดนี้แล้ว ท่านยังไม่นอน อยู่ทำอะไรตรงนี้น่ะ?” เหลียวเถียนเถียนเลียนแบบเสียงของหนอนหนังสือที่กล่าวออกมาอย่างคมชัด
เหลียวเถียนเถียนเพิ่งจะพูดจบ เสียงที่อยู่เบื้องหลังรอบๆ นั้นจู่ๆ ก็เงียบสงัดขึ้นมา ทันใดนั้นเสียงชายชราอันแหบแห้งคนหนึ่งก็ดังขึ้น: “เจ้าเด็กหนุ่ม เจ้านอนก่อนเถอะ ป้ายตระกูลบ้านข้าไม่รู้ว่าถูกใครเหยียบแตกไปแล้ว ข้าออกมาใช้แผ่นไม้ทำขึ้นมาใหม่อีกอันหนึ่ง”
“อ้าๆๆๆ!” มีเสียงเด็กผู้หญิงกรีดร้องขึ้นมา: “เป็นแผ่นศิลาชิ้นนั้น ตอนที่หนอนหนังสือผู้นั้นวิ่งหลบฝนเข้าไป ไม่ระวังเตะไปโดนเข้า นั่นเป็นแผ่นป้ายศิลาหินชิ้นหนึ่ง”
“อันนั้น เช่นนั้นคนเขาก็เป็น เป็นผีน่ะสิ” อีกคนหนึ่งก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางตัวสั่นงันงก
เหลียวเถียนเถียนกล่าวต่อออกมาอีกว่า: “พอหนอนหนังสือได้ฟัง จากนั้นก็กวาดสายตามองไปข้างกายของชายชราครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นป้ายศิลาหลุมศพแผ่นหนึ่ง ด้านบนนั้นเขียนวันเดือนปีเกิดของคนคนหนึ่งเอาไว้ เขาสั่นหัวไปมา ชายชราผู้นั้นก็ไม่เห็นแล้ว”
“เขาตกใจร้องโวยวาย วิ่งเข้าไปในวัดซอมซ่อ ครั้งนี้เขาขนเข้ากับสิ่งของบางอย่าง ก้มศีรษะลงไปดู มีคนคนหนึ่งนอนฟุบอยู่บนพื้นแล้วถามเขาว่า: เจ้าสามารถช่วยข้าเก็บเถ้ากระดูกของข้าได้หรือไม่ ทั้งๆ ที่ตอนที่ข้าหลับอยู่ยังบรรจุไว้ดีๆ อยู่เลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...