“อ้าๆๆๆ!” ผู้หญิงหลายคนกรีดร้องแล้วก็กอดกันเข้าไว้ด้วยกัน หนึ่งในนั้นกล่าวออกมาด้วยอาการสั่นเทาว่า: “เป็นเขา ตอนที่เขาเข้าประตูมาเตะถูกไหกระเบื้องใบหนึ่ง อันนั้นด้านในเป็นเถ้ากระดูกน่ะ”
หลังจากเงียบไปสักพักหนึ่งทุกคนก็สงบลงมาได้
เหลียวเถียนเถียนมองดูเฟิ่งชิงหัวที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมแม้แต่นิดก็ไม่ขยับไปไหนเลย กล่าวออกมาด้วยอาการขบกรามว่า: “หนอนหนังสือนั้นถูกทำให้ตกใจจนบั้นท้ายนั่งลงไปบนพื้นเลย ไม่กล้ามองไปบนพื้น ได้เพียงคลานไปด้านหลังด้วยความพยายามอย่างมาก คลานไปตลานไป สุดท้ายคิดไม่ถึงว่าจะคลานมายังใต้โต๊ะที่เขานอนเอนกายแต่เดิมนั้น จากนั้นเขาก็พบกับมือที่เย็นเฉียบข้างหนึ่งเข้าให้”
“อ้าๆๆ ยังมีคน วัดซอมซ่อแห่งนี้ที่แท้แล้วมีผีเท่าไหร่กันแน่น่ะ หากข้าเป็นหนอนหนังสือผู้นั้น ข้าก็คงจะถูกทำให้ตกใจจนตายไปแล้วล่ะ!”
“ใช่สิ ไม่ใช่ว่าจะเป็นเชือกปอเส้นนั้นนะ ตอนที่เขาวิ่งเข้ามาดึงเชือกปอเส้นหนึ่งเอาไว้ อันนั้นไม่น่าจะเป็นที่ไว้ผูกคอตายของผีหรอกนะ?”
เด็กผู้หญิงหลายคนพูดวิเคราะห์อย่างตื่นเต้นและเคร่งเครียด
“หนอนหนังสือผู้นั้นตกใจไปครู่หนึ่ง ไม่กล้าหันหลังไป จากนั้นก็รู้สึกเหมือนว่าด้านหลังมีลมเย็นเยือกบางเบามาสัมผัสอยู่ตลอด เป่ามายังด้านหลังคอของตนไม่หยุด เขาได้ยินเสียงผู้หญิงสวยหยาดเยิ้มคนหนึ่งร้องครวญครางอยู่ข้างใบหูของเขาเบาๆ : ท่านพี่”
“เจ้าเป็นใคร ข้าไม่รู้จักเจ้า เจ้ารีบไปซะ หนอนหนังสือกล่าวออกมาด้วยท่าทางตัวสั่นงันงก ผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังก็เอ่ยปากกล่าวว่า: ท่านพี่ เมื่อคืนท่านกับข้าได้นอนร่วมเตียงกัน ต่อไปข้าก็เป็นคนของท่านแล้ว ท่านไม่หันมาดูข้าหน่อยหรือ?”
“หนอนหนังสือผู้นั้นฟังเสียงของหญิงสาวแล้วก็ไพเราะจริงๆ ในใจก็เกิดความสงสัยขึ้นมา ตนเองรู้ทั้งรู้ว่านอนหลับไปตามลำพังคนเดียว เหตุใดจึงกลายเป็นว่าได้หลับนอนเตียงเดียวกับหญิงสาวไปได้ เขาอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง วันนี้ทั้งวันขนเปียกปอนทั้งร่างกายของเขาก็ลุกซู่ขึ้นมา เสียงกรีดร้องดังจนแทบจะทำให้วัดซอมซ่อพังพินาศไปเลย”
“วันถัดมาท้องฟ้าปลอดโปร่ง มีขอทานหลายคนเข้ามาในวัดซอมซ่อ เห็นหน้าประตูแขวนศพของหนอนหนังสือร่างหนึ่งเอาไว้อยู่ มือทั้งสองข้างของหนอนหนังสือผู้นั้นเต็มไปด้วยโคลนดินเหนียว และพื้นกระเบื้องที่อยู่ใต้โต๊ะถูกเปิดออก ดินที่อยู่ด้านในถูกพลิกออกมา ในหลุดมีศพหญิงสาวสวมชุดแต่งงานสีแดงร่างหนึ่ง ศพหญิงผู้นั้นทั้งเนื้อทั้งตัวมีหนอนแมลงวันคลานไปมาให้ทั่วเลย
หลังจากเหลียวเถียนเถียนพูดจบ ก็เป่าเทียนแดงนั้นดับไปในลมปากเดียว
ทันใดนั้นห้องทั้งห้องก็ปรากฏเป็นเสียงกรีดร้องที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปหมดออกมา ดูเหมือนกับว่าคนทั้งหมดได้พุ่งทะยานกันออกไปแล้ว ก็เลยเปิดม่านที่ปิดเอาไว้เดิมออก ในห้องก็สว่างจ้าขึ้นมาอีกครั้ง บนใบหน้าแต่ละคนซีดเซียวกันไปหมด เกือบจะยืนไม่นิ่งแล้ว มีสองคนที่ถึงขั้นเปิดประตูห้องเตรียมจะหนีออกไปแล้ว
“เถียนเถียน เจ้า เรื่องหลอนๆ ของเจ้าเรื่องนี้ช่างน่าตกใจจริงๆ ช่างน่าหวาดกลัวอย่างสุดขีดไปเลย เจ้าแทบไม่ได้บอกเลยว่าหนอนหนังสือผู้นั้นเห็นอะไรบ้าง อีกอย่างก็ไม่ได้บอกว่าหนอนหนังสือถึงไปผูกคอตายได้”
“อย่าไปคิดเลยๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งน่ากลัว ข้าขนลุกขนพองไปหมดแล้วเนี่ย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...