พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 301

เปี๊ยะดอกบัวเปลือกบางหอมฉุย จำเป็นต้องมีฝีมือปลายจวักที่ประณีต ดอกบัวแต่ละกลีบต่างจับจีบตั้งตรง บางจนโปร่งแสงได้ หากคุมไฟไม่ดีหรือว่าตอนจับจีบไม่ระวัง ก็อาจจะเหี่ยวแห้งไปเลย หรือไม่ก็จับจีบไม่ขึ้นกลายเป็นเปี๊ยะหน้าแบนไปเลยก็ได้

เค้กกระต่ายเสน่ห์ปลายจวักก็ไม่ต้องมากเกินไป ใช้แป้งนวดคลึง ใส่ไส้ลงไปในนั้น ตอนที่นึ่งรอยที่ประกบกันก็เริ่มแตกออก แต่ห้ามไม่ให้ใช้ไฟเกินเวลาได้อีก จะทำให้ง่ายต่อการแตกออกและกระทบต่อความสวยงามได้

โดยเฉพาะภาพกระต่ายที่วาดออกมา ดวงตากลมๆ แดงๆ ปากกระต่ายสามแฉกที่อยู่นอกหลักสูตร หูยาวๆ ที่ตั้งขึ้นมา ช่างน่ารักน่าชังนุ่มนิ่มจริงๆ เลย

ดูดอกบัวสีชมพูแต่ละดอกที่ดูมีชีวิตชีวา ยังมีกระต่ายขาวนวลที่น่ารักแต่ละตัวอีกด้วย ความกลัดกลุ้มพวกนั้นเมื่อครู่ของเฟิ่งชิงหัวต่างลืมไปหมดเลย มือหนึ่งถือไว้อันหนึ่ง ประมาณว่ากลั่นกรองไปมาอยู่

จ้านเป่ยเซียวมองไปบนศีรษะของอีกฝ่ายหนึ่ง แล้วกล่าวออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไรมากว่า: “ก็ยังนับว่าธรรมดา”

เฟิ่งชิงหัวส่ายหัว: “นี่มันไม่ธรรมดาเลยนะ นี่มันเป็นงานที่ประณีตมากเชียวนะ คิดไม่ถึงว่าในจวนอ๋องยังมีผู้ที่ชำนาญในการทำขนมเช่นนี้ได้ ไว้วันหลังข้าจะไปขอคำชี้แนะเสียหน่อย”

“โอ้ ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน เขายุ่งมาก เกรงว่าจะไม่มีเวลาว่างให้คำชี้แนะแก่เจ้าได้” จ้านเป่ยเซียวเม้มปากกล่าวออกมา

เฟิ่งชิงหัวกัดลงไปที่กลีบดอกบัวหนึ่วคำ หอมฉุยเป็นพิเศษ อีกทั้งยังกัดลงไปที่หูกระต่ายอีกด้านข้างด้วย

จ้านเป่ยเซียวเห็นสถานการณ์เช่นนั้น สูญเสียความเป็นตัวตนไปเล็กน้อยและบีบไปยังหูที่เริ่มแดงเล็กน้อย รู้สึกว่าคันอยู่บ้าง

“เจ้าจะชิมหน่อยไหม? อันนี้อร่อยมาก รสหวานกำลังพอเหมาะกับข้าเลย ข้าก็ชอบขนมที่หวานหนักแบบนี้ พวกนั้นที่ไม่ใส่น้ำตาล กินแล้วเหมือนกับกินแกลบเลย” เฟิ่งชิงหัวกินไปพลางแล้วก็กล่าวไปพลาง

จ้านเป่ยเซียวอ้อมไปด้านหลังเฟิ่งชิงหัวไปทางข้างโต๊ะหิน แล้วก็ยกถ้วยกระเบื้องใบหนึ่งออกมาจากด้านใน ด้านในบรรจุน้ำสีแดงเอาไว้

เมื่อเฟิ่งชิงหัวเห็นดวงตาทั้งสองข้างก็เปล่งประกายขึ้นมา: “กลิ่นนี้เหมือนว่าจะเป็นกลิ่นของหยางเหมย”

เฟิ่งชิงหัวตักขึ้นมาชิมหนึ่งคำ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความพอใจ: “คิดไม่ถึงว่าจะเป็นน้ำที่คั้นออกมาจากหยางเหมย เย็นๆ ใช่เอาแช่เย็นไว้ในบ่อลึกมาก่อนงั้นหรือ?”

“อืม”

เฟิ่งชิงหัวตักขึ้นมาผิดหวังเล็กน้อย: “ทำไมไม่เติมน้ำแข็งหน่อยล่ะ เช่นนี้ก็จะยิ่งเย็นมากขึ้น”

“ไม่ดีต่อกระเพาะ”

เฟิ่งชิงหัวพยักหน้า: “ก็ถูก ตอนนี้เจ้าร่างกายอ่อนแอเกินไป ก็ยังไม่ควรดื่มของที่เย็นเจี๊ยบเช่นนี้ได้ ให้ข้ามาช่วยเจ้าย่อยนั่นแหละถูกต้องแล้ว อย่างเช่นแบบนี้ มีเท่าไหร่ข้าก็ดื่มเท่านั้นแหละ”

จ้านเป่ยเซียวส่ายหัวอย่างจนปัญญา ก็เลยแหงนศีรษะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเลยเสียดีกว่า

พระจันทร์ไม่กลมเหมือนดั่งเช่นคืน 15 ค่ำนานแล้ว แต่แสงสว่างของมันก็ยังคงสามารถส่องให้เห็นชั้นเมฆได้ สามารถเห็นการเคลื่อนที่ของก้อนเมฆพวกนั้นทีละนิดๆ ได้เปี่ยมไปด้วยท่าทีที่สบายตามใจตัวเองอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว