สรุปเนื้อหา บทที่ 42 ท่านอ๋องป่าเถื่อนเกินไป – พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว โดย เสี่ยวโหม
บท บทที่ 42 ท่านอ๋องป่าเถื่อนเกินไป ของ พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี่ยวโหม อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
หนานกงเยว่หลีได้ยินคำพูดของรัชทายาท สีหน้าก็เปลี่ยนไป นางมองค้อนหนานกงเยว่ลั่ว
หรือหนานกงเยว่ลั่วคิดจะเปลี่ยนแผน ไม่คิดจะหนีไปแล้ว อยากมาจีบรัชทายาทแทน?
นางหลงรักรัชทายาทสุดหัวใจ มีความคิดแบบนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร เมื่อก่อนนางมักจะมีท่าทีกล้าๆกลัวๆ ก็เลยดึงดูดความสนใจจากรัชทายาทไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับไม่เหมือนกัน เห็นได้ชัดว่ารัชทายาทดูจะสนใจนางเป็นพิเศษ
หนานกงเยว่หลีรีบพูดว่า: “เยว่ลั่ว ทำไมเจ้าเพิ่งมา เมื่อกี้ข้าเล่าเรื่องของเจ้าให้รัชทายาทฟังแล้ว ขอแค่เป็นเรื่องจริง รัชทายาทจะต้องช่วยเจ้าแน่”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินแล้วก็เลิกคิ้วขึ้น ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังรัชทายาท แล้วพูดว่า: “ไม่คิดว่ารัชทายาทจะจิตใจชั่วช้า อ้อ ไม่สิ จิตใจดีต่างหาก”
เป็นไปตามที่คิดไว้ หลังจากที่ได้รู้ว่าหนานกงเยว่ลั่วจะหนีไปกับนักเล่นพิณ หัวใจที่ไม่สงบของรัชทายาทก็สงบลง สีหน้าก็กลับมาเป็นปกติ: “ใช่แล้ว หนานกงเยว่ลั่วถ้าเจ้าน้อยใจ ก็มาบอกกับข้าได้นะ”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินแล้ว ก็ทำท่ายกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา พูดอย่างซาบซึ้งว่า: “งั้นข้าก็ต้องขอขอบพระทัยรัชทายาทมากนะ น้อยใจก็ต้องมีกันบ้างเป็นบางครั้ง”
ว่าแล้วก็ชี้รอยฟันบนใบหน้า ทำหน้าน้อยอกน้อยใจ: “ท่านเห็นรอยฟันบนใบหน้าข้าไหม?”
รัชทายาทขมวดคิ้วมอง ก็เห็นรอยฟันบนใบหน้าของหนานกงเยว่ลั่วจริงๆ รอยนั้นหายไปแล้ว แต่ยังบวมแดงอยู่
รัชทายาทเข้าใจแล้วพูดอย่างตกตะลึงว่า: “หรือนี่จะเป็นพี่เจ็ด?”
เฟิ่งชิงหัวพยักหน้า ตอบด้วยน้ำเสียงน้อยใจว่า: “เจ้าค่ะ”
“เจ้ายังมีเรื่องอะไรบอกข้ามาให้หมดเลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้เจ้าเอง พี่เจ็ดทำแบบนี้กับเจ้าตลอดหรือเปล่า?” รัชทายาทตกใจ ร้อนรนมากไม่ไหว อยากจะรู้ทุกเรื่องที่หนานกงเยว่ลั่วต้องพบเจอโดยเร็ว
กลับเห็นหญิงสาวตรงหน้าใบหน้าแดงระเรื่อ ก้มหน้าพูดอย่างเขินอายว่า: “รัชทายาทถามตรงๆแบบนี้ได้อย่างไรกัน”
รัชทายาทไม่เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อของนาง แต่กลับคิดว่านางอาจจะนึกถึงเรื่องราวที่ทำให้เสียใจแล้วน้ำตาไหล เขาอดไม่ได้พูดปลอบเสียงเบาว่า: “ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าจะทวงความยุติธรรมให้เจ้าได้อย่างไร”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินแล้วก็พยักหน้า แล้วพูดเสียงเบาว่า: “ท่านอ๋องเขา ป่าเถื่อนเกินไปแล้ว”
“ดังนั้นพี่สาวเจ้าพูดความจริงน่ะสิ?” รัชทายาทปกปิดความตื่นเต้นในใจไว้ไม่อยู่
“อืม” เฟิ่งชิงหัวก้มหน้าลงอีกครั้ง
“งั้นเจ้ากล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าเสด็จพ่อไหม?” รัชทายาทได้ทีก็เอาใหญ่ ขอแค่หนานกงเยว่ลั่วกล้าพูด งั้นครั้งนี้จ้านเป่ยเซียวต้องตายแน่
ถูกพระชายาคู่นอนข้างกายพูดเรื่องที่ว่าเขานกเขาไม่ขันออกมา ผู้คนก็ต้องเชื่อเป็นแน่ ถึงแม้ภายหลังจะรักษาได้แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ
ถึงตอนนั้น ถึงเสด็จพ่อจะรักเขามากแค่ไหน ก็คงไม่ขัดชาวประชาเพื่อเปลี่ยนรัชทายาทหรอก
“เจ้าพูดบ้าอะไรกัน ทั้งที่เจ้ากับอู๋หยานัดกันมาเจอที่นี่ ข้าช่วยพวกเจ้าดูต้นทางเพื่อรอเจ้า!” หนานกงเยว่หลีไม่เคยหมดแรงขนาดนี้มาก่อน ครั้งนี้พูดความจริงแต่กลับไม่มีความน่าเชื่อถือเลย
เฟิ่งชิงหัวส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง: “พี่สาวใหญ่ ข้ารู้ว่าพี่ไม่ชอบข้า ขนาดเรื่องแต่งงานของข้าพี่ยังแย่งไปเลย ข้าก็คิดเสียว่ายกงานแต่งที่แสนจะวุ่นวายให้ ก็เลยไม่ได้ว่าอะไรพี่ แต่ในเมื่อพี่แต่งกับรัชทายาทแล้ว ทำไมถึงอยากหนีกะทันหันล่ะ? หรือพอเวลานานเข้า พี่ถึงเห็นว่าคู่ชีวิตสำคัญมากกว่า? ไม่อยากแบ่งปันความรักของรัชทายาทกับผู้หญิงอื่นในอนาคต?”
รัชทายาทยืนเงียบไม่พูดไม่จา ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่สีหน้าที่มืดมนนั้นกลับเห็นได้อย่างชัดเจน
หนานกงเยว่หลีเดินไปจับแขนเสื้อของรัชทายาทไว้ แล้วพูดทั้งน้ำตาว่า: “รัชทายาท เยว่หลีพูดความจริงนะเพคะ เป็นน้องรองจริงๆ ข้าไม่รู้ว่าทำไมนางถูกโยนความผิดให้ข้า แต่ข้าไม่มีเหตุผลให้ทรยศท่านจริงๆนะ”
รัชทายาทไม่ได้สะบัดนางออก แต่กลับมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า: “เจ้าบอกว่าเจ้าไม่เคยคิดที่จะหนีตามชายอื่น แต่ข้ารับใช้เจ้ากลับบอกว่าเจ้ากับพี่เจ็ดยังไม่ได้เข้าเรือนหอ และยังถูกพี่เจ็ดทรมาน ดังนั้นเจ้าเลยอยากหนีออกไป ก็เลยมาขอความช่วยเหลือจากพี่สาวใหญ่”
เฟิ่งชิงหัวเบะปากพูดว่า: “รัชทายาทหูเบาขนาดนี้เชียว? คำพูดนินทาของข้ารับใช้ท่านก็เชื่อเหรอ พี่สาวใหญ่พวกนางไม่เข้าใจก็ช่างเถอะ หรือรัชทายาทก็ไม่เข้าใจด้วย? แค่มีร่องรอยบนตัวก็คือการถูกทำร้ายแล้วเหรอ? นั่นก็แค่คู่รักที่รักกันปานจะกลืนกิน นี่เรียกว่าความสนุกของคู่สามีภรรยา เจ้าเข้าใจหรือยัง?”
ว่าแล้ว เฟิ่งชิงหัวก็เลิกแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นถึงข้อมือเรียบเนียน ขาวจนเปล่งประกายแสบตา
“ยังไม่ได้เข้าเรือนหองั้นเหรอ จุดแดงพรหมจรรย์ก็หายไปแล้ว นี่ยังไม่ได้เข้าเรือนหออีกเหรอ?” เฟิ่งชิงหัวพูดอย่างไม่พอใจ
“งั้นที่เจ้าพูดก่อนหน้านี้หมายความว่าอะไร? เจ้าไม่ได้มาขอร้องข้าเหรอ?” รัชทายาทพูดอย่างควบคุมไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...