หนานกงเยว่หลีในตอนนี้อยากจะเข้าไปปิดปากนางไว้จริงๆ แต่ละคำที่พูดออกมานั้น แทบจะทำให้คนกระอักเลือดได้ ตอนแรกว่าจะอธิบายเรื่องนี้กับรัชทายาทสองคน แต่ตอนนี้พออยู่ต่อหน้าท่านอ๋องเจ็ดแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขากำลังรอคำตัดสินของรัชทายาทอยู่ นางรู้สึกร้อนรนใจมาก
หนานกงเยว่หลีลุกขึ้นมาจากพื้น ไม่สนใจผุ่นบนเสื้อผ้า: “รัชทายาท เยว่หลีมีอะไรจะพูดกับท่าน พวกเราไปหาที่เงียบๆคุยกันเถอะนะเพคะ?”
ด้านข้าง คำพูดของเฟิ่งชิงหัวดังขึ้นอีกครั้ง: “นั่นสิๆ รัชทายาท ท่านไปพูดกับพี่สาวใหญ่เถอะ ขอแค่พี่สาวใหญ่ข้าพูดจาหวานๆโน้มน้าวท่าน ท่านก็หายโกรธแล้ว ยังไงก็แค่หนีตามผู้ชายไม่สำเร็จก็เท่านั้น พี่สาวใหญ่ข้าเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมีเมตตาขนาดนั้น ไม่มีทางไปมั่วสุมกับผู้ชายอื่นง่ายๆหรอก เรื่องนี้ข้ารับรองได้”
รัชทายาทได้ยินแล้ว สายตาก็จ้องมองหนานกงเยว่หลีอย่างเย็นชา
“เปิดจุดแดงพรหมจรรย์ของเจ้ามาให้ข้าดู”
“พี่สาวใหญ่ พี่ดูสิ รัชทายาทใจกว้างแค่ไหน พี่รีบเปิดจุดแดงพรหมจรรย์พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพี่เร็วสิ แบบนี้ถ้ารัชทายาทหายโกรธแล้ว ก็จะไม่ยกเลิกงานแต่งกับพี่แล้วนะ พี่คงไม่โชคดีถึงขนาดขอให้รัชทายาทหาการแต่งงานที่ดีเหมือนอย่างของข้าหรอก” เฟิ่งชิงหัวนั่งข้างรถเข็นของจ้านเป่ยเซียว สองมือเท้าคาง ทำท่าเหมือนเป็นชาวบ้านมาดูคนทะเลาะกัน
จ้านเป่ยเซียวตลกกับคำพูดของเฟิ่งชิงหัว ยื่นมือไปลูบเส้นผมที่ยุ่งเหยิงของนาง เขาลูบหัวของนางอย่างอ่อนโยน เหมือนกำลังลูบหัวแมวตัวน้อย
เจ้าหมอนี่น่าจะทำอะไรกับหนานกงเยว่หลี ก็ถึงพยายามยั่วโมโหจ้านถิงเฟิง
ถ้าเป็นเมื่อก่อน จ้านถิงเฟิงที่ระแวงทุกคนมาโดยตลอดก็คงไม่ติดกับง่ายๆ ที่เขาพูดแบบนี้ออกมาได้ คงจะจิตใจไม่สงบอยู่ ก็ถึงเชื่อคำพูดของนาง
หนานกงเยว่หลีรีบยื่นมือไปจับข้อมือขวาไว้ มองดูชายหนุ่มตรงหน้า ต่อมาก็ถูกโล่งอก
นั่นสิ ขอแค่นางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจได้ ถึงเวลาค่อยอธิบายกับเขา เขาจะต้องเชื่อแน่
คิดได้แบบนี้ นางก็เลิกแขนเสื้อขึ้นช้าๆ เผยให้เห็นถึงข้อมือที่เนียนขาว
ผิวเรียบเนียนที่ตั้งใจบำรุงอย่างดี เหมือนผ้าไหมนุ่มๆ ตามด้วยแขนเสื้อที่ถูกเลิกขึ้น ผิวขาวเนียนนั้นก็เปล่งประกายมากขึ้น เลิกขึ้นจนถึงตรงแขน แขนขาวเนียนนั้นกลับสะอาดไม่มีสิ่งแปลกปลอมเลย จุดแดงที่ควรจะสะดุดตานั้นกลับหายไปแล้ว
หนานกงเยว่หลีตะลึง ต่อมาก็ไม่สนกิริยามารยาทใดๆ รีบพลิกมือตามหาไปมาอย่างเร็ว
แต่ทว่าแขนนั้นกลับไม่มีจุดใดๆเลย
“เป็นไปได้ยังไงกัน จุดแดงของข้าหายไปไหน?” หนานกงเยว่หลีพูดเสียงหลง
ต่อมานางก็เลิกแขนเสื้ออีกข้างขึ้นมา แต่ก็ไม่เห็นจุดแดงใดๆเลย
สีหน้าของรัชทายาทบึ้งตึง สายตาที่มองหนานกงเยว่หลีก็เต็มไปด้วยแรงอาฆาตที่เยือกเย็น
เฟิ่งชิงหัวไม่ลืมที่จะพูดซ้ำเติม นางพูดด้วยสีหน้าแปลกใจว่า: “พี่สาวใหญ่ จุดแดงของพี่หายไปไหนแล้วล่ะ หรือของจุดแดงวิ่งได้ด้วยเหรอ? พี่ลองไปถอดเสื้อผ้าหาในห้องดูไหม? อาจจะวิ่งไปอยู่บนหลังพี่แล้วก็ได้”
“รัชทายาท ท่านฟังข้าก่อนนะ ข้ายังบริสุทธิ์จริงๆ ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อคืนจุดแดงยังอยู่บนแขนข้าอยู่เลย” ทำไมถึงหายไปในคืนเดียวล่ะ
หนานกงเยว่หลีหันไปมองเฟิ่งชิงหัว: “ฝีมือเจ้าหรือเปล่า!”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินแล้วก็รีบก้มหน้า พูดอย่างน้อยใจว่า: “พี่สาวใหญ่ ทำไมพี่ถึงชอบโทษข้าอยู่เรื่อยเลย จุดแดงอยู่บนมือพี่ไม่ใช่หรือไง ข้าจะใช้เข็มจี้มันออกมาได้เหรอ? ถึงข้าจะทำได้ ก็ต้องทิ้งรอยแผลเป็นไว้สิ”
หนานกงเยว่หลียังอยากอธิบาย รัชทายาทอดทนมานานมากแล้ว: “พอแล้ว! หนานกงเยว่หลี เจ้ามันไร้ยางอาย หนีตามผู้ชาย ถูกข้าจับได้ เห็นแก่ที่หนานกงเฉิงเซี่ยงทำงานหนักมาหลายปี ข้าจะไม่ลงโทษเจ้า ส่วนเรื่องงานแต่งก็ยกเลิกซะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...