น้ำตาของหนานกงเยว่หลีตกลงมาอย่างรวดเร็ว นางกุมหน้าไว้แล้วส่ายหน้า: “ท่านพ่อ ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่ได้ทำจริงๆนะ”
ถ้าเป็นปกติ ฮูหยินเฉิงเซี่ยงคงเข้าไปทะเลาะกับเขาแล้ว แต่ตอนนี้ นางกลับกอดลูกสาวเอาไว้เฉยๆ ขอบตาก็แดงตามไปด้วย: “หลีเอ๋อร์โดนใส่ร้ายนะ จุดแดงพรหมจรรย์ของนางหายไป รัชทายาทก็ถึงสงสัยไงล่ะ ท่านช่วยเข้าไปไปอธิบายได้หรือไม่ ไปพูดแทนลูกสาวของเราหน่อย ราชโองการนี้ออกมา ลูกสาวของเราจะใช้ชีวิตยังไงต่อไปล่ะ?”
“จุดแดงพรหมจรรย์จะหายไปเฉยๆได้ยังไง?” เห็นได้ชัดว่าหนานกงจี๋ไม่เชื่อ
“จริงนะเจ้าคะ ท่านพ่อ เมื่อคืนยังอยู่อยู่เลย วันนี้ข้าไม่ทันระวัง จะต้องเป็นฝีมือหนานกงเยว่ลั่วแน่ๆ ต้องใช่นางแน่ๆ นางทำให้จุดแดงพรหมจรรย์ของข้าหายไป!” หนานกงเยว่หลีพูดอย่างโมโห
“ทำไมนาง……” หนานกงจี๋จะปฏิเสธ แต่ต่อมาก็นึกได้ว่านั่นไม่ใช่หนานกงเยว่ลั่วแต่เป็นเฟิ่งชิงหัว เขาก็ปวดหัวขึ้นมาทันที
ถ้าเป็นนางจริงๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้
“ก่อนหน้านี้นางแตะตัวเจ้าใช่หรือไม่?” หนานกงจี๋หรี่ตาถาม
หนานกงเยว่หลีคิดย้อนกลับไป แล้วรีบพยักหน้า: “ใช่เจ้าค่ะ นางจับมือข้านานมาก”
นางก็อึ้งไปสักพักใหญ่กว่าจะรู้ตัว หนานกงเยว่ลั่วในเมื่อก่อนไม่กล้าแตะต้องตัวนางด้วยซ้ำ วันนี้กลับควงแขนนางเดินอยู่นานมาก จะต้องเป็นฝีมือของนางแน่ๆ!
หนานกงจี๋สีหน้าบึ้งตึง สุดท้ายกลับถอนหายใจแล้วพูดว่า: “พวกเจ้าลุกขึ้นมาเถอะ ต่อไปอย่าไปหาเรื่องนางก็แล้วกัน นาง ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว”
หนานกงจี๋พูดจบ ก็ลุกขึ้นเดินจากไปทันที
คนที่คุกเข่าอยู่หน้าประตูจวนเฉิงเซี่ยงก็เดินออกไปตามๆกัน
หนานกงลู่ซิ่วที่ลุกขึ้นตามทุกคน ก็มองดูฮูหยินเฉิงเซี่ยงประคองหนานกงเยว่หลีออกไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นยะเยือก
กลับมาถึงห้อง หนานกงเยว่หลีก็จับมือฮูหยินเฉิงเซี่ยงไว้แน่น: “ท่านแม่ เป็นฝีมือของหนานกงเยว่ลั่วเป็นฝีมือของนาง!”
“นังชั้นต่ำนั่นบังอาจมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว เจ้าวางใจได้ แม่จะไปหานางที่จวนเอง แม่จะหาทางให้นางหาจุดแดงพรหมจรรย์คืนมาให้ได้ ในเมืองมีคุณชายที่คู่ควรเหมาะสมเยอะแยะไป เป็นพระชายาไม่ได้ เราก็ต้องแต่งเข้าตระกูลใหญ่โตให้ได้!” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงพูดอย่างเจ็บใจ
“ท่านแม่ ข้าจะไม่ปล่อยหนานกงเยว่ลั่วไว้ง่ายๆแน่ ต่อจากนี้ไป ไม่ข้าก็นางคนใดคนหนึ่งจะต้องตายกันไปข้าง!”
“เจ้าวางใจได้ แม่จะไม่ปล่อยนางไปแน่ คิดว่าแต่งกับท่านอ๋องแล้วจะไม่ไว้หน้าพวกเราแล้วงั้นเหรอ นางคิดว่านางเป็นใครกัน ก็แค่นังชั้นต่ำที่ฝากเลี้ยงภายใต้นามของข้าก็เท่านั้น” ฮูหยินเฉิงเซี่ยงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จวนเฉิงเซี่ยงยังคงตกอยู่ในความเศร้าที่รัชทายาทขอยกเลิกงานแต่ง ฮ่องเต้เขียนราชโองการ แต่ทางด้านจวนอ๋องเฉินกลับสงบมาก
เฟิ่งชิงหัวกลับไปถึงจวนก็ให้คนจัดเตรียมอาหารโต๊ะใหญ่ไว้ จ้านเป่ยเซียวเพิ่งเข้าบ้านก็ถูกฝ่าบาทเรียกตัวเข้าเฝ้า แต่นี่ก็ไม่กระทบถึงอารมณ์การกินข้าวของนาง กินจนอิ่มแทบจะเดินไม่ไหวแล้ว นางก็ถึงหยุดกิน
นั่งพักผ่อนสักพักก็ถึงลากชุดยาวๆหนักๆของตัวเองกลับไปที่ห้องตัวเอง
ถอดเสื้อผ้าอันหนักอึ้งเสร็จแล้ว เฟิ่งชิงหัวก็ถึงรู้สึกโล่ง นางพิงไปที่หมอนนุ่มๆ ก็ถึงมองไปยังม่านเฉ่าที่กำลังเก็บกวาดห้องอยู่
“ม่านเฉ่า”
“พระชายามีรับสั่งอันใดหรือเจ้าคะ” ม่านเฉ่าเดินเข้าไปหาอย่างเคารพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...