พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว นิยาย บท 65

หลิวหยิ่งเดินออกมาจากในห้องอย่างใจลอย จู่ ๆ ก็ต้องตกใจเพราะใบหน้าของคนคนหนึ่งที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน

“พระชายา ? ท่านไปแล้ว......” ไปแล้วหรือ ?

เฟิ่งชิงหัวส่งเสียง “จุ๊ ๆ” จากนั้นจึงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ : “ท่านอ๋องของพวกเจ้าอาบน้ำเสร็จแล้วหรือ ?”

“ท่านรู้ได้อย่างไร ?” หลิวหยิ่งรู้สึกสงสัย

เฟิ่งชิงหัวหัวเราะ : “ข้าแค่คาดคะเนดูเท่านั้น ท่านอ๋องของพวกเจ้าอาบน้ำนานใช้ได้เลยนะ”

หลิวหยิ่งพยักหน้า เฟิ่งชิงหัวตบไหล่ของเขา เปิดประตูห้อง และปะหน้าเข้ากับชายหนุ่มทันที

ตอนนี้จ้านเป่ยเซียวเปลี่ยนไปสวมใส่อาภรณ์สีดำ ตัดเย็บอย่างประณีต เผยให้เห็นรูปร่างอันสูงโปร่งขิงชายหนุ่ม

ผมที่ยาวสลวยปกคลุมโครงหน้าด้านซ้ายได้อย่างงดงามสมบูรณ์แบบ ราวกับเป็นภาพวาดที่วาดโดยจิตรกรชั้นเอกของโลก คิ้วที่โก่งได้รูป จมูกดูสันเป็นคม ริมฝีปากที่ค่อนข้างบางฉาบด้วยสีชมพูระเรื่อ

จู่ ๆ หัวใจของเฟิ่งชิงหัวก็เต้นตึกตักขึ้นมา !

ลือกันว่า ก่อนที่จ้านเป่ยเซียวจะเกิดเรื่องขึ้น เขาเคยเป็นชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่ารูปงามที่สุดในเทียนหลิง ปรากฏว่าไม่ใช่เรื่องโกหก

เฟิ่งชิงหัวรีบวิ่งไปตรงหน้าชายหนุ่ม เพื่อดูโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา ไม่แน่ว่าที่บอกว่าผู้ชายคนนี้เสียโฉม อาจเป็นเรื่องโกหกก็ได้

ใบหน้าด้านหนึ่งของจ้านเป่ยเซียวถูกเส้นผมปิดบังอยู่อย่างมิดชิด เฟิ่งชิงหัวยื่นมือออกมาโดยไม่รู้ตัว คิดจะเปิดเส้นผมที่บดบังสายตาออก

ในขณะที่เฟิ่งชิงหัวสัมผัสกับเส้นผมของชายหนุ่ม จู่ ๆ ข้อมือก็ถูกมือขนาดใหญ่และเย็นเฉียบจับไว้แน่น แววตาอันเย็นชาของชายหนุ่มประสานกับแววตาของนาง

“รนหาที่ตายหรือ ?” น้ำเสียงของชายหนุ่มดุดัน แฝงไปด้วยความอำมหิตเล็กน้อย

เฟิ่งชิงหัวพยายามดิ้นแต่ดิ้นไม่หลุด จึงพูดออดอ้อนขึ้นว่า : “โอ๊ย ท่านอ๋อง ท่านทำข้าเจ็บแล้วนะ”

“สนุกนักหรือ ?” จ้านเป่ยเซียวคิดไม่ถึงเลยว่าหญิงสาวคนนี้จะใจกล้าเช่นนี้ ยังกล้าปรากฏตัวขึ้นอีก

เฟิ่งชิงหัวกล่าวอย่างน้อยใจ : “ท่านอ๋อง ที่หม่อมฉันทำเช่นนี้ ก็เพราะเกรงว่าท่านอ๋องจะไร้น้ำยาอย่างเช่นที่คนภายนอกร่ำลือกันจริง ๆ นี่เพคะ อย่างไรเสียหม่อมฉันเองยังต้องอยู่ร่วมกับท่านอ๋องอีกยาวไกล หากท่านอ๋องเป็นเช่นนั้นจริง ชาตินี้ไม่เท่ากับว่าหม่อมฉันคงเป็นได้เพียงพระชายาในนามหรือเพคะ ?”

จ้านเป่ยเซียวได้ยินดังนั้น เส้นเลือดตรงขมับก็ปูดโปนขึ้นมา เขากัดฟันแล้วพูดว่า : “หุบปาก !”

“ท่านอ๋อง จู่ ๆ หม่อมฉันก็นึกขึ้นได้ว่าท่านอ๋องยังไม่ทรงเสวยอะไรเลย จึงเป็นห่วงวรกายของพระองค์ ดังนั้นจึงมาเสวยเป็นเพื่อนพระองค์” เฟิ่งชิงหัวจ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า ดวงตากลมโตที่ดูไร้เดียงสาคู่นั้น

จ้านเป่ยเซียวหมดความอดทน : “พูดให้มันดี ๆ !”

“ข้าหิวแล้ว ขอกินข้าวด้วยได้ไหม” เฟิ่งชิงหัวมุ่ยปากแล้วพูดขึ้น หากไม่ใช่เพราะห้องครัวเล็กของนางไม่ได้ทำอาหาร นางคงไม่กระโดดลงไปในกับดักที่ผู้อื่นวางไว้หรอก

ใครใช้ให้จวนอ๋องที่ยิ่งใหญ่ มีการควบคุมดูแลที่แน่นหนาขนาดนี้ แม้กระทั่งอาหารทุกชนิดที่ออกมาจากครัว ก็ยังมีการจดบันทึกเอาไว้ ตั้งแต่ที่นางเปิดห้องครัวเล็กขึ้นมา ห้องครัวใหญ่ก็ไม่เตรียมอาหารในส่วนของนางอีกต่อไป

จวนอ๋องอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ช่างจู้จี้จุกจิกเสียจริง ๆ

ความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ทั่วร่างของจ้านเป่ยเซียว ถูกทำให้หายไปด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวของเฟิ่งชิงหัว เขามองพิจารณาเฟิ่งชิงหัวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาประหลาดใจ สุดท้ายสายตาก็หยุดลงตรงท้องน้อยของเฟิ่งชิงหัว

เอวนี้ดูเหมือนเขาใช้มือเพียงข้างเดียวก็สามารถบิดจนขาดได้ ทำไมถึงได้กินจุขนาดนั้นนะ นางเก็บกระเพาะเอาไว้ตรงไหนกันแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว