เห็นทั้งสองคนเดินเข้าห้องวีไอพีไปแล้ว เจียงเยว่ถงก้มหน้ามองอาหารที่ตัวเองชอบสามสี่อย่างบนโต๊ะอาหารแวบหนึ่งแล้ว แต่เพราะว่าใจลอย ไม่มีอารมณ์ทานอาหารจริงๆ
เรื่องฉาวในบ้านอย่าเล่าให้คนอื่นฟัง หากว่าเรื่องนี้ถูกกระจายออกไป งั้นเขาซุนเย่าเหวินกลายเป็นที่น่าหัวเราะเยาะในซงไห่แล้วจริงๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นแอบฟัง การเหมาห้องวีไอพีเป็นสถานที่ที่ดีที่สุด
หลังจากที่ทั้งสองคนเข้าห้องวีไอพีไป ไม่นานก็มีบอดี้การ์ดสี่คนคุ้มกันไว้หน้าห้องวีไอพีอย่างแน่นหนา เห็นได้ชัดว่าเป็นคำสั่งพิเศษของซุนเย่าเหวิน
เจียงเยว่ถงมองไปยังประตูห้องวีไอพีที่ปิดสนิท สายตาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจอีกแล้ว
คิดไม่ถึงว่าจะพูดคุยเป็นการส่วนตัว?แถมยังเป็นความลับขนาดนี้?
ถ้าหากพูดว่าความอยากรู้ในเมื่อก่อนของเจียงเยว่ถงถึงจุดสูงสุดแล้ว ในเวลานี้ ความอยากรู้ของเธอยิ่งจะถึงขอบเขตที่จะระเบิดแล้วโดยสิ้นเชิง!
เธอตัดสินใจ รอฉินเฟยออกมา จะต้องซักถามให้สารภาพออกมา!
……
……
นี่เป็นห้องวีไอพีขนาดเล็ก ตกแต่งอย่างงดงามประณีต
หลังจากซุนเย่าเหวินเดินเข้าไป เดินไปข้างหน้าต่างเพื่อปิดหน้าต่างให้สนิทก่อนแล้ว
หันกลับมานั่งบนโซฟา ลูบกล่องบุหรี่ด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก จุดบุหรี่หนึ่งมวน โยนบุหรี่ให้ฉินเฟยทั้งกล่องทันที
เพราะว่าเมื่อก่อนอยากมีลูกและไม่มีลูกมาตลอด ซุนเย่าเหวินเลิกบุหรี่ไปตั้งนานแล้ว และหลังจากมีลูกแล้ว กลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของลูก ปกติก็สูบน้อยอย่างมาก จะบังคับตัวเองให้สูบมากที่สุดวันละ2-3มวน
แต่ว่าเขาจะพกบุหรี่สติดตัวไว้หนึ่งกล่องเป็นปกติ ประเด็นหลักคือเตรียมไว้ให้ลูกค้าในการพบปะสังสรรค์ที่ไปมาหาสู่กัน
และเขาโยนบุหรี่ให้ฉินเฟยทั้งกล่อง ดูเหมือนว่าเป็นการกระทำตามอารมณ์ แต่กลับว่ามองฉินเฟยว่ามีฐานะเท่ากันกับตัวเองแล้ว
ซุนเย่าเหวินพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวงแหวนอย่างเงียบๆ สายตามองไปยังฉินเฟยอีกครั้ง……
“ผมไม่สูบุหรี่”ฉินเฟยยื่นมือออกไปค่อยๆผลักกล่องบุหรี่ไปตรงหน้าของซุนเย่าเหวินอีก พูดออกเสียงว่า : “เถ้าแก่ซุนนี่คือเชื่อในคำพูดของผมแล้วเหรอ”
“ไม่ได้เชื่อทั้งหมด แต่ว่าอย่างน้อยก็มีอย่างหนึ่งที่นายพูดถูกแล้ว เธอพูดโกหกกับฉันแล้ว อีกอย่างฉันเพิ่งถามคนเขามา โจวต้าเฉียงไม่ใช่น้องชายแท้ๆของเธอจริงๆด้วย”ซุนเย่าเหวินพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ฟังน้ำเสียงไม่ออกว่าอารมณ์ไหน
เรื่องที่ทั้งสองคนไม่ใช่พี่น้องแท้ๆจริงๆแล้วก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร คนในหมู่บ้านของพวกเขาส่วนใหญ่ก็รู้กันหมด แค่ถามก็รู้แล้ว เพียงแค่ซุนเย่าเหวินไม่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้เป็นพิเศษ รู้เพียงแค่ว่าโจวฉ่ายเวยเกิดในครอบครัวชนบทธรรมดาๆ แต่ว่าตอนนั้นโจวฉ่ายเวยคลอดลูกชายให้เขา อีกอย่างตรวจDNAแล้วเป็นลูกชายของตัวเอง ก็ยิ่งไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว
นี่ก็เป็นเรื่องปกติ
อีกอย่าง ตอนนี้ซุนเย่าเหวินยังคงไม่เต็มใจที่จะเชื่อ ถึงยังไงจะมีใครยอมรับว่าตัวเองถูกสวมเขามานานถึงเจ็ดปี ถึงขั้นเลี้ยงลูกของคนอื่นมาเจ็ด ปีแล้วบ้างล่ะ?
ยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายสุดท้ายที่ทำเรื่องทั้งหมด คือการวางแผนเพื่อให้ได้ทรัพย์สิน!
ส่วนเรื่องอื่นๆ ซุนเย่าเหวินยังคงตรวจสอบ
จริงๆตอนนี้เขากำลังรอผล อีกอย่างอยากจะรู้ว่าฉินเฟยยังรู้เรื่องอะไรอีกบ้าง
ตัวฉินเฟยเองเดิมทีก็ทำให้เขารู้สึกลึกลับอยู่แล้ว ส่วนเศษสวะชนบทในข่าวลือ เขาไม่เชื่อเลยสักนิด
คุณภาพทางจิตและวิธีการจัดการเรื่องเช่นนี้ ถิ่นเกิดไม่ธรรมดาแน่นอน!
“ฉันยังมีบางอย่างที่อยากรู้ นายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?”ซุนเย่าเหวินมองฉินเฟยพร้อมพูดถาม สายตาเฉียบคม เหมือนว่ามองเขาออกหมดทุกอย่าง : “นายเป็นใคร ทำไมต้องบอกเรื่องพวกนี้กับฉันด้วย?”
“เถ้าแก่ซุน จริงๆแล้วสิ่งที่ผมรู้ไม่ใช่แค่เรื่องเหล่านี้ แต่ผมเชื่อว่าคุณเองก็รู้สึกได้ เรื่องในวันนี้แม้ว่าจะมีส่วนที่บังเอิญอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้บังเอิญทั้งหมด ผมแค่อยากจะยืมใช้โอกาสนี้แสดงความเป็นมิตรกับเถ้าแก่ซุน พวกเราไม่ใช่ศัตรูกัน ”
“แน่นอน พวกเราไม่ใช่อยู่แล้ว”ซุนเย่าเหวินพยักหน้า
เขาก็ไม่ใช่คนโง่ เข้าใจได้ว่าวิธีการทำของฉินเฟยนั่นคือกำลังช่วยเหลือตัวเองอยู่ ไม่เช่นนั้นรอเขาอายุหนึ่งร้อยปี ตระกูลซุนที่เขาพยายามอย่างหนักมาทั้งชีวิต บางทีอาจจะเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลแล้วจริงๆ
“ส่วนผม เป็นเพียงแค่เศษสวะตระกูลเจียงที่แต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิงเท่านั้น เถ้าแก่ซุนไม่จำเป็นต้องสนใจ อีกอย่าง ตอนนี้คุณควรที่จะเป็นกังวลเรื่องของตัวเองมากกว่า”
ซุนเย่าเหวินมองไปยังฉินเฟย เห็นเขามักจะมีท่าทางที่ยิ้มกริ่มและเงียบสงบอยู่เสมอ
เขามองวัยรุ่นผู้นี้ไม่ออก!
ฉินเฟยทำให้เขาค่อนข้างรู้สึกแปลกประหลาด กี่ปีแล้ว น้อยมากที่จะมีคนกล้าใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับเขา
โทนเสียงและความสุขุมนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปมีได้
และเจียงเฟิ่งหยุนเกิดเป็นทหาร ลูกสาวของเขาโดดเด่นมากแค่ไหน สวยแค่ไหนล้วนแต่เห็นประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน จะแต่งงานกับเศษสวะได้ยังไงกัน?
ซุนเย่าเหวินคาดเดาเบื้องหลังของฉินเฟยอยู่ในใจ แม้ว่าวันนี้ชายหญิงเท่าเทียมกัน มีความรักอย่างอิสระ แต่นั่นเป็นเพียงแค่สำหรับคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น และในตระกูล แทบจะน้อยมากที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ยังจะต้องให้ความสนใจกับครอบครัว ฐานะทางสังคมของชายและหญิงที่จะสมรสกัน
ไม่ว่ายังไงตระกูลเจียงก็เป็นตระกูลที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง เจียงเยว่ถงเป็นสาวสวยอันดับหนึ่งในรุ่นนี้ของตระกูลเจียงอีก ไม่เพียงแค่หน้าตาสละสลวย แถมยังมีความสามารถโดดเด่น จะแต่งงานกับคนธรรมดาได้ยังไงกัน?
และฉินเฟย มาจากตระกูลใหญ่ หรือไม่ก็มีสถานะที่พิเศษ
แต่ว่า สิ่งเหล่านี้ซุนเย่าเหวินไม่ได้สนใจเลย
เขาคบหาเพื่อนไม่เคยดูพื้นฐานทางครอบครัวของอีกฝ่ายเลย เพราะงั้นฉินเฟยมีตัวตนอะไรกันแน่ เขาแค่อยากรู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อีกอย่าง ตอนนี้เขาสนใจเรื่องของตัวเองมากกว่า
“เรื่องนี้……นายเคยพูดกับคนอื่นบ้างไหม?”ซุนเย่าเหวินพูดถามอีกครั้ง
“ไม่เคยนะ”ฉินเฟยส่ายหน้าพร้อมพูด: “แต่ว่า เมื่อกี้เยว่ถงมาขึ้นมาแล้ว”
ฉินเฟยพูดด้วยความสัตย์จริง พูดคุยกับคนอย่างซุนเย่าเหวินแบบนี้ ถ้าหากไม่มีความมั่นใจที่แท้จริง งั้นทางที่ดีที่สุดคือซื่อสัตย์หน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)