จิตใจของฉินเฟยอยู่ในความสับสนวุ่นวาย ได้แต่กำลังลังเลว่าจะเป็นคนหรือสัตว์เดรัจฉาน!
ขงจื๊อกล่าวไว้ว่า: การขโมยอาหารก็เหมือนสัตว์ร้าย แต่ถ้ามีหญิงสาวสวยอยู่ต่อหน้าคุณ ถ้าคุณไม่กินมัน คุณก็ไม่ดีไปกว่าสัตว์เดรัจฉาน!
ฉินเฟยพยักหน้า แล้วยิ่งรู้สึกว่าคำพูดของขงจื้อมีเหตุผล
“ติ๊งต่อง”
เวลานี้เอง รูปโปรไฟล์ของเสิ่นเจียเหวินก็สั่นไหวอยู่หลายครั้ง“หลิวป๋อเหวินเป็นคนพาล หลายวันมานี้นายจะต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ วันนี้โชคดีที่มีนาย แต่ว่านะฉันไม่พูดขอบคุณหรอกนะ หึ เพราะนายแตะอั๋งฉันไปทั้งตัวแล้ว”
เมื่อเห็นเสิ่นเจียเหวินส่งข้อความมา ฉินเฟยก็หน้าแดงอีกครั้ง
รูปโปรไฟล์ของเสิ่นเจียเหวินเหมือนกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำแก้มป่องปากบูดเบี้ยวผมเปียท่าทางเหมือนคนกำลังโกรธอย่างน่ารัก เป็นการยากที่จะจินตนาการว่าบุคคลในวีแชท เป็นผู้หญิงมืออาชีพที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์
โดยเฉพาะชื่อเล่นวีแชทของเธอทำให้ฉินเฟยยิ่งรู้สึกขำ——ชิงอีคนขี้เซา!
จะเห็นได้ว่าผู้หญิงคนนี้ชอบนอนเพียงใด แต่เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าไม่นอนจะมีรูปร่างหน้าตาสวยขนาดนี้ได้อย่างไร และสิ่งที่กินเข้าไปมันไปอยู่ที่ไหน
ทั้งๆที่เซ็กซี่มีเสน่ห์ แต่กลับมีด้านที่น่ารัก ฉินเฟิยไม่รู้จริงๆว่าจะเวทนาสงสารหญิงสาวที่ชีวิตขมขื่นผู้นี้อย่างไร
ฉินเฟยเดินไปตามถนนนอกชุมชนชั่วขณะ จากนั้นเขาก็ระงับความร้อนที่แผดเผาในใจของเขาได้ เสิ่นเจียเหวืนไม่เหมือนกับเจียงเยว่ถง เธอสามารถอยู่นิ่งๆไม่ขยับ ขณะที่ตนเองรังแกเธออยู่ แต่เจียงเยว่ถงไม่อาจทำได้ ถ้าสัตว์ร้ายในกายของเขาไม่อาจระงับควบคุมได้ แล้วกลับไปทำท่ามือไม้อยู่ไม่สุขกับเจียงเยว่ถง
เขาไม่เคยลืมเขาไปสัมผัสโดนของที่ไม่ควรสัมผัส และก็ถูกเจียวเยว่ถงถีบจนตกเตียง
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ฉินเฟยก็รีบหาเบอร์โทรศัพท์ของเจียวเยว่ถง แล้วโทรออกทันที
เสียงโทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้ง ฉินเฟยได้ยินเจียงเยว่ถงพูดด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ
“หึๆ เมียจ๋ามีอะไรหรอครับ?”ฉินเฟยพยายามทำให้น้ำเสียงเป็นธรรมชาติที่สุด
“นายทำอะไรลงไป?”เสียงของเจียงเยว่ถงที่อยู่ปลายสายรู้สึกโกรธเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกไม่พอใจที่ฉินเฟยตัดสายไป
“ผมกำลังออกกำลังกาย”ฉินเฟยกล่าว ด้วยความตื่นเต้น เจียงเยว่ถงมาถึงก็ถามว่าเขาอยู่ไหน ทำให้หัวใจที่รู้สึกกังวลใจยิ่งรู้สึกกลัวมากยิ่งขึ้น เขาคิดในใจว่าตนพึ่งเตรียมจะแอบแซ่บกับคนอื่น คงไม่ได้ถูกเมียจับได้หรอกนะ?
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่ซูเปอร์ นายยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม คืนนี้จะกินอะไรล่ะ?”
หลายวันมานี้ฉินเฟิยเอาแต่ออกกำลังกาย ในหลายๆครั้งจะออกกำลังกายจนดึกดื่น จุดนี้เจียงเยว่ถงรู้ดี เมื่อได้ยินเขาอธิบายจึงไม่โกรธอีก เพียงแต่น้ำเสียงยังคงเรียบเฉย
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ฉินเฟยกลับเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ตอนนี้ยังไม่ถึงหนึ่งทุ่มเลยนะ จากลักษณะนิสัยการทำงานของเจียงเยว่ถงในหลายวันที่ผ่านมาเธอมักจะทำโอทีไม่ใช่หรอ ทำไมถึงไปซูเปอร์ได้ล่ะ?อีกทั้ง ตกลงผู้หญิงคนนี้เป็นอะไร?ถามตนว่าอยากกินอะไร?หรือเธอจะลงมือทำอาหารให้เขากิน?
โอ้โห พระอาทิตย์ขึ้นมาจากทิศตะวันตกแล้ว แต่งงานมาสามปี ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยเข้าครัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว คาดว่าประตูห้องครัวอยู่ไหนเธอคงลืมไปแล้ว ถึงแม้จะตกใจ แต่ฉินเฟยก็รู้สึกดีใจมาก รู้สึกความมีความสุขมาก
หลังจากสามปีแห่งความยากลำบาก วันของตัวเองก็มาถึงแล้ว ?
“ช่างเถอะ ฉันซื้อเองแล้วกัน”ไม่รอให้ฉินเฟยตอบกลับ เจียงเยว่ถงก็พูดประโยคหนึ่งแล้วตัดสายไป
ไกลออกไปประมาณห้ากิโลเมตรมีซูเปอร์ขนาดใหญ่เจียงเยว่ถงที่สวมชุดกระโปรงทำงานถึงกับขมวดคิ้ว เมื่อมองดูผักและเนื้อสัตว์ที่อัดแน่นอยู่ตรงหน้า ด้วยความกังวล
ตั้งแต่เล็กจนถึงโตเธอยังไม่เคยเข้าครัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่หลังจากที่แต่งงานมาหลายวันก็มีแต่ฉินเฟยเป็นคนซื้อของในบ้าน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรซื้ออะไร ดังนั้นหลังจากที่เดินไปรอบหนึ่งพึ่งนึกได้ว่าต้องโทรสอบถามฉินเฟย
ที่แท้เธออยากจะโชว์ฝีมือปลายจวักของตัวเองเพื่อเป็นรางวัลให้กับผู้ชายคนนี้ แต่ตาบ้านี่กลับไม่พูดอะไรสักคำ
เจียงเยว่ถงส่ายหัวไปมา แล้วพูดในใจ:ช่างเถอะ ในเมื่อมาแล้ว งั้นก็ซื้ออย่างละนิดอย่างละหน่อยแล้วกัน แบบนี้ไม่ว่าไอ้หมอนี่จะชอบกินอะไรก็จะได้กินทั้งหมด
มือเล็กๆของเจียงเยว่ถงผลักรถเข็นไปตรงหน้า เข้าไปสู่กลุ่มฝูงชนบรรดาป้าๆ เริ่มซื้อผักครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกของชีวิต……
หลังจากเดินออกจากชุมชนหมิงเจียฮุ่ย ฉินเฟยก็พึ่งสังเกตเห็นว่าไม่ไกลจากหมู่บ้านเทียนหลันมีถนนสองเส้น
“ติ๊งต่อ……”เวลานี้เอง ชิงอีคนขี้เซาส่งข้อความมาอีกครั้ง
ฉินเฟยเปิดข้อความอ่านด้วยความประหลาดใจ
“คืนนี้ฉันอาบน้ำไม่ได้จริงๆ?แต่ถ้าไม่อาบฉันก็รู้สึกไม่สบายตัว”เสิ่นเจียเหวินพูดจบ ด้านหลังก็มีตัวอิโมจิน่าสงสาร
ฉินเฟยตอบกลับอย่างทำอะไรไม่ได้“ถ้าเธออาบน้ำจะต้องใช้น้ำร้อนแน่ ถือซะว่าเป็นการประคบร้อน ซึ่งจะทำให้ข้อเท้าของเธอบวมขึ้น”
“งั้นฉันก็ยื่นเท้าออกไปนอกอ่างก็พอแล้วหนิ?”
ฉินเฟย“……”
ฉินเฟยพูดไม่ออก จึงพิมพ์ไปสี่คำ“ฉลาดจริงๆ!”
“ฉันไม่สนใจหรอก ฉันถอดเสื้อผ้าแล้ว”
ไม่เป็นไรใช่ไหม?
ฉินเฟยยกมือขึ้นสูดดมเสื้อผ้าของตัวเองพบว่านอกจากกลิ่นเหงื่อแล้วไม่มีกลิ่นอย่างอื่นของผู้หญิงเลย
ฉินเฟยรู้สึกผิดในใจ เจียงเยว่ถงไม่สืบสาวราวเรื่องต่อ แน่นอนว่าเขาไม่กล้าพูดอะไร
เขาเอียงหัวมองไปทางห้องครัว ถึงจะไม่เชื่อว่ามันนี่เป็นความจริง แต่เมื่อเจียงเยว่ถงเดินเข้าไปในห้องครัวก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย อีกทั้งด้านในมีเสียงของก๊อกน้ำดังขึ้น ‘ซู่ๆ’เจียงเยว่ถงกำลังล้างผัก
ตอนแรกฉินเฟยที่คิดว่าเจียงเยว่ถงจะซักไซ้ถึงกับก่นด่าตัวเอง ยิ่งมั่นใจว่าการแสดงออกของเจียงเยว่ถงในวันนี้จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน เขาอยากเข้าไปถามในครัว แต่ก็กลัวว่าตัวเองยังไม่ทันเข้าไป ก็มีดบินปลิวลอยมาปักใส่หัวของเขา
เขายืนอยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเจียงเยว่ถงไม่ได้ปามีดออกมาจากด้านใน ในที่สุดเขาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วเหลือบมองอยู่ข้างๆประตู นอกจากกระเป๋าของเจียงเยว่ถงแล้ว ยังมีชุดนอนสีเทาชุดหนึ่งวางอยู่บนเคาน์เตอร์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นของผู้ชาย
หรือว่าเธอจะซื้อชุดนอนชุดนี้ให้เขา?เมื่อคิดได้ดังนั้น ฉินเฟยก็ถุงออกเพื่อวัดตัว และปรากฏว่ามันถูกต้อง เขามองขึ้นไปทางห้องครัวและยิ่งงงเข้าไปอีก
ในขณะเดียวกันก็อดที่จะคิดไปไกลไม่ได้ เจียงเยว่ถงคงไม่ได้ทำผิดต่อเขาใช่ไหม?ไม่อย่างงั้นจู่ๆทำไมถึงทำอาหารค่ำและซื้อชุดนอนให้เขาล่ะ?
แต่ว่าพอมานึกๆดูแล้วก็เป็นไปไม่ได้นินา เป็นคู่สามีภรรยากันมาสามปี ฉินเฟยรู้ดีว่าเจียงเยว่ถงเป็นผู้หญิงอย่างไร เธอซื่อสัตย์ต่อความสัมพันธ์ของเธอมาก แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกอะไรต่อกัน
ในห้องครัวมีเสียงดัง‘เพร้งพร้างๆ’ลอดออกมา ฉินเฟยรู้สึกแปลกใจมาก ไม่รู้ว่าเจียงเยว่ถงกำลังต่อสู้กับกับอะไรด้านใน แต่เขาก็ไม่กล้าพอที่จะเข้าไปดู โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงคำพูดของเจียงยว่ถง เขารีบเข้าไปหยิบเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วเข้าห้องน้ำไป
หลังจากอาบน้ำแล้ว ฉินเฟยก็เปลี่ยนชุดนอน และนำชุดที่เจียงเยว่ถงซื้อให้ตนไปในเครื่องซักผ้า
เมื่อเดินออกจากห้องน้ำ เอียงศีรษะเพื่อดูเสียงวุ่นวายในครัว ฉินเฟยยิ้มอย่างรู้เท่าทัน เมื่อเทียบกับประสบการณ์ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ตอนนี้เขาเหมือนผู้ชายมากขึ้นเรื่อยๆสำหรับครอบครัว และเจียงเยว่ถงก็เป็นภรรยาที่ดีมากขึ้น ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาสามีภรรยาอยู่ในบ้านด้วยกันแบบนี้ทุกวัน มันก็คงไม่ไกลจากอนาคต?
อีกอย่าง ก่อนหน้านี้พ่อตาบอกแล้วว่า ให้ตนกับเจียงเยว่ถงรีบมีลูกกัน
ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อนึกถึงสิ่งนี้แล้วทำให้ฉินเฟยรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
ฉินเฟยนั่งอยู่บนโซฟาและนึกขึ้นได้ว่าในมือของเขามีกล่องหรูอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเขาเปิดออก ก็พบชุดนอนสีม่วงอ่อนอยู่ด้านใน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นของเจียงเยว่ถงที่เพิ่งซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตเช่นกัน
เขายื่นมือไปลูบเนื้อผ้าเบาๆ แม่เจ้าโว้ย ผู้หญิงคนนี้ไม่ทำให้ตัวเองเสียเปรียบจริงๆ ชุดนอนชุดนี้มันแพงกว่าชุดของตัวเองแพงมากกว่าครึ่ง
“ห๊ะ……”ฉินเฟยกำลังพูดพึมพำ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของเจียงเยว่ถง เสียงไม่ดังมาก แต่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ฉินเฟยสะดุ้ง เขากระโจนขึ้นโดยสัญชาตญาณ เร่งฝีเท้าไม่กี่ก้าว และปรากฏตัวที่ประตูห้องครัวในทันที……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)