รถเบนท์ลี่ย์ อาร์วีสีดำขับเคลื่อนไปตามเส้นทางคดเคี้ยวบนทางหลวง
ภายในรถ มีเด็กสองคนนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
เรนนี่ถือขวดนมอยู่ในมือและดูดเป็นครั้งคราว
ในขณะที่เจสันกำลังขับรถไป เขาก็เหลือบมองเด็กสองคนที่นั่งอยู่บนเบาะด้านหลังจากกระจกมองหลัง และมีกระเป๋าเดินทางสพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์อยู่ถัดจากพวกเขาไป
เมื่อมองจากกระเป๋าเดินทางของบลองช์แล้ว ดูเหมือนว่าเขากำลังหนีออกจากบ้าน
เจสันไม่รู้ว่าเขาควรทำเช่นไรกับพฤติกรรมของเด็ก ๆ และไม่รู้ว่าควรจะรายงานให้เจ้านายทราบดีหรือไม่
หลังจากที่ครุ่นคิดเรื่องนี้ระหว่างทาง เจสันก็ตัดสินใจที่จะไม่โทรหาเจ้านายของเขา เขาต้องการพาเด็ก ๆ ไปหาเบียงก้าและดูปฏิกิริยาของเธอก่อนที่เขาจะรายงานให้เจ้านายของเขาทราบในภายหลัง
“ยังไงพี่ก็ไม่กลับ แล้วเธอล่ะ?” บลองช์ถามน้องสาว
“หนูก็ไม่กลับไปเหมือนกัน เราไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ยังดีซะกว่ากลับไปอยู่บ้านอีก” เรนนี่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังโตโดยที่แทบจะไม่ได้พบพ่อของเธอเลย ไม่เพียงเท่านั้น ที่คฤหาสน์ยังมีคุณย่าสองคนที่ชอบทะเลาะกันอยู่เสมออีกด้วย
คนเดียวที่เด็ก ๆ จะคิดถึงก็คือคุณปู่
เจสันเฝ้าดูการสนทนาของเด็ก ๆ จากนั้นเขาก็ต้องรู้สึกปวดหัว
ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่สามารถจัดการเรื่องภายในครอบครัวของเจ้านายของเขาได้อยู่ดี
...
ภายในร้านอาหาร
เบียงก้าและเบรย์เดนกำลังนั่งคุยกันอยู่
เบรย์เดนเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ การแต่งตัวของเขาไม่เหมือนคนร่ำรวย แต่เขาก็ไม่ได้ดูเหมือนคนยากจน เขาดูเหมือนคนมีฐานะปานกลางทั่วไป
“ในเมื่อคุณทำงานที่บริษัท ที คอร์ปอเรชั่น ถ้าคุณไม่รังเกียจ ให้ผมไปรับไปส่งคุณที่ทำงานก็ได้นะครับ” เบรย์เดนเอ่ยถามเบียงก้าอย่างเปิดเผย
แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเบียงก้าจะเต็มใจให้เขาทำเช่นนั้นหรือไม่
เมื่อเบรย์เดนสังเกตเห็นว่าเธอไม่ตอบสนอง เขาก็ยิ้มอย่างเคอะเขินและกล่าวต่อว่า “มันคงเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ใช่ไหมครับ? ไม่เป็นไรครับ ผมว่าเรื่องแบบควรค่อย ๆ ดูกันไปนะ คุณอย่าถือสาผมเลยนะครับ”
เบียงก้าส่ายหน้าและยิ้มบาง ๆ “ไม่เลย ฉันไม่ได้รังเกียจเลยค่ะ”
หลังจากที่เบรย์เดนได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็แดงเล็กน้อย
เบียงก้าและเบรย์เดนไม่ใช่คนเปิดเผยมากนัก ทั้งสองจึงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยเมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะคุยเรื่องอะไรกันต่อดี
โชคดีที่พนักงานเสิร์ฟเดินเข้ามาในเวลานั้นพอดี พนักงานเสิร์ฟสลัด สเต๊ก และน้ำผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารพื้นฐานของคนที่มีฐานะปานกลาง ซึ่งพวกเขามักจะสั่งเมื่อพวกเขาไปรับประทานอาหารนอกบ้าน
เบียงกล้ามองขึ้นไปที่พนักงานเสิร์ฟและกำลังจะกล่าวขอบคุณ แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดเช่นนั้น เธอก็ต้องตกใจ เมื่อเธอเหลือบไปเห็นคนสามคนที่กำลังเดินเข้ามาจากภายนอกร้าน
เขาคือเจสันและเด็กทั้งสองคน
เธอสังเกตเห็นว่าเจสันกำลังพูดคุยกับพนักงานเสิร์ฟเพื่อถามอะไรบางอย่าง ในขณะที่เด็กน้อยทั้งสองคนมีกระเป๋าเดินทางอยู่ในมือ พวกเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังมองหาใครบางคน
เมื่อเบียงก้าได้เห็นเช่นนั้น เธอก็รู้สึกประหม่า
เธอเหลือบมองเบรย์เดนด้วยสายตาที่รู้สึกผิด
“ฉันขอตัวไปล้างมือก่อนนะคะ” เบียงก้าลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปยังห้องน้ำของร้านอาหาร
เบรย์เดนมองตามหลังเธอ แต่เขาก็พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ เขาจึงหันกลับมาและหั่นสเต๊กให้เบียงก้า
ในที่สุด ดวงตาที่โฉบเฉี่ยวของบลองช์ก็ได้พบกับน้าบี เป้าหมายของเขา
ตั้งแต่ที่เขายังเด็ก คุณปู่และคุณพ่อของเขาสอนเขาไม่ให้ทำตัวแตกตื่นในที่สาธารณะ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็รีบโยนสัมภาระและวิ่งเข้าไปหาคุณบีของเขาเขาทันที
เบียงก้ายืนอยู่ข้างห้องน้ำ
เด็กชายวิ่งเข้ามากอดเธอ
เธอลูบหัวเขาและก้มตัวลง เธอถามอย่างแผ่วเบาว่า "หนูมาทำอะไรที่นี่จ๊ะ?”
“ผมขอให้คุณลุงเจสันพาผมมาที่นี่” บลองช์กอดเธอแน่น ดวงตาสีดำโตของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก