ลุคยืนอยู่ที่ประตู
เบียงก้าไม่แน่ใจว่าชายผู้นั้นจงใจยืนขวางทางเธอรึเปล่า เนื่องจากร่างของเขาได้ขวางกั้นทางเข้าออกอยู่ที่ประตู...
อลิสันยังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟา เธอปล่อยให้ครอบครัวแทนเนอร์พูดในสิ่งที่พวกเขาต้องการ เธอรู้ว่าพี่สะใภ้ของเธอต้องการจะพูดอะไร ในขณะที่ทางด้านของครอบครัวครอว์ฟอร์ดนั้นมีผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดที่อยู่ที่นี่ด้วย
เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้
ทันใดนั้น เมื่อลูกชายของเธอซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเดินเข้ามา
ทุกคนที่อยู่ภายในห้องนั่งเล่นต่างก็นิ่งเงียบโดยไม่มีใครพูดอะไร
อลิสันไม่ต้องการทำให้เรื่องมันยืดเยื้ออีกต่อไป เพราะไม่มีใครต้องการกำจัดเบียงก้าไปมากกว่าเธออีกแล้ว
เธอทนไม่ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นจากโซฟาและเดินไปที่ประตูเพื่อพาบลองช์ออกไปในขณะที่เธอพูดกับคนสองคนที่ยืนขวางทางอยู่ตรงประตูว่า “ไปนั่งลงซะ อีกเดี๋ยว ซาเวียร์ก็คงจะกลับมาแล้ว”
“คุณปู่โทรหาผมมีเรื่องอะไรรึเปล่า?” เสียงที่สงบของลุคดังขึ้น เขาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นและนั่งลงตรงโซฟาตามที่แม่เขาบอก
เมื่อเขาเคลื่อนตัว ร่างที่สูงสง่าของเขาก็เว้นช่องว่างที่ตรงประตูในขณะที่เขาเดินเข้ามา
การกระทำของเขาแสดงให้เห็นว่าเธอสามารถจากไปได้
เบียงก้าก้มหน้าลงในขณะที่เธอคว้าประตูลูกบิด จากนั้น ก็ผลักประตูและเดินออกไป
…
มีเพียงครอบครัวครอว์ฟอร์ดและครอบครัวแทนเนอร์ ที่อยู่ภายในห้องนั่งเล่นในเวลานี้
คุณนายแทนเนอร์ระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้อีกต่อไป เธอพูดจากระแทกแดกดันต่อหน้าทุกคนที่อยู่ภายในห้อง “ฉันเองก็อายุปูนนี้แล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ฉันเห็นผู้คนมาหลายประเภทและสามารถบอกได้ว่าใครเป็นยังไง แต่ฉันต้องยอมรับจริง ๆ ว่าตัวเองตาบอด!”
แดเนียลไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ภรรยาของเขาถึงพูดเช่นนั้น
คุณนายแทนเนอร์เอ่ยถึงลูกชายของเธอที่ยังไม่กลับมา “พวกคุณเองก็รู้ว่าแฟนเก่าของซาเวียร์เป็นผู้หญิงประเภทไหน เธอเป็นผู้หญิงที่ถูกซุบซิบนินทาอยู่ตลอดเวลา แต่ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้หญิงที่ดูไม่มีพิษมีภัยอย่างบีที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้น จนทำให้ซาเวียร์หลงรักเธอจนถอนตัวไม่ขึ้น ซาเวียร์พบกับเธอได้เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น แต่เธอสามารถเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายของฉันแต่งงานกับเธอจนได้…”
ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเงยหน้าขึ้นมอง “เธอกำลังจะบอกว่า ลูกชายของเธอเป็นคนเสียเปรียบอย่างนั้นเหรอ?”
“ถ้าไม่ใช่แล้วจะอะไรอีก-” คุณนายแทนเนอร์มองดูผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดอย่างขมขื่น แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ แดเนียลก็หยุดเธอไว้
คุณนายแทนเนอร์ไม่มีทางเลือกอื่น เธอหยุดและกลืนคำพูดกลับลง
ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดเหลือบมองหลานชายของเขาที่ดูไร้อารมณ์กับเรื่องนี้ “ลุค นายรู้ไหมว่าบีแต่งงานกับซาเวียร์?”
บลองช์จ้องไปที่พ่อของเขา...
ในเวลานั้น แม่บ้านของแทนเนอร์ได้ชงชาและรินชาลงในถ้วยให้กับทุกคนด้วยความเคารพ
ลุคมองดูชาตรงหน้าแต่ก็ไม่ได้ดื่มลงไป เขาจุดบุหรี่สูบและพูดว่า “คุณปู่ของบีหายตัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ผมกับบีจึงกลับไปตามหาเขาที่บ้านเกิดและเราก็ได้โทรแจ้งตำรวจเช่นกัน เรานอนด้วยกันในคืนก่อนวันแต่งงานของเธอ”
เมื่อชายชราได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง...
เมื่อแดเนียลได้ยินคำพูดของหลานชาย เขาก็ต้องตกตะลึง...
คนหนึ่งเป็นลูกชาย อีกคนหนึ่งเป็นหลานชาย นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ลุคสูบบุหรี่และกล่าวต่อ “ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมบีถึงรีบแต่งงานในตอนที่คุณปู่ของเธอหายตัวไปและยังหาไม่พบ”
ชายชราวางถ้วยน้ำชาลง เขาไม่มีอารมณ์จะดื่มชาต่อไป
“แล้วหนูบีเจอคุณปู่ของเธอแล้วรึยัง?”
“หลังจากคืนที่เธอแต่งงาน ก็มีคนพบคุณปู่และถูกพาตัวไปส่งที่โรงพยาบาล” ลุคเหลือบมองไปที่ชายชราในขณะที่อธิบายเรื่องราว เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจเปิดเผยข้อมูลบางอย่างเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้
เขาเชื่อว่าคุณลุงและคุณป้าของเขาฉลาดพอ พวกเขาตามเช็ดล้างให้ซาเวียร์มานานนับสิบปี ดังนั้นพวกเขาจะต้องรู้ดีว่าลูกชายของเขาทำอะไรลงไป
จนถึงตอนนี้ ลุคไม่ต้องการทำให้เรื่องราวใหญ่โต เขาเพียงต้องการเตือนและชี้แจงกับคนเหล่านี้ให้กระจ่าง
ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นว่าเบียงก้าถูกรังแก แต่เธอกลับเก็บทุกอย่างและกลืนความโกรธเอาไว้เพียงลำพัง ลุคจึงทนไม่ได้อีกต่อไป
คุณนายแทนเนอร์ยังคงตกใจด้วยมือที่สั่นเทา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก