พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 144

ณ คฤหาสน์ตระกูลแทนเนอร์

แดเนียลยืนอยู่บนระเบียงที่ชั้นสองด้วยท่าทางที่ฉุนเฉียว

คุณนายแทนเนอร์ขึ้นไปที่ชั้นบน เธอตามหาสามีของเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนพบเขา

"แล้วคุณจะทำยังไง?" คุณนายแทนเนอร์รู้ดีว่าสามีของเธอกำลังโกรธ โดยปกติแล้วสามีของเธอเป็นคนใจเย็น แต่เป็นเพราะลูกชายที่มักจะทำให้เขาหมดความอดทน

แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นลูกของเธอ ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะงี่เง่ามากแค่ไหน คุณนายแทนเนอร์ก็ยังต้องปกป้องเขาในฐานะแม่ผู้ให้กำเนิด

คุณนายแทนเนอร์พ่นลมหายใจ “รอลูกชายของเรากลับมาก่อนดีกว่า และดูว่าเขาจะอธิบายกับผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดว่ายังไง”

แดเนียลกล่าวด้วยความโกรธ “นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? เรายังต้องการคำอธิบายอะไรอีก? คุณไม่รู้จักนิสัยใจคอของลูกชายตัวเองรึไง? สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่การฟังคำอธิบายของลูกชาย แต่เป็นการทำให้ความโกรธของผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดสงบลง!”

ในฐานะพ่อแม่ พวกเขารู้ความคิดและนิสัยใจคอของลูกชายดีที่สุด

พวกเขาเองก็คิดว่ามันแปลกที่ไม่รู้อะไรดลใจ ลูกชายของพวกเขาก็ประกาศแต่งงานและรีบจดทะเบียนสมรส…

พวกเขายังจำได้อีกว่า ในวันที่ลูกชายของเขาพาเบียงก้ามา เธอหมดสติไป และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอก็จากไปโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ ...

ไม่เพียงเท่านั้น งานเลี้ยงอาหารค่ำกับญาติของพวกเขาในวันนั้น เบียงก้าเองก็ดูไม่มีความสุขหลังจากที่ทั้งสองจดทะเบียนสมรสแล้ว

เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน คุณนายแทนเนอร์ก็สรุปได้ชัดเจนว่าจะต้องมีบางอย่างไม่ถูกต้องเกิดขึ้นระหว่างแม่ผู้หญิงคนนั้นและลูกชายของตนแน่ ดูเหมือนว่าการจดทะเบียนสมรสของพวกเขาจะต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล...

แดเนียลหันกลับมาและพูดต่อ “ผมควรคิดหาทางออกให้เขาอย่างนั้นเหรอ? อายุอานามก็ปาเข้าไป 30 แล้วนะ! ผมเบื่อที่จะต้องมานั่งเช็ดนั่งล้างเรื่องชั่ว ๆ ของเจ้าลูกคนนี้แล้วนะ! ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดพาหลานชายของเขามาถึงที่นี่เพื่อขอคำอธิบาย คุณจะให้ผมทำยังไง? แล้วผมจะมีหน้าไปพบใครได้อีก?”

คุณนายแทนเนอร์ไม่รู้ว่าจะตอบโต้เช่นไร เธอจึงเริ่มหาข้อบกพร่องของครอบครัวเขาขึ้นมาพูด

คุณนายแทนเนอร์มองไปยังรถที่จอดอยู่ด้านนอกที่ประตูชั้นล่าง จากนั้น เธอก็พูดขึ้นด้วยท่าทางเยาะเย้ย “ใครก็ตามที่ไม่รู้ พวกเขาคงคิดว่าน้องสาวของคุณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลย เพราะทุกครั้งที่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น เธอก็มักจะอยู่แต่ในรถและไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกเลย! แล้วเธอดีกว่าพวกเราทุกคนตรงไหน?”

แดเนียลกล่าวว่า "อย่าลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง คนที่คุณควรจะใส่ใจก็คือลูกชายและตัวคุณเอง มันเป็นความผิดของคุณที่ตามใจเขาจนเคยชิน จนตอนนี้เจ้าลูกชายเทวดากลับไม่เป็นโล้เป็นพายเลย!”

“ไม่เอาโล้เอาพายเหรอ? แดเนียล นี่คุณกำลังดูถูกลูกชายที่ฉันเป็นคนให้กำเนิดเหรอ? ฉันรู้ว่าคุณชอบควีนนี่ แต่บังเอิญว่าควีนนี่ไม่เหมาะสมกับคุณ ควีนนี่ช่างรู้วิธีเลือกผู้ชายให้ตัวเองจริง ๆ เขาเป็นถึงเลขาผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เหมือนกับคุณที่ไม่เคยได้ในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาเลย อ้อ ฉันได้ยินมาว่าสามีของควีนนี่เป็นหมันไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณไม่ให้แม่นั่นยืมน้ำเชื้อไปเพาะเล่นล่ะ? เธอเองก็เป็นแม่เทพธิดาในฝันของคุณอยู่แล้วนิ!"

คุณนายแทนเนอร์มีอารมณ์ที่ฉุนเฉียว เธอจึงสบถคำพูดออกไปโดยไม่คิด “ทุกครั้งที่ฉันพูดถึงน้องสาวตัวดีของคุณ คุณมักจะสั่งให้ฉันหุบปากไปเสมอ ถ้าหากคนก็ตามได้รู้จักธาตุแท้ของเธอ ก็คงไม่มีใครอยากร่วมงานกับครอบครัวครอว์ฟอร์ดหรอก และคุณจะบอกว่าฉันกำลังใช้เงินของตระกูลครอว์ฟอร์ดหนึ่งถึงสองเปอร์เซ็นต์อยู่งั้นสิ? เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นฉันจะต้องเป็นคนที่ลดตัวลงไปขอโทษงั้นเหรอ? หรือเป็นเพราะว่าตระกูลครอว์ฟอร์ดอยู่เหนือกว่าเรา ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดจึงเผด็จการกับเราแบบนี้ใช่ไหม?”

พวกเขายังคงเถียงกันเสียงดังอยู่ที่ชั้นบน

รถออดี้มาจอดอยู่ที่ชั้นล่าง

เบียงก้าเปิดประตูลงมาจากรถ นีน่าซึ่งนั่งอยู่ภายในรถหันมาและพูดว่า "ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราอยู่ที่นี่”

“ถ้ามีใครพยายามรังแกเธอนะ โทรหาพวกเราได้ทันที พวกเราจะเข้าไปช่วยเอง” ถึงแม้ว่าซูจะดื่มไปเยอะ แต่เธอก็ยังมีสติอยู่มาก

ไม่ว่าเบียงก้าจะมาที่นี่เพื่ออะไร แต่พวกเธอก็จะไม่ยอมทิ้งเบียงก้าเอาไว้ตามลำพัง

ในเมื่อพวกเธอทัง้สามไปสังสรรค์กันมา ดังนั้นแฟนของนีน่าจึงขับออดี้ไปรับพวกเธอ

เมื่อเบียงก้าเดินลงมาจากรถ เธอก็ได้พบกับอลิสันที่ประตูคฤหาสน์แทนเนอร์

อลิสันลงจากรถมา การที่เธอไม่เข้าไปด้านในกับชายชราเพราะเธอกำลังรอเจอเบียงก้า

หลังจากกวาดสายตาไปรอบ ๆ แล้ว อลิสันก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่แผ่วเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน “ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะว่าเรนนี่อยู่กับเราที่นั่น ฉันจึงถามเธอไม่ได้ และเมื่อฉันโทรหาเธอ เธอก็ไม่รับสายเลย บอกฉันมาว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่? เธอเพิ่งเลิกกับลูกชายของฉันไป แต่ในตอนนี้เธอกลับเข้าหาหลานชายของฉันแทน เธอมีเจตนาอะไรกันแน่?”

“ฉันไม่มีเจตนาอะไรทั้งนั้น คุณควรไปถามหลานชายของคุณจะดีกว่า” เบียงก้าตอบ

อลิสันเยาะเย้ย “แต่เธอแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง คุณปู่กับพ่อเธอไม่ได้สั่งสอนเธอรึยังไง?

เบียงก้าจ้องมองอลิสันด้วยใบหน้าที่เย็นชา “อาจเป็นเพราะว่าฉันได้สายเลือดชั่ว ๆ มาจากแม่ผู้ให้กำเนิดก็ได้มั้งคะ" เมื่อเธอพูดจบประโยค เธอก็เดินผ่านอลิสันเข้าไปภายในคฤหาสน์แทนเนอร์

เธอรู้ว่าซาเวียร์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ เธอเพียงแค่กังวลว่าวันหนึ่งเธอจะไม่สามารถเก็บความลับที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายในได้ถ้าหากว่าเธอถูกซาเวียร์คุกคามจนทำให้ลุครู้ความจริง เธอไม่ต้องการให้ลุคเสียใจ

การแต่งงานของพวกเขาไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น

และสำหรับการแต่งงาน ทั้งสองคนจะไม่สามารถล่วงเกินกันได้ยกเว้นแต่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะใช้กำลังเพื่อขัดขืน ดังนั้น เธอจึงไม่เคยปล่อยให้ตัวเองอยู่ตามลำพังกับซาเวียร์เลย

เบียงก้าคิดว่าเมื่ออาการของพ่อดีขึ้น เธอจะต้องไปจากเมืองเอให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม

ในเวลานั้นเบียงก้าก็คิดขึ้นได้ว่า วันนี้เธอได้ซื้อลอตเตอรี่ในระหว่างทางไปธนาคาร เบียงก้าอธิษฐานขอพรต่อพระเจ้าอยู่ทุกนาทีเพื่อขอให้เธอถูกรางวัลและเธอก็จะได้ลาออกโดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกต่อไป

เมื่อเบียงก้าเดินเข้ามาด้านใน เธอก็ได้เห็นผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดและอลิสันที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งอยู่ที่นั่น

จากนั้น แดเนียลและภรรยาของเขาก็ลงมาที่ชั้นล่าง

“บี บอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?” แดเนียลรู้ดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะต้องเป็นฝีมือลูกชายของเขา ดังนั้น แดเนียลจึงมีทัศนคติที่ดีต่อลูกสะใภ้

เบียงก้ากำลังประเชิญหน้ากับผู้ใหญ่ที่อยู่ภายในห้อง ในขณะที่เธอยืนอยู่ที่นั่นและถูกบังคับให้อธิบาย...

เมื่อเห็นว่าเบียงก้ายังคงเงียบอยู่ คุณนายแทนเนอร์จึงถามเธอว่า “ในเมื่อผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดและแม่ของลุคก็อยู่ที่นี่แล้ว ดังนั้น ฉันขอถามเธอสักอย่างและเธอก็ต้องพูดความจริงด้วย เธอเคยคบกับลุคมาก่อนและได้เจอครอบครัวครอว์ฟอร์ดแล้ว พวกคุณยังเคยคุยเรื่องการแต่งงาน แต่ไม่มีใครในตระกูลแทนเนอร์รวมถึงซาเวียร์รู้เรื่องนี้ใช่ไหม?”

คุณนายแทนเนอร์ไม่ต้องการรับผิดชอบเรื่องนี้ ดังนั้น เธอจึงเบี่ยงความสนใจไปที่เรื่องของเบียงก้าแทน

เบียงก้าเข้าใจสถานการณ์ได้ดี ถึงแม้ว่าเธอจะดื่มมา แต่ก็ยังมีสติอยู่มาก แม่บุญธรรมของเธอคนนี้ไม่ได้ทำตัวเหมือนแม่มากนัก แต่กลับปฏิบัติต่อเธอเหมือนแพะรับบาปแทน

“ฉันคิดว่าซาเวียร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย ฉันไม่มีอะไรจะพูด ในเมื่อเขาไม่อยู่ คุณควรจะรอถามเขาดูเองเมื่อเขากลับมาแล้ว” หลังจากพูดจบ เบียงก้าก็หันหลังเพื่อเดินออกไป

“น้าบี…อย่าเพิ่งไป” บลองช์วิ่งเข้ามาหาเบียงก้าด้วยขาสั้น ๆ พวกเขาหยุดอยู่ตรงประตู

ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดไม่ได้ห้ามหลานชายตัวน้อย

เมื่อคุณนายแทนเนอร์เห็นลานี่ที่กำลังเกาะขาเบียงก้าอยู่ เธอก็ขมวดคิ้วด้วยความปวดหัว

เธอไม่รู้เลยว่าลุคเคยสนิทสนมกับลูกสะใภ้ของเธอมากแค่ไหน ลูกชายของเขาถึงกล้ากอดที่ต้นขาของเบียงก้าได้...

ราวกับสายฟ้าฟาดลงกะทันหันในวันที่อากาศแจ่มใส

คุณนายแทนเนอร์ตระหนักได้ว่าเธอเป็นนางจิ้งจอกร้าย แต่มันเป็นเรื่องที่ดีที่เธอได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้ก่อนที่มันจะสายเกินไป เพราะไม่อย่างนั้น เธอก็คงจะต้องนอกใจลูกชายของเธอเข้าสักวัน

เบียงก้าก้มหน้ามองเด็กชาย เธอต้องการจะพูดความจริงทุกอย่างออกมา แต่เธอก็ทำไม่ได้ เธอเป็นห่วงความรู้สึกของลุค เพราะถ้าหากว่าหัวใจของเขาถูกแผดเผาขึ้นมา เธอกลัวว่า...

ทั้งสองคนยืนอยู่ตรงประตูด้านในและดูเหมือนคู่แม่ลูก

ที่ด้านนอกประตู มีเงาของใครบางคนกำลังเดินเข้ามา เบียงก้าคิดว่าซาเวียร์กลับมาแล้ว แต่เธอกลับมองเห็นชายร่างสูงคนหนึ่ง

“คุณพ่อครับ พาน้าบีกลับบ้านกันเถอะ” เด็กชายมองดูพ่อของเขาอย่างไร้เดียงสาในขณะที่พ่อของเขากำลังเดินเข้ามา เขาหันไปถามพ่อของเขาด้วยใบหน้าแสนจะอ้อนวอนและน่าเอ็นดู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก