ณ คฤหาสน์ตระกูลแทนเนอร์
แดเนียลยืนอยู่บนระเบียงที่ชั้นสองด้วยท่าทางที่ฉุนเฉียว
คุณนายแทนเนอร์ขึ้นไปที่ชั้นบน เธอตามหาสามีของเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนพบเขา
"แล้วคุณจะทำยังไง?" คุณนายแทนเนอร์รู้ดีว่าสามีของเธอกำลังโกรธ โดยปกติแล้วสามีของเธอเป็นคนใจเย็น แต่เป็นเพราะลูกชายที่มักจะทำให้เขาหมดความอดทน
แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นลูกของเธอ ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะงี่เง่ามากแค่ไหน คุณนายแทนเนอร์ก็ยังต้องปกป้องเขาในฐานะแม่ผู้ให้กำเนิด
คุณนายแทนเนอร์พ่นลมหายใจ “รอลูกชายของเรากลับมาก่อนดีกว่า และดูว่าเขาจะอธิบายกับผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดว่ายังไง”
แดเนียลกล่าวด้วยความโกรธ “นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? เรายังต้องการคำอธิบายอะไรอีก? คุณไม่รู้จักนิสัยใจคอของลูกชายตัวเองรึไง? สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่การฟังคำอธิบายของลูกชาย แต่เป็นการทำให้ความโกรธของผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดสงบลง!”
ในฐานะพ่อแม่ พวกเขารู้ความคิดและนิสัยใจคอของลูกชายดีที่สุด
พวกเขาเองก็คิดว่ามันแปลกที่ไม่รู้อะไรดลใจ ลูกชายของพวกเขาก็ประกาศแต่งงานและรีบจดทะเบียนสมรส…
พวกเขายังจำได้อีกว่า ในวันที่ลูกชายของเขาพาเบียงก้ามา เธอหมดสติไป และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอก็จากไปโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ ...
ไม่เพียงเท่านั้น งานเลี้ยงอาหารค่ำกับญาติของพวกเขาในวันนั้น เบียงก้าเองก็ดูไม่มีความสุขหลังจากที่ทั้งสองจดทะเบียนสมรสแล้ว
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวเข้าด้วยกัน คุณนายแทนเนอร์ก็สรุปได้ชัดเจนว่าจะต้องมีบางอย่างไม่ถูกต้องเกิดขึ้นระหว่างแม่ผู้หญิงคนนั้นและลูกชายของตนแน่ ดูเหมือนว่าการจดทะเบียนสมรสของพวกเขาจะต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล...
แดเนียลหันกลับมาและพูดต่อ “ผมควรคิดหาทางออกให้เขาอย่างนั้นเหรอ? อายุอานามก็ปาเข้าไป 30 แล้วนะ! ผมเบื่อที่จะต้องมานั่งเช็ดนั่งล้างเรื่องชั่ว ๆ ของเจ้าลูกคนนี้แล้วนะ! ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดพาหลานชายของเขามาถึงที่นี่เพื่อขอคำอธิบาย คุณจะให้ผมทำยังไง? แล้วผมจะมีหน้าไปพบใครได้อีก?”
คุณนายแทนเนอร์ไม่รู้ว่าจะตอบโต้เช่นไร เธอจึงเริ่มหาข้อบกพร่องของครอบครัวเขาขึ้นมาพูด
คุณนายแทนเนอร์มองไปยังรถที่จอดอยู่ด้านนอกที่ประตูชั้นล่าง จากนั้น เธอก็พูดขึ้นด้วยท่าทางเยาะเย้ย “ใครก็ตามที่ไม่รู้ พวกเขาคงคิดว่าน้องสาวของคุณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลย เพราะทุกครั้งที่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น เธอก็มักจะอยู่แต่ในรถและไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นภายนอกเลย! แล้วเธอดีกว่าพวกเราทุกคนตรงไหน?”
แดเนียลกล่าวว่า "อย่าลากคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง คนที่คุณควรจะใส่ใจก็คือลูกชายและตัวคุณเอง มันเป็นความผิดของคุณที่ตามใจเขาจนเคยชิน จนตอนนี้เจ้าลูกชายเทวดากลับไม่เป็นโล้เป็นพายเลย!”
“ไม่เอาโล้เอาพายเหรอ? แดเนียล นี่คุณกำลังดูถูกลูกชายที่ฉันเป็นคนให้กำเนิดเหรอ? ฉันรู้ว่าคุณชอบควีนนี่ แต่บังเอิญว่าควีนนี่ไม่เหมาะสมกับคุณ ควีนนี่ช่างรู้วิธีเลือกผู้ชายให้ตัวเองจริง ๆ เขาเป็นถึงเลขาผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เหมือนกับคุณที่ไม่เคยได้ในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาเลย อ้อ ฉันได้ยินมาว่าสามีของควีนนี่เป็นหมันไม่ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณไม่ให้แม่นั่นยืมน้ำเชื้อไปเพาะเล่นล่ะ? เธอเองก็เป็นแม่เทพธิดาในฝันของคุณอยู่แล้วนิ!"
คุณนายแทนเนอร์มีอารมณ์ที่ฉุนเฉียว เธอจึงสบถคำพูดออกไปโดยไม่คิด “ทุกครั้งที่ฉันพูดถึงน้องสาวตัวดีของคุณ คุณมักจะสั่งให้ฉันหุบปากไปเสมอ ถ้าหากคนก็ตามได้รู้จักธาตุแท้ของเธอ ก็คงไม่มีใครอยากร่วมงานกับครอบครัวครอว์ฟอร์ดหรอก และคุณจะบอกว่าฉันกำลังใช้เงินของตระกูลครอว์ฟอร์ดหนึ่งถึงสองเปอร์เซ็นต์อยู่งั้นสิ? เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นฉันจะต้องเป็นคนที่ลดตัวลงไปขอโทษงั้นเหรอ? หรือเป็นเพราะว่าตระกูลครอว์ฟอร์ดอยู่เหนือกว่าเรา ผู้อาวุโสครอว์ฟอร์ดจึงเผด็จการกับเราแบบนี้ใช่ไหม?”
พวกเขายังคงเถียงกันเสียงดังอยู่ที่ชั้นบน
รถออดี้มาจอดอยู่ที่ชั้นล่าง
เบียงก้าเปิดประตูลงมาจากรถ นีน่าซึ่งนั่งอยู่ภายในรถหันมาและพูดว่า "ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราอยู่ที่นี่”
“ถ้ามีใครพยายามรังแกเธอนะ โทรหาพวกเราได้ทันที พวกเราจะเข้าไปช่วยเอง” ถึงแม้ว่าซูจะดื่มไปเยอะ แต่เธอก็ยังมีสติอยู่มาก
ไม่ว่าเบียงก้าจะมาที่นี่เพื่ออะไร แต่พวกเธอก็จะไม่ยอมทิ้งเบียงก้าเอาไว้ตามลำพัง
ในเมื่อพวกเธอทัง้สามไปสังสรรค์กันมา ดังนั้นแฟนของนีน่าจึงขับออดี้ไปรับพวกเธอ
เมื่อเบียงก้าเดินลงมาจากรถ เธอก็ได้พบกับอลิสันที่ประตูคฤหาสน์แทนเนอร์
อลิสันลงจากรถมา การที่เธอไม่เข้าไปด้านในกับชายชราเพราะเธอกำลังรอเจอเบียงก้า
หลังจากกวาดสายตาไปรอบ ๆ แล้ว อลิสันก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่แผ่วเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน “ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะว่าเรนนี่อยู่กับเราที่นั่น ฉันจึงถามเธอไม่ได้ และเมื่อฉันโทรหาเธอ เธอก็ไม่รับสายเลย บอกฉันมาว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่? เธอเพิ่งเลิกกับลูกชายของฉันไป แต่ในตอนนี้เธอกลับเข้าหาหลานชายของฉันแทน เธอมีเจตนาอะไรกันแน่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก