พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 143

เมื่อลุคสบตาเธอ เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ที่ชัดเจนออกมา

เบียงก้าลังเล เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะออกไปหรืออยู่ต่อดี จากนั้นไม่นาน ลุคขมวดคิ้วและเขี่ยก้นบุหรี่ทิ้งลงในที่เขี่ยบุหรี่ จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาลุกขึ้นและออกจากห้องประชุมไป

ภายในห้องประชุมมีทางเข้าออกสองทาง

ลุคเดินออกไปยังประตูอีกฝั่งที่ตรงกันข้ามกับเธอ

เบียงก้ายืนนิ่งอยู่เป็นเวลานานก่อนจะฟื้นคืนสติและจำได้ว่าเธออยู่ที่นี่เพื่ออะไร

เธอเปิดเครื่องบันทึก จากนั้นเธอก็สวมหูฟังและนั่งดูเนื้อหาการประชุมที่ถูกบันทึกเอาไว้อย่างตั้งใจ เธอจดประเด็นที่สำคัญลงในแล็ปท็อปที่อยู่ตรงหน้า

หลังจากบันทึกเนื้อหาของการประชุมเสร็จเรียบร้อย เมื่อเบียงก้ากลับลงมา ก็เป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้ว

ซูรอเธออยู่นาน

เมื่อเธอเห็นเบียงก้ากลับมา ซูก็วางกาแฟหนึ่งถ้วยไว้บนโต๊ะให้เบียงก้า “ฉันได้ยินจากเจสันว่าคุณพบคุณปู่เธอแล้ว”

เบียงก้ารับกาแฟมาวางไว้ข้างแล็ปท็อป ขณะมือเปิดแล็ปท็อป ปากเธอก็กล่าวว่า “ขอบคุณเธอด้วยนะและคุณดอยล์ที่ทำงานหนัก ฉันต้องเลี้ยงขอบคุณทั้งสองคนแล้วล่ะ”

ซูพูดหยอกล้อว่า “ขอบคุณอะไรกัน? เราไม่ใช่พนักงานพาร์ทไทม์สักหน่อย แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของงานของเรา คนที่ควรจะขอบคุณคือคุณครอว์ฟอร์ดต่างหาก”

นิ้วของเบียงก้าที่กำลังกดลงบนแป้นพิมพ์ก็หยุดไปชั่วขณะ

ซูสะกิดเบียงก้าด้วยข้อศอกและยิ้ม “ว่าแต่เธอจะขอบคุณเขายังไงเหรอ? คืนนี้เธอจะนอนเล่นจ้ำจี้กับเขารึเปล่านะ?”

นิ้วของเบียงก้าที่อยู่บนคีย์บอร์ดยังคงไม่ขยับ

เมื่อซูสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอจึงก้มหน้าลงและเห็นนิ้วของเบียงก้าหยุดนิ่งอยู่ สีหน้าบ่งบอกว่า เบียงก้ามีบางอย่างอยู่ภายในใจ ซึ่งเรียกได้ว่าร้ายแรงพอตัว

“อะไรกัน? เธอกับบอส...ทะเลาะกันเหรอ?” เมื่อซูถามจบ เธอก็นึกถึงท่าทางของคุณครอว์ฟอร์ดภายในที่ประชุมเมื่อเช้านี้

ท่าทีของทั้งสองคนไม่แตกต่างกันเลย

ซูแอบต่อว่าตัวเองอยู่ภายในใจ เพราะในระหว่างการประชุม เธอคิดว่าที่เจ้านายของเธออารมณ์ไม่ดีเป็นเพราะว่าฌองวางยานอนหลับเบียงก้า

แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด

“ฉันไม่ได้คบกับคุณครอว์ฟอร์ด และ..." เบียงก้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก้มหน้าลงและพูดขึ้นมาว่า “และฉันก็แต่งงานแล้ว"

"..."

ซูจ้องมองไปที่เบียงก้าอย่างไม่เชื่อสายตา

กว่าที่ซูจะตอบสนองได้ก็ผ่านไปหลายวินาที “ล้อเล่นอะไรอยู่เนี้ย? การที่เธอบอกว่าแต่งงานแล้วนี่เหมือนกันบอกว่าแม่ฉันเนี้ยเก็บฉันมาเลี้ยงจากถังขยะ แล้วแม่แท้ ๆ ของฉันเนี้ยกลับเป็นราชินีผู้สูงศักดิ์แห่งราชวงศ์อังกฤษเลยนะ!”

"ฉันไม่ได้ล้อเล่น" เบียงก้าจ้องมองเข้าไปในดวงตาของซูด้วยท่าทางที่จริงจัง

ซู "..."

เบียงก้าแต่งงานแล้ว

เธอแต่งงานแล้วจริง ๆ

ซูแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน

‘แล้วคุณครอว์ฟอร์ดเป็นใครสำหรับเธอล่ะเนี้ย?’

ในฐานะท่านประธานบริษัทผู้ทรงอิทธิพลแห่งที คอร์ปอเรชั่น ผู้หญิงมากหน้าหลายตาจากตระกูลชนชั้นสูงต่างก็ปรารถนาที่จะได้แต่งงานกับเขา แต่ไม่มีใครที่สามารถกุมหัวใจของคุณครอว์ฟอร์ดได้เลย ไม่เคยมีใครเห็นผู้หญิงที่เขาให้ความสนใจแม้แต่คนเดียว

แต่เจ้านายของเธอกลับตกหลุมรักหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว…

ซูอดไม่ได้ที่จะคิดว่าโลกนี้มันบ้าไปแล้วจริง ๆ

ซูกลับมานั่งลงบนเก้าอี้และพยายามกลับมาจดจ่อกับการทำงาน แต่แล้วเธอก็หยุดคิดในสิ่งที่เธอได้ยินจากเบียงก้าไม่ได้

‘ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างเบียงก้าจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเจ้านายของเธอได้อย่างไร?'

เธอครุ่นคิดอยู่ภายในใจ อาจเป็นเพราะว่าความต้องการของพวกเขาทั้งสองคนไม่อาจต้านทานได้จนทำให้เจ้านายของเธอหน้ามืดตามัว หรือเป็นเพราะเบียงก้าที่แสร้งทำตัวไร้เดียงสาเพื่อหลอกลวงเจ้านายของเธอ แต่หลังจากนั้นเมื่อเจ้านายของเธอจับได้ว่าเบียงก้าแต่งงานแล้ว นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้านายของเธอดูอารมณ์ไม่ดีในระหว่างการประชุมรึเปล่า?

เบียงก้ายังคงก้มหน้าทำงานด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว

ซูไม่สามารถลบล้างความคิดนี้ออกไปได้ เธอไม่คิดว่าเบียงก้าจะคบผู้ชายสองคนในเวลาเดียวกันได้จริง ๆ เธอไม่เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใครผิดไป

‘ถ้าหากว่าคืนนี้ไม่มีโปรแกรมอะไร เราออกไปดื่มด้วยกันเถอะ’ ซูส่งข้อความถึงเบียงก้า หลังจากที่ส่งข้อความไปแล้วเธอก็ครุ่นคิดและกลัวว่าเบียงก้าจะปฏิเสธ เธอจึงเสริมว่า 'เอาเป็นว่าคืนนี้ เธอเลี้ยงตอบแทนที่ฉันช่วยสอดส่องดูแลบ้านให้ตอนที่เธอออกไปดูแลคุณปู่ก็แล้วกัน’

เมื่อเป็นเช่นนั้น เบียงก้าจึงตอบตกลง

เมื่อถึงเวลาใกล้เลิกงาน เบียงก้าเดินออกไปล้างแก้วกาแฟและเจอกับนีน่าที่เพิ่งจะกลับมาจากทำงานนอกสถานที่โดยบังเอิญ

นีน่าบอกกับเบียงก้าโดยตรงว่า “เลิกงานแล้วขอไปอยู่บ้านเธอหน่อยนะ มีอะไรอยากคุยด้วย”

ในเวลานั้น ซูก็เดินเข้ามา “ฉันตั้งใจว่าจะไปดื่มกับเบียงก้าอยู่พอดีเลย ถ้าไม่รังเกียจ เราสามคนไปดื่มพร้อมกันเลยดีไหม?”

นีน่าไม่ได้มีความคับข้องใจใด ๆ กับซู ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าตอบรับทันที “เอาสิ”

เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ทั้งสามคนก็ตรงไปที่บาร์แห่งหนึ่งด้วยกัน

“เธอมาที่นี่ครั้งแรกรึเปล่า?” ซูถามเบียงก้าหลังจากที่พวกเธอนั่งลง เห็นได้ชัดว่าซูเป็นลูกค้าประจำที่นี่

เบียงก้าพยักหน้าเล็กน้อย

จากนั้นไม่นานพนักงานเสิร์ฟก็นำเบียร์มาบริการให้

นีน่าเปิดฝาเบียร์และเทใส่ในแก้วทั้งสามใบ หลังจากที่เธอนั่งลง เธอก็หยิบแก้วขึ้นมาและเริ่มดื่มด้วยกัน

หลังจากดื่มเบียร์เพื่อดับกระหายแล้ว นีน่าก็กล่าวขึ้นว่า “หลายปีมานี้ บีไม่เคยมีโอกาสได้ไปดื่มหรือไปเที่ยวผับบาร์เลย พอย้ายมาที่เมืองเอนะ ชีวิตของเพื่อนคนนี้ก็ไม่เคยสงบสุขเลย ฉันมองเห็นทุกอย่างภายในดวงตาของเพื่อนคนนี้หมดแหละ อย่าว่าแม่เลี้ยงสุดขยะแขยงนางนั้นเลย อาการของคุณพ่อบีที่ย่ำแย่ฉันก็รู้...เอาสั้น ๆ ชีวิตแม่นี่เนี้ยเรียกได้ว่าดาวกาลกิณีเข้าครองเลยแหละ นี่ซู อาจมีหลายเรื่องที่เธอยังไม่รู้เกี่ยวกับชีวิตของบีนะ แต่บอกเลย ฉันรู้เรื่องทั้งหมดแหละ”

หลังจากได้ฟังสิ่งที่นีน่าพูด ซูก็มองไปที่เบียงก้าและเหลือบมองนีน่าอีกครั้ง ซูจิบเบียร์ก่อนจะพูดว่า “เธอรู้ไหมว่าบีแต่งงานแล้ว?”

“พรวด!”

เบียร์กระจายไปทั่วทั้งโต๊ะ

ถึงแม้ว่าซูจะตกใจกับปฏิกิริยาของเธอ แต่ซูก็รีบหยิบทิชชู่แล้วยื่นให้กับนีน่า

นีน่าเหลือบมองไปที่เบียงก้า

“เธอแต่งงานแล้วเหรอ? เธอแต่งงานกับใคร? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้?”

ในขณะที่นีน่าถามเธอ ก็แอบสงสัยว่าเบียงก้าอาจแต่งงานกับเจ้านายของพวกเธอรึเปล่า

“ฉันเพิ่งจดทะเบียนสมรสกับเขาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ระหว่างฉันกับคุณครอว์ฟอร์ดตอนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเจ้านายและลูกจ้างหรอก” เบียงก้าไม่ต้องการเอ่ยชื่อของซาเวียร์

ในเวลาเดียวกัน ซูและนีน่าต่างก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน…

‘นั่นไม่ใช่ในช่วงที่คุณปู่ของเบียงก้าหายตัวไปหรอกเหรอ?

'เป็นไปได้ไหมว่าการจดทะเบียนสมรสของเธอจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคุณปู่'

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง

ขวดเบียร์เปล่าหนึ่งโหลวางอยู่บนโต๊ะ

นีน่าตบไหล่เบียงก้าและพูดว่า “ฉันไม่โทษเธอหรอก พี่ชายของฉันทำตัวเอง เผื่อว่าเธอยังไม่รู้ พี่ชายของฉัน…พี่ชายฉันกำลังจะ…”

หลังจากที่นีน่าพูดเช่นนั้น เธอก็ไม่สามารถพูดต่อได้

หลังจากที่พี่ชายของเธอถูกจับกุม เมื่อเธอและพ่อแม่ของเธอไปถึงที่นั่น ตำรวจก็ได้แจ้งว่า เขาได้ตรวจพบข้อมูลที่ไม่ดีมากมายในโทรศัพท์ของพี่ชาย

นีน่าเองก็ยังได้เห็นข้อมูลและรูปถ่ายต่าง ๆ ในตอนนั้นที่เธอตระหนักได้ว่าพี่ชายของเธอน่ารังเกียจเท่าใด

“เขาจะทำอะไรกันฉันอีก?” เบียงก้าถาม

“ช่างมันเถอะ ตอนนี้มันจบแล้ว…” นีน่ารินเบียร์ให้ซูและเบียงก้า

ท่ามกลางเสียงเพลงเบา ๆ ภายในบาร์ เสียงของโทรศัพท์ของใครบางคนก็ดังขึ้น

“โทรศัพท์ใครดัง?” นีน่ากวาดสายตาไปรอบ ๆ จากนั้นเธอก็พูดกับเบียงก้าว่า “ฉันคิดว่าเป็นของเธอนะ”

เบียงก้าไม่ได้ดื่มมาก เพราะเธอดื่มแอลกอฮอล์ไม่เก่ง และในตอนนี้เธอเองก็เริ่มรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย

เมื่อเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เธอก็ได้เห็นว่าสายเรียกเข้าเป็นหมายเลขที่เธอไม่รู้จัก

เบียงก้ารับโทรศัพท์

“บี ฉันไม่สนว่าตอนนี้เธอจะทำอะไรอยู่ แต่รีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้” มันเป็นเสียงแม่ของซาเวียร์ ป้าของลุค

เมื่อได้ยินจากน้ำเสียงของเธอ เบียงก้าก็รู้ว่าเธอกำลังโกรธ

"เกิดอะไรขึ้นคะ?” เธอถามอย่างไม่ใส่ใจ เบียงก้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในครอบครัวนั้น และเธอเองก็ไม่ต้องการเข้าไปวุ่นวายในสิ่งที่ครอบครัวนั้นได้สร้างขึ้น

“ถามจริงฉันจริง ๆ ใช่ไหม…เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ? ยังมีหน้ามาถามอีกนะ? ผู้อาวุโสคอร์วฟอร์ดถึงได้มาถึงหน้าประตูบ้านของเราถามหาเธอ และบอกอีกว่าพวกเราลักพาตัวหลานสะใภ้ของเขามา เธอจะต้องกลับมาที่นี่ตอนนี้และอธิบายเรื่องทั้งหมดให้พวกเราฟัง! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะโดนคนอย่างเธอหลอกเอาได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก