เมื่อลุคสบตาเธอ เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ที่ชัดเจนออกมา
เบียงก้าลังเล เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะออกไปหรืออยู่ต่อดี จากนั้นไม่นาน ลุคขมวดคิ้วและเขี่ยก้นบุหรี่ทิ้งลงในที่เขี่ยบุหรี่ จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาลุกขึ้นและออกจากห้องประชุมไป
ภายในห้องประชุมมีทางเข้าออกสองทาง
ลุคเดินออกไปยังประตูอีกฝั่งที่ตรงกันข้ามกับเธอ
เบียงก้ายืนนิ่งอยู่เป็นเวลานานก่อนจะฟื้นคืนสติและจำได้ว่าเธออยู่ที่นี่เพื่ออะไร
เธอเปิดเครื่องบันทึก จากนั้นเธอก็สวมหูฟังและนั่งดูเนื้อหาการประชุมที่ถูกบันทึกเอาไว้อย่างตั้งใจ เธอจดประเด็นที่สำคัญลงในแล็ปท็อปที่อยู่ตรงหน้า
หลังจากบันทึกเนื้อหาของการประชุมเสร็จเรียบร้อย เมื่อเบียงก้ากลับลงมา ก็เป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็นแล้ว
ซูรอเธออยู่นาน
เมื่อเธอเห็นเบียงก้ากลับมา ซูก็วางกาแฟหนึ่งถ้วยไว้บนโต๊ะให้เบียงก้า “ฉันได้ยินจากเจสันว่าคุณพบคุณปู่เธอแล้ว”
เบียงก้ารับกาแฟมาวางไว้ข้างแล็ปท็อป ขณะมือเปิดแล็ปท็อป ปากเธอก็กล่าวว่า “ขอบคุณเธอด้วยนะและคุณดอยล์ที่ทำงานหนัก ฉันต้องเลี้ยงขอบคุณทั้งสองคนแล้วล่ะ”
ซูพูดหยอกล้อว่า “ขอบคุณอะไรกัน? เราไม่ใช่พนักงานพาร์ทไทม์สักหน่อย แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของงานของเรา คนที่ควรจะขอบคุณคือคุณครอว์ฟอร์ดต่างหาก”
นิ้วของเบียงก้าที่กำลังกดลงบนแป้นพิมพ์ก็หยุดไปชั่วขณะ
ซูสะกิดเบียงก้าด้วยข้อศอกและยิ้ม “ว่าแต่เธอจะขอบคุณเขายังไงเหรอ? คืนนี้เธอจะนอนเล่นจ้ำจี้กับเขารึเปล่านะ?”
นิ้วของเบียงก้าที่อยู่บนคีย์บอร์ดยังคงไม่ขยับ
เมื่อซูสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอจึงก้มหน้าลงและเห็นนิ้วของเบียงก้าหยุดนิ่งอยู่ สีหน้าบ่งบอกว่า เบียงก้ามีบางอย่างอยู่ภายในใจ ซึ่งเรียกได้ว่าร้ายแรงพอตัว
“อะไรกัน? เธอกับบอส...ทะเลาะกันเหรอ?” เมื่อซูถามจบ เธอก็นึกถึงท่าทางของคุณครอว์ฟอร์ดภายในที่ประชุมเมื่อเช้านี้
ท่าทีของทั้งสองคนไม่แตกต่างกันเลย
ซูแอบต่อว่าตัวเองอยู่ภายในใจ เพราะในระหว่างการประชุม เธอคิดว่าที่เจ้านายของเธออารมณ์ไม่ดีเป็นเพราะว่าฌองวางยานอนหลับเบียงก้า
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด
“ฉันไม่ได้คบกับคุณครอว์ฟอร์ด และ..." เบียงก้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก้มหน้าลงและพูดขึ้นมาว่า “และฉันก็แต่งงานแล้ว"
"..."
ซูจ้องมองไปที่เบียงก้าอย่างไม่เชื่อสายตา
กว่าที่ซูจะตอบสนองได้ก็ผ่านไปหลายวินาที “ล้อเล่นอะไรอยู่เนี้ย? การที่เธอบอกว่าแต่งงานแล้วนี่เหมือนกันบอกว่าแม่ฉันเนี้ยเก็บฉันมาเลี้ยงจากถังขยะ แล้วแม่แท้ ๆ ของฉันเนี้ยกลับเป็นราชินีผู้สูงศักดิ์แห่งราชวงศ์อังกฤษเลยนะ!”
"ฉันไม่ได้ล้อเล่น" เบียงก้าจ้องมองเข้าไปในดวงตาของซูด้วยท่าทางที่จริงจัง
ซู "..."
เบียงก้าแต่งงานแล้ว
เธอแต่งงานแล้วจริง ๆ
ซูแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เธอได้ยิน
‘แล้วคุณครอว์ฟอร์ดเป็นใครสำหรับเธอล่ะเนี้ย?’
ในฐานะท่านประธานบริษัทผู้ทรงอิทธิพลแห่งที คอร์ปอเรชั่น ผู้หญิงมากหน้าหลายตาจากตระกูลชนชั้นสูงต่างก็ปรารถนาที่จะได้แต่งงานกับเขา แต่ไม่มีใครที่สามารถกุมหัวใจของคุณครอว์ฟอร์ดได้เลย ไม่เคยมีใครเห็นผู้หญิงที่เขาให้ความสนใจแม้แต่คนเดียว
แต่เจ้านายของเธอกลับตกหลุมรักหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว…
ซูอดไม่ได้ที่จะคิดว่าโลกนี้มันบ้าไปแล้วจริง ๆ
ซูกลับมานั่งลงบนเก้าอี้และพยายามกลับมาจดจ่อกับการทำงาน แต่แล้วเธอก็หยุดคิดในสิ่งที่เธอได้ยินจากเบียงก้าไม่ได้
‘ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างเบียงก้าจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเจ้านายของเธอได้อย่างไร?'
เธอครุ่นคิดอยู่ภายในใจ อาจเป็นเพราะว่าความต้องการของพวกเขาทั้งสองคนไม่อาจต้านทานได้จนทำให้เจ้านายของเธอหน้ามืดตามัว หรือเป็นเพราะเบียงก้าที่แสร้งทำตัวไร้เดียงสาเพื่อหลอกลวงเจ้านายของเธอ แต่หลังจากนั้นเมื่อเจ้านายของเธอจับได้ว่าเบียงก้าแต่งงานแล้ว นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้านายของเธอดูอารมณ์ไม่ดีในระหว่างการประชุมรึเปล่า?
เบียงก้ายังคงก้มหน้าทำงานด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
ซูไม่สามารถลบล้างความคิดนี้ออกไปได้ เธอไม่คิดว่าเบียงก้าจะคบผู้ชายสองคนในเวลาเดียวกันได้จริง ๆ เธอไม่เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใครผิดไป
‘ถ้าหากว่าคืนนี้ไม่มีโปรแกรมอะไร เราออกไปดื่มด้วยกันเถอะ’ ซูส่งข้อความถึงเบียงก้า หลังจากที่ส่งข้อความไปแล้วเธอก็ครุ่นคิดและกลัวว่าเบียงก้าจะปฏิเสธ เธอจึงเสริมว่า 'เอาเป็นว่าคืนนี้ เธอเลี้ยงตอบแทนที่ฉันช่วยสอดส่องดูแลบ้านให้ตอนที่เธอออกไปดูแลคุณปู่ก็แล้วกัน’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก