เบียงก้าเดาว่าเรนนี่น่าจะชอบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ
เธอวางกระดาษแผ่นอื่น ๆ ไว้แล้วเลือกหยิบกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ก่อนจะลุกขึ้นยืน
“อ๊า-”
เมื่อลุกขึ้นยืน เธอก็มุ่งความสนใจทั้งหมดไปกับการห่อหนังสือด้วยกระดาษลายสปอนจ์บ๊อบ ทำให้เธอหลงลืมไปเสียสนิทใจว่ามีชายอีกคนยืนอยู่ข้างกายเธอ
เข็มกลัดที่เธอติดเสื้อทำงานมาด้วย บัดนี้ไปเกี่ยวอยู่กับเข็มขัดหนังของชายหนุ่มเสียแล้ว
“ข-ขอโทษค่ะ ฉัน…”เบียงก้าจ้องมองของสองชิ้นที่ติดอยู่ด้วยกันด้วยความอึดอัดใจ
ชายหนุ่มค้อมศรีษะลงมา มีบางสิ่งปรากฏขึ้นในส่วนลึกของแววตา
“สักครู่ค่ะ อีกนิดเดียวก็จะเรียบร้อยแล้วค่ะ...” เบียงก้าพัดมือไปทั่วเข็มขัดของเขาด้วยความลนลาน
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เธอได้สัมผัสกับเข็มขัดของผู้ชายด้วยมือของตัวเอง
ในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ไม่ได้จับเข็มขัดของผู้ชายคนนั้น และไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นตอนที่เธออยู่กับฌองเช่นกัน
เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นที่นี่ แล้วทำไมเรื่องน่าประหลาดพวกนี้ต้องเกิดขึ้นในตอนที่เธอกับลุค ครอว์ฟอร์ดอยู่ด้วยกันทุกที
ราวกับปฏิกิริยาเคมีที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้
เข็มกลัดถูกออกแบบมาอย่างซับซ้อนและมีช่องมากมาย มีอยู่ก้านหนึ่งของเข็มกลัดที่เกี่ยวอยู่กับหัวเข็มขัดของลุค ช่างโชคร้ายเหลือเกินที่ต้องพบว่าเข็มกลัดนั้นติดอยู่กับหัวเข็มขัดอย่างแน่น!
ยิ่งเบียงก้าร้อนรนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดูจะเอาออกยากมากขึ้นเท่านั้น อากาศรอบตัวค่อย ๆ ร้อนขึ้นอย่างมาก...
“ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนเหรอ?” ลุคถาม
เบียงก้าเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่ม
ลุคตัวสูงมาก วันนี้เขาสวมสูทสีดำ โดยปกติแล้วเขาจะเขาสวมเสื้อเชิ๊ตสีขาวด้านในโดยปล่อยกระดุมไว้สองเม็ด แต่เพราะวันนี้เขาต้องทำงานอยู่ในห้องกับพิมพ์เขียว เขาจึงปลดกระดุมเพิ่มอีกหนึ่งเม็ดเพื่อระบายอากาศ เบียงก้าเกือบจะเห็นแผงอกอันแข็งแกร่งของเขาแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการเห็นมันก็ตาม
ชายหนุ่มมีเอวที่คอดจนเกือบจะสมบูรณ์แบบ หากเขาไม่ได้มีอุณหภูมิร่างกายอันแสนจะอบอุ่นเป็นหลักฐานว่าเขาเป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริง ๆล่ะก็ ใครหลาย ๆคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นหุ่นที่ถูกปั้นแต่งขึ้นมาด้วยความรักอันล้นเปี่ยมของศิลปินผู้มากประสบการณ์ก็เป็นได้
“ฉัน...ฉันไม่ได้สนเรื่องเข็มกลัดเท่าไหร่หรอกค่ะ” เบียงก้าพ่ายแพ้ต่อการที่จะสรรหาคำพูดที่ถูกที่ควรในขณะที่ต้องหลบสายตาของลุคไปด้วย “แต่ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้ มันอาจจะลงท้ายด้วยการที่ฉันจะทำให้เข็มขัดของคุณเป็นรอยนะคะ”
เมื่อครั้งที่เธอไปเรียนที่ต่างประเทศ เธอและเพื่อน ๆ เคยออกค้นหาสินค้าแบรนด์ดังมากมายเพื่อให้ตัวเองมีความเข้าใจต่อแบรนด์เหล่านั้น และทั้งหมดที่เธอและเพื่อน ๆ ทำก็เพื่อให้รู้จักแบรนด์ต่าง ๆ ให้มากขึ้นเท่านั้นเอง
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรู้ว่าเข็มขัดที่ลุคสวมใส่อยู่มีราคาแพงเพียงใด
มันแพงมากถึงขนาดที่เธอไม่มีปัญญาชดใช้ให้เขาได้
“หัวเข็มขัดผมจะเป็นรอย ยังไงก็น่าจะดีกว่าให้คุณมาผูกติดกับผมอย่างนี้นะ” ลุคมองไปยังหญิงสาวผู้โง่เขลาที่กำลังสาละวนอยู่กับเข็มขัดของเขาอยู่นานสองนานโดยที่ไม่เห็นว่าเข็มกลัดจะหลุดออกมาแต่อย่างใด
มันเป็นเวลาเย็นเสียแล้ว
แสงของยามเย็นสาดส่องมายังลุค นั่นยิ่งทำให้เขาดูสง่างามเกินจริงยิ่งกว่าเดิม นับตั้งแต่ที่เขาอนุญาต เบียงก้าเม้นริมฝีปากแล้วก้มลงไปจัดการกับเข็มกลัดของตัวเองต่อ
ลุคมองไปยังเบียงก้าราวกับกษัตริย์ที่มองข้าทาสบริวารของตน
เบียงก้ารู้สึกหงุดหงิดขึ้นทุกขณะที่เธอล้มเหลวในการพยายามจะแกะเข็มกลัดของตัวเองออกมา เธอเผยอริมฝีปากของตัวเองออกเล็กน้อย ลมหายใจอุ่นเป่าไปยังหน้าท้องแบนราบของชายหนุ่ม บางอย่างในร่างกายค่อย ๆ ขยายตัวขึ้น ก่อนที่เขาจะรู้ตัวเสียด้วยซ้ำไป
มีเสียงดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ทันใดนั้นเอง หัวเข็มขัดของเขาและเข็มกลัดของเธอก็แยกจากกันในที่สุด
เบียงก้ายิ้มออกอีกครั้ง รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าสีชาดของเธอ เธอสวมเข็มกลัดที่พังไปแล้วของเธอหลับเข้าตรงบริเวณหน้าอกดังเดิม พร้อมลุกขึ้นยืน
มีบางอย่างที่ดู…ประหลาดไป
เธอก้มลงมองตามสัญชาตญาณ
เพียงแต่แวบเดียวก็เพียงพอจะทำให้เธอตระหนกตกใจจนต้องถอยกรูดให้ห่างจากเขา ร่างกายของเธอสั่นเทิ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอีกครั้งด้วยสายตาแห่งความหวาดกลัวและไม่สบายใจ...
บุรุษรูปงามที่สูงราว ๆ 180 หรือ 190 เซนติเมตรหรืออาจจะมากนั้น ยืนตัวตรงสีหน้าของเขาเคร่งขรึมละจริงจังราวกับคุณครูที่กำลังจะลงโทษนักเรียนหญิงที่ทำผิดอย่างไรอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก