พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 158

หลังจากเปลี่ยนรองเท้าแตะแล้ว เบียงก้าก็ดึงเรนนี่กลับจากอ้อมแขนชายคนนั้น

“หนูกินข้าวเย็นรึยัง? หนูหิวไหม?” เบียงก้าเป็นเหมือนแม่คนใหม่ที่คอยดูแลลูก ๆ เธอกลัวว่าลูก ๆ จะหิวจนปวดท้อง

“หนูไม่หิวค่ะ หนูกินข้าวเย็นไปแล้ว” เรนนี่กลับตอบประนึงเด็กน้อยแสนดี

เสียงเด็กฟังดูราวกับยังเป็นเด็กทารกอยู่ และเบียงก้าก็อดยิ้มไม่ได้

ลุคไปที่ระเบียง จุดบุหรี่ขึ้นมาสูบและหันศีรษะมามองผ่านประตูกระจก เขาเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกสาวในห้องนั่งเล่น

ดวงตาของเรนนี่มีผ้าปิดตาอยู่ข้างหนึ่ง ขณะที่ตาอีกข้างยังเปิดอยู่ ขณะที่เธอมองไปยังน้าบี ดวงตาของเด็กดูเหมือนจะเป็นประกายวิบวับ

เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยนั้นมีความสุขจริง ๆ

ลุคมองพวกเขาอยู่ครู่หนึ่งด้วยสายตาอันลึกซึ้ง

ในห้องนั่งเล่น

“ฉัน... ขอไปอาบน้ำให้ไหมได้เอ่ย?” ริมฝีปากของเบียงก้าแนบอยู่บนใบหน้าของเรนนี่ ขณะที่เธอสูดกลิ่นของเด็กตัวน้อย ๆ ปล่อยให้ตัวเองดื่มด่ำและซึมซับความจริงว่าเรนนี่เป็นลูกสาวของเธอเอง

เรนนี่พยักหน้าน้อย ๆ “ก็ได้ค่ะ ตัวหนูจะหอมมาก ๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จแหละค่ะ”

เบียงก้าอุ้มเด็กและไปห้องน้ำ

บลองช์เก็บกระเป๋าเป้และของอื่น ๆ เขายืนอยู่ที่ประตูห้องน้ำอย่างว่าง่าย และบอกเบียงก้าว่า "น้าบีครับ คันโยกในสุดคือสวิตช์นะครับ ส่วนเจลอาบน้ำเด็กอยู่ในขวดสีขาวครับ..."

เขาบอกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนน้าบีจำได้หมด

เมื่อได้ยินเสียงน้ำกระเซ็นในห้องอาบน้ำ บลองช์ก็พูดอย่างรับผิดชอบต่อไปว่า “น้าบี ถ้าคุณต้องการอะไร เรียกผมได้เลยนะครับ ผมจะอยู่ข้างนอก”

เบียงถอดเสื้อผ้าและถุงเท้าของเรนนี่ออก

เมื่อเบียงก้าได้ยินสิ่งที่บลองช์พูด เธออบอุ่นหัวใจมาก แม้ว่าเจ้าตัวเล็กจะเติบโตมาในครอบครัวที่มั่งคั่งอย่างครอว์ฟอร์ดและได้รับเชื้อจากคุณพ่อตัวร้าย แต่เด็ก ๆ กลับเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบและน่ารัก

ช่างหายากเสียเหลือเกิน

“เข้าใจแล้วจ้ะ… ขอบคุณนะ พ่อหนุ่มน้อยแสนน่ารักของฉัน” เบียงก้าประกบใบหน้าของเรนนี่ด้วยมือทั้งสองและพูดเบา ๆ ไปทางด้านนอกห้องน้ำ

บลองช์ยืนพิงกำแพงอยู่นอกห้องน้ำ เขาก้มหน้าลงอย่างเขินอาย จากการได้รับคำชมจากน้าบี แล้วดึงนิ้วของตัวเอง

ถะถับ ถะถับ ถะถับ…

หลังจากสูบบุหรี่ตรงระเบียงเสร็จ ลุคก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่น

ไม่มีใครอยู่ในห้องนั่งเล่นเลย

ขณะที่เขาเดินไปที่ห้องนอน ลุคได้ยินเสียงฝักบัวจากห้องน้ำ เขามองลงไปยังลูกชายที่ยืนอยู่ตรงประตู และเห็นเด็กน้อยมองนิ้วตัวเองอย่างเขินอาย

ผู้เป็นพ่อที่ไม่เข้าใจว่าในหัวของเด็กชายคิดอะไรอยู่ เขาขมวดคิ้วและถามว่า “หน้าลูกเป็นอะไรไป? ลูกเป็นตะคริวรึเปล่า?”

"ผม... ผมได้รับคำชมจากน้าบีด้วยแหละ..." บลองช์เริ่มตะกุกตะกักเมื่อเริ่มพูด แต่เมื่อพูดออกมาแล้ว หน้าของเด็กกลับแดงขึ้นอีก

ลุคไม่เข้าใจสิ่งที่ลูกพูดและก็พูดอะไรไม่ออก

เสียงโทรศัพท์สั่นมาจากห้องนั่งเล่น เมื่อลุคมองตามไป เขาเห็นกระเป๋าของเบียงก้าอยู่บนโซฟา

เขามองไปยังประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่และเดินไปที่โซฟา

ลุคหยิบโทรศัพท์ที่สั่นออกจากกระเป๋า เมื่อเขาเห็นว่าหมายเลขผู้โทรเข้าคือซาเวียร์ เขาก็ขมวดคิ้ว

เขากดตัดสายโดยไม่ลังเลใจ

...

เนื่องจากดวงตาของเรนนี่ได้รับบาดเจ็บมาก เธอจึงต้องไม่ให้น้ำเข้าไปในแผล นั่นเป็นสาเหตุที่การอาบน้ำเป็นไปด้วยความยากลำบาก

เบียงก้าถือฝักบัวไว้เหนือร่างเรนนี่และปล่อยให้น้ำไหลผ่านลงมา

เรนนี่รู้สึกอิจฉาเด็กคนอื่น ๆ ที่เล่นน้ำกับแม่มาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เธอมีน้าบีอยู่กับเธอแล้ว เธอก็อดที่จะเล่นซนไม่ได้

"ฮิฮิ!"

เสียงหัวเราะของเรนนี่มาจากห้องน้ำ

"อ๊ะ! ไม่เอาสิ-"

เบียงก้าพยายามห้ามไม่ให้เด็กหญิงสร้างปัญหา แต่น้ำเสียงเธออ่อนโยนและมีเสน่ห์มาก

หลังจากผ่านไปสองหรือสามนาที ห้องน้ำก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งดั่งตอนแรกและเสียงกระเซ็นจากหัวฝักบัวก็หยุดลง

ร่างกายเรนนี่มีกลิ่นสบู่หอม ๆ และผมที่เปื้อนฟองก็ถูกล้างให้สะอาดเช่นกัน เบียงก้าเช็ดใบหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูนุ่ม ๆ

ตาซ้ายที่เจ็บอยู่นั้น ไม่ได้โดนน้ำใด ๆ

เมื่อเธอห่อเด็กน้อยที่ผมเปียกด้วยผ้าเช็ดตัวออกไป เบียงก้าก็ก้มหน้าลงแล้วถามว่า “หนูเจ็บตารึเปล่า?”

เรนนี่รู้ว่าหมอบอกเธอว่าอาจเจ็บนิดหน่อย แต่ตราบใดที่เธอไม่เกาหรือไม่ใช้มือไปถู ก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้จะได้รับยาอีกตัวหนึ่ง และดวงตาก็หายดีภายในสองสามวัน

“ตราบใดที่หนูมีน้าบี หนูก็ไม่เจ็บแล้วค่ะ” ปากสีชมพูมุ่ย ๆ ของเรนนี่พูด

เบียงก้าออกจากห้องน้ำ เธอชอบความรู้สึกที่เธอเป็นที่ต้องการของเรนนี่ เธอเช็ดผมเรนนี่อย่างระมัดระวังจนผมแห้งไปแล้วครึ่งหนึ่ง

ณ บาร์แห่งหนึ่งในตอนกลางคืน

ซาเวียร์เดินออกจากบาร์ไปที่ประตูหลัง หลังจากที่ออกจากประตูหลัง เขาก็มาถึงตรอกมืดที่มีประตูทั้งสองด้าน

บาร์นั้นเป็นบริษัทของซาเวียร์เมื่อหลายปีก่อน

"เจ้านาย" พนักงานเสิร์ฟเดินผ่านไป พยักหน้าอย่างสุภาพให้กับซาเวียร์ และเหลือบมองผู้หญิงที่เดินตามเจ้านาย เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาพยักหน้าและรีบออกไปให้บริการแขก

ซาเวียร์ยังคงโทรหาเบียงก้า

ในตอนแรกมันบอกว่า "หมายเลขที่ท่านเรียกไม่ตอบรับ" ผ่านไปสักพักก็กลายเป็น “ขออภัย หมายเลขที่ท่านเรียกไม่พร้อมใช้งาน”

เสียงโทรศัพท์ที่ได้ยินนั้นง่ายต่อการตีความ ในตอนแรกเบียงก้าไม่รับสายและปล่อยให้โทรศัพท์ดังขึ้นต่อไป

ต่อมาเบียงก้าไปยังสถานที่ที่อับสัญญาณและไม่สามารถเชื่อมต่อได้ หรือเธอได้บล็อกหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถติดต่อเธอได้

ใบหน้าของซาเวียร์เริ่มแสดงออกเป็นความทุกข์ใจ

มาลีที่ตามหลังซาเวียร์มาดูน่าสงสารมากเนื่องจากน้ำตายังคลอเบ้าอยู่ เธอแค่ต้องการความรักจากซาเวียร์

ซาเวียร์เดินเข้าไปที่ซอย

มาลีเดินตามเขาต่อไป

นับตั้งแต่ที่เธอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อพักฟื้น เธอก็ได้ครุ่นคิดถึงสิ่งต่าง ๆ เนื่องจากสภาพร่างกายเธอไม่สามารถทำให้เธอมีบุตรและแต่งงานกับเศรษฐีได้ สิ่งเดียวที่เหลือให้เธอทำคือ การเป็นปลิงดูดเงินจากชายคนนั้นให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

ผ่านไปครึ่งทาง ซาเวียร์หันศีรษะและมองมาลีอย่างดูถูก “จะตามมาทำไม?”

มาลีเม้มปากไม่พูดอะไร

ซาเวียร์อารมณ์เสียและสงสัยว่าเบียงก้าหายไปไหน

เธอยังคงเป็นภรรยาเขา ถ้าเธอไปที่ไหนสักแห่งแล้วไม่บอกสามี แสดงว่าเธออยากลองดี

“หยุดตรงนั้นเลยนะคะ...” มาลีร้องเรียกชายที่หันหลังแล้วเดินจากไป

ซาเวียร์หันกลับมามองแล้วพุ่งตัวเข้าหาเธอ เขาไล่เธอราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่า เขาหยิบเงินก้อนหนึ่งจากกระเป๋าเงินแล้วโยนใส่หน้าเธอ “เอาเงินนี้ แล้วไสหัวไปซะ”

“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ เพราะคุณคนเดียว คุณไม่สงสารฉันบ้างเหรอ?” มาลีไม่รู้ว่าการขอความเห็นใจกับคนคนนี้จะได้ผลหรือไม่ แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้

ขณะที่พูด เธอเอามือโอบรอบเอวอันแข็งแรงของชายคนนั้น

เงินของซาเวียร์ร่วงหล่นลงกับพื้น เขามองลงไปที่ผู้หญิงที่เกาะติดกับเขาด้วยความรังเกียจ เขาหัวเราะออกมาและคว้าคอเธอด้วยมือใหญ่ยักษ์ แล้วกระแทกเธอกับผนังในตรอกนั้น

หน้าผากของมาลีถูเข้ากับกำแพง และเธอไม่รู้ว่าผิวหนังของเธอเกิดบาดแผลมากน้อยเพียงใด

“หลังจากลูกแท้งไปเพราะโดนผมทำเรื่องอย่างว่าแรงเกินไป คุณก็เลยกระเหี้ยนกระหือรืออยากสนุกอีกรอบเลยเหรอ?” ซาเวียร์ปฏิบัติตัวราวกับเป็นพวกโรคจิต เขาฉีกเสื้อผ้าที่สีสันสดใสและจัดจ้านของเธอก่อนจะเดินตรงเข้าไป!

“เอ่อ...อ๊า...”

ความเจ็บปวดที่มาลีรู้สึกได้ ทำให้เธอเหงื่อออกทั่วหน้าผากขณะที่เล็บแวววาวที่เพิ่งทำมาใหม่เธอ เจาะเข้าไปในพื้นผิวขรุขระของผนัง

ช่างเป็นความเจ็บปวดเหลือทน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก