“บอกเราสิว่าเธอเห็นอะไร?”
เพื่อนร่วมงานหญิงสองสามคนจากแผนกการเงินที่คอยดูจากด้านหนึ่งเอ่ยถามเพื่อนร่วมงานที่กำลังถือกล้องส่องทางไกลอยู่
หญิงสาวที่มีกล้องส่องทางไกลเป็นพนักงานใหม่ของแผนกการเงินและยังไร้เดียงสา เธอบอกทุกคนตามที่ตาเห็น
แต่เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนต่างก็มีสีหน้าสับสนไปพร้อม ๆ กัน
“ฉันพูดจริงนะคะ” เพื่อนร่วมงานหญิงผู้ถือกล้องส่องทางไกลพูดอย่างไร้เดียงสา
เพื่อนร่วมงานของเธอหันกลับมามองเธอ “นี่แม่หนู เธอนี่เขียนนิยายเก่งจริง ๆ เลยนะ ลองส่งต้นฉบับนิยายของเธอไปให้นิตยสารโรแมนติกดูสิ ถ้าเธอบอกว่าเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งตักของเจ้านาย ผู้หญิงคนนั้นจูบเขาอย่างรุนแรงตอนที่กำลังยั่วยวนเขา และดูเหมือนจะดึงเข็มขัดของเจ้านายเพื่อบังคับร่างของเขาแนบชิดกับตัวเอง ฉันก็อาจจะเชื่อเธอ”
แต่เรื่องที่เจ้านายกำลังเป่าผมของผู้หญิงคนนั้นและห่อผ้าเช็ดตัวให้เธออย่างนั้นน่ะเหรอ? แถมยังนวดขาให้ด้วยเนี่ยนะ? ช่างเป็นเรื่องที่น่าขันเสียจริง!
เพื่อนร่วมงานอีกคนถือของไว้ให้ “ผู้หญิงคนนั้นอาจจะหน้าตาดี แต่ที่แผนกประชาสัมพันธ์มีคนที่สวยกว่านั้นนะ ฉันทำงานที่นี่มาหลายปีแล้ว แล้วก็ไม่เคยได้ยินข่าวลือที่ว่าเจ้านายมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้หญิงคนไหนในแผนกประชาสัมพันธ์เลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นฉันไม่เชื่อหรอกว่าผู้หญิงจากแผนกออกแบบจะมีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้านาย เราควรดูอยู่ห่าง ๆ ไปก่อน แล้วค่อยมาตัดสินกันทีหลัง”
จากนั้น คนจากแผนกการเงินก็แยกย้ายกันออกไป
พนักงานใหม่ของแผนกการเงินผู้ที่ถือกล้องส่องทางไกลยังคงยืนอยู่อย่างโง่งม เธอมองไปยังรถของเจ้านายที่ขับออกไป
เธอมองดูรถแล่นออกไปและได้แต่สงสัยว่าสมองของเธอผิดปกติอะไรหรือไม่ ดวงตาของเธอไม่ค่อยดี เพราะอาจมีบางอย่างกดทับเส้นประสาทตาของเธออยู่อย่างนั้นรึเปล่า?
ทุกอย่างที่เธอเห็นเป็นเพียงภาพลวงตาอย่างนั้นหรือ?
…
อีวอนน์กลับไปที่ใจกลางเมืองด้วยรถคันเดียวกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ในแผนก
ในระหว่างทางมาที่นี่ รถบัสนั้นเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบนินทา หัวข้อที่พวกเขาพูดกันนั้นไม่พ้นเรื่องของอีวอนน์และเจ้านาย แต่ทว่าขากลับ กลับไม่มีใครพูดอะไรกันเลย บางคนในพวกเขาเล่นโทรศัพท์ ในขณะที่บางคนแกล้งหลับ
สรุปได้ว่า บรรยากาศที่เงียบงันเหล่านี้ ทำให้อีวอนน์นึกแค้นใจ เพราะก่อนหน้านี้ทุกคนยังหมุนรอบตัวเธออยู่เลย
เมื่อรถบัสมาถึงหน้าบริษัท อีวอนน์เป็นคนแรกที่ลงมา
เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ จากแผนกออกแบบต่างพากันเม้มริมฝีปากและถ่ายถอนหายใจ อีวอนน์สร้างเรื่องโกหกคำโตเสียแล้ว
ความเย่อหยิ่งที่เธอมีก่อนหน้านี้ ตอนนี้ยิ่งสร้างความอับอายให้เธอ
เจ้านายเองก็สร้างความอับอายให้แก่อีวอนน์ต่อหน้าทุกคนก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน
ทุกคนก้าวลงจากรถบัส
“คุณผู้หญิงไม่สบายรึเปล่าครับ?” คนสุดท้ายที่ลงจากรถหันกลับมามองหัวหน้าแผนก เธอยังคงอยู่ในรถโดยหันศีรษะพิงหน้าต่าง
หัวหน้าแผนกตอบว่า “ฉันสบายดี ฉันแค่ป่วยรถนิดหน่อย คุณลงไปก่อนเถอะ”
“ได้ครับ!”
พนักงานคนสุดท้ายลงจากรถบัสไปแล้ว
หัวหน้าแผนกมองผ่านกระจกด้านหน้ารถไป เธอเห็นอีวอนน์ยืนอยู่หน้าอาคารของบริษัท ที คอร์ปอเรชั่น
ครู่เดียว รถสปอร์ตสีเหลืองก็จอดตรงหน้าอีวอนน์แทบจะในทันที
อีวอนน์เปิดประตูรถสปอร์ตด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอยังโยนข้าวของเข้าไปในรถก่อนจะก้าวเข้าไป
ดูจากเสื้อผ้าและรถของเธอ อีวอนน์คงจะเป็นหญิงสาวที่มีชื่อเสียงจากครอบครัวเศรษฐีอย่างไม่ต้องสงสัย นอกเหนือจากความประพฤติและการวางตัวแล้ว ภูมิหลังของเธอก็คงอยู่ในระดับเดียวกันกับท่านประธานเป็นแน่
แต่รอบตัวท่านประธานนั้นกลับไม่มีผู้หญิงล้อมรอบเขาเลย เขาไม่เคยไปมาหาสู่กับสาวสังคมหรือคนดังคนไหนเลยแม้แต่น้อย
อีวอนน์ทำงานในแผนกออกแบบและเธอก็ดูเหมาะสมกับตำแหน่งผู้หญิงของท่านประธานในทุกด้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก