พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 186

“บอกเราสิว่าเธอเห็นอะไร?”

เพื่อนร่วมงานหญิงสองสามคนจากแผนกการเงินที่คอยดูจากด้านหนึ่งเอ่ยถามเพื่อนร่วมงานที่กำลังถือกล้องส่องทางไกลอยู่

หญิงสาวที่มีกล้องส่องทางไกลเป็นพนักงานใหม่ของแผนกการเงินและยังไร้เดียงสา เธอบอกทุกคนตามที่ตาเห็น

แต่เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนต่างก็มีสีหน้าสับสนไปพร้อม ๆ กัน

“ฉันพูดจริงนะคะ” เพื่อนร่วมงานหญิงผู้ถือกล้องส่องทางไกลพูดอย่างไร้เดียงสา

เพื่อนร่วมงานของเธอหันกลับมามองเธอ “นี่แม่หนู เธอนี่เขียนนิยายเก่งจริง ๆ เลยนะ ลองส่งต้นฉบับนิยายของเธอไปให้นิตยสารโรแมนติกดูสิ ถ้าเธอบอกว่าเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งตักของเจ้านาย ผู้หญิงคนนั้นจูบเขาอย่างรุนแรงตอนที่กำลังยั่วยวนเขา และดูเหมือนจะดึงเข็มขัดของเจ้านายเพื่อบังคับร่างของเขาแนบชิดกับตัวเอง ฉันก็อาจจะเชื่อเธอ”

แต่เรื่องที่เจ้านายกำลังเป่าผมของผู้หญิงคนนั้นและห่อผ้าเช็ดตัวให้เธออย่างนั้นน่ะเหรอ? แถมยังนวดขาให้ด้วยเนี่ยนะ? ช่างเป็นเรื่องที่น่าขันเสียจริง!

เพื่อนร่วมงานอีกคนถือของไว้ให้ “ผู้หญิงคนนั้นอาจจะหน้าตาดี แต่ที่แผนกประชาสัมพันธ์มีคนที่สวยกว่านั้นนะ ฉันทำงานที่นี่มาหลายปีแล้ว แล้วก็ไม่เคยได้ยินข่าวลือที่ว่าเจ้านายมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้หญิงคนไหนในแผนกประชาสัมพันธ์เลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นฉันไม่เชื่อหรอกว่าผู้หญิงจากแผนกออกแบบจะมีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้านาย เราควรดูอยู่ห่าง ๆ ไปก่อน แล้วค่อยมาตัดสินกันทีหลัง”

จากนั้น คนจากแผนกการเงินก็แยกย้ายกันออกไป

พนักงานใหม่ของแผนกการเงินผู้ที่ถือกล้องส่องทางไกลยังคงยืนอยู่อย่างโง่งม เธอมองไปยังรถของเจ้านายที่ขับออกไป

เธอมองดูรถแล่นออกไปและได้แต่สงสัยว่าสมองของเธอผิดปกติอะไรหรือไม่ ดวงตาของเธอไม่ค่อยดี เพราะอาจมีบางอย่างกดทับเส้นประสาทตาของเธออยู่อย่างนั้นรึเปล่า?

ทุกอย่างที่เธอเห็นเป็นเพียงภาพลวงตาอย่างนั้นหรือ?

อีวอนน์กลับไปที่ใจกลางเมืองด้วยรถคันเดียวกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ในแผนก

ในระหว่างทางมาที่นี่ รถบัสนั้นเต็มไปด้วยเสียงซุบซิบนินทา หัวข้อที่พวกเขาพูดกันนั้นไม่พ้นเรื่องของอีวอนน์และเจ้านาย แต่ทว่าขากลับ กลับไม่มีใครพูดอะไรกันเลย บางคนในพวกเขาเล่นโทรศัพท์ ในขณะที่บางคนแกล้งหลับ

สรุปได้ว่า บรรยากาศที่เงียบงันเหล่านี้ ทำให้อีวอนน์นึกแค้นใจ เพราะก่อนหน้านี้ทุกคนยังหมุนรอบตัวเธออยู่เลย

เมื่อรถบัสมาถึงหน้าบริษัท อีวอนน์เป็นคนแรกที่ลงมา

เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ จากแผนกออกแบบต่างพากันเม้มริมฝีปากและถ่ายถอนหายใจ อีวอนน์สร้างเรื่องโกหกคำโตเสียแล้ว

ความเย่อหยิ่งที่เธอมีก่อนหน้านี้ ตอนนี้ยิ่งสร้างความอับอายให้เธอ

เจ้านายเองก็สร้างความอับอายให้แก่อีวอนน์ต่อหน้าทุกคนก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน

ทุกคนก้าวลงจากรถบัส

“คุณผู้หญิงไม่สบายรึเปล่าครับ?” คนสุดท้ายที่ลงจากรถหันกลับมามองหัวหน้าแผนก เธอยังคงอยู่ในรถโดยหันศีรษะพิงหน้าต่าง

หัวหน้าแผนกตอบว่า “ฉันสบายดี ฉันแค่ป่วยรถนิดหน่อย คุณลงไปก่อนเถอะ”

“ได้ครับ!”

พนักงานคนสุดท้ายลงจากรถบัสไปแล้ว

หัวหน้าแผนกมองผ่านกระจกด้านหน้ารถไป เธอเห็นอีวอนน์ยืนอยู่หน้าอาคารของบริษัท ที คอร์ปอเรชั่น

ครู่เดียว รถสปอร์ตสีเหลืองก็จอดตรงหน้าอีวอนน์แทบจะในทันที

อีวอนน์เปิดประตูรถสปอร์ตด้วยความโกรธเกรี้ยว เธอยังโยนข้าวของเข้าไปในรถก่อนจะก้าวเข้าไป

ดูจากเสื้อผ้าและรถของเธอ อีวอนน์คงจะเป็นหญิงสาวที่มีชื่อเสียงจากครอบครัวเศรษฐีอย่างไม่ต้องสงสัย นอกเหนือจากความประพฤติและการวางตัวแล้ว ภูมิหลังของเธอก็คงอยู่ในระดับเดียวกันกับท่านประธานเป็นแน่

แต่รอบตัวท่านประธานนั้นกลับไม่มีผู้หญิงล้อมรอบเขาเลย เขาไม่เคยไปมาหาสู่กับสาวสังคมหรือคนดังคนไหนเลยแม้แต่น้อย

อีวอนน์ทำงานในแผนกออกแบบและเธอก็ดูเหมาะสมกับตำแหน่งผู้หญิงของท่านประธานในทุกด้าน

ในฐานะหัวหน้าแผนกออกแบบ แน่นอนว่าเธอจะต้องดูแลนายหญิงในอนาคตที่ทำงานอยู่ที่นี่ให้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้น...

ไม่แน่ว่าเธออาจจะนบนอบผิดคน?

เธอเชื่อว่าในไม่ช้า ความจริงเรื่องเจ้านายกับเบียงก้าจะต้องแพร่กระจายไปทั่วบริษัท จากนั้นแผนกออกแบบก็จะถูกจับตามองเช่นกัน

ที่สุดแล้ว ผู้หญิงที่เจ้านายติดพันด้วยมาจากแผนกออกแบบ

ในฐานะหัวหน้าแผนกออกแบบแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มใจอะไรเลย ในทางกลับกันแล้วเธอกลับรู้สึกเหมือนกำลังจมอยู่ในห้วงน้ำลึกมากกว่า

เธอได้สร้างปัญหามากมายให้กับเบียงก้าเพียงเพื่อที่จะทำให้อีวอนน์มีความสุข เธอควรให้เด็กใหม่เสิร์ฟชาหรือกาแฟ เพราะอีวอนน์ยังคงอยู่ช่วงทดลองงาน ในขณะที่เบียงก้ากลายเป็นพนักงานอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่แล้ว ในช่วงเวลานี้ เบียงก้ายังคงต้องทำหน้าที่เสิร์ฟกาแฟและชาให้ทุกคนอยู่

เมื่อวานนี้ อีวอนน์บ่นเรื่องพื้นที่ไม่สะอาด ในฐานะหัวหน้าแผนก เธอก็สั่งให้เบียงก้ากวาดและถูพื้นจนเอี่ยมอ่องเพื่อให้อีวอนน์พอใจ

แต่หลังจากผ่านพ้นปัญหาและความสับสนมากมายมาได้ ในที่สุดเธอ ก็ได้รู้ว่าอีวอนน์โกหกทั้งเพ!

เบียงก้าต่างหากที่เกี่ยวพันกับเจ้านาย!

เธอจำได้ว่าซูกับนีน่าขึ้นรถของเจสันกลับไปด้วย แต่เธอเป็นถึงหัวหน้าแผนก กลับต้องขึ้นรถบัสคันเดียวกันกับพนักงานทั่วไป นั่นทำให้เธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก

หลังจากที่อีวอนน์กลับถึงบ้าน หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เข้านอน

ก่อนจะหลับลง อีวอนน์โทรหาอลิสันและร้องไห้ “คุณป้าคะ หนูทนไม่ไหวแล้วนะคะ วันนี้ลุคทำให้หนูอายต่อหน้าทุกคน หนูตัดสินใจแล้วว่าวันจันทร์นี้จะลาออก หนูต้องขอโทษคุณป้าด้วยนะคะที่ทำให้ผิดหวัง”

อลิสันถามว่า “เกิดอะไรขึ้นล่ะ วอนน์? ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จากันก่อนนะ แค่บอกป้าให้หมดเลย ป้าจะเข้าข้างหนูเอง อย่าร้องไห้เลยนะ บอกป้าหน่อยว่าลุคทำให้หนูอับอายเรื่องอะไร ลูก?”

แม่ของอีวอนน์เข้ามาในห้องลูกสาวในตอนนี้ เธอได้ยินทุกอย่างที่ลูกสาวพูด

อีวอนน์บอกให้แม่ของเธอเงียบและเปิดลำโพงของโทรศัพท์ขณะสะอื้นไห้

หลังจากที่อลิสันได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เธอเอ่ยอย่างผิดหวัง “หนูวอนน์ หนูเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า? เบียงก้าน่ะแต่งงานแล้ว เธอจดทะเบียนสมรสกับชายอื่นแล้วนะ!”

“...”

อีวอนน์หยุดร้องไห้เพราะตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ในทันที

เบียงก้าถูกซาเวียร์บังคับให้จดทะเบียนสมรส และเพราะเรื่องเหล่านี้น่ารังเกียจเกินไป อีวอนน์จึงไม่ใส่ใจแม้แต่จะจำมัน

แต่หลังจากที่ได้ยินอลิสันบอกเรื่องนี้กับเธอ อีวอนน์ก็รู้ได้ในทันทีว่าเธอควรทำเช่นไร

แม่ของอีวอนน์อยู่อีกฝั่งหนึ่งและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้เพียงแค่ว่าลูกสาวของเธอถูกทำร้ายจิตใจ และเธอก็สรุปได้ว่าผู้หญิงอีกคนหนึ่งพยายามจะยั่วยวนลุค เธอโกรธมาก “นางแพศยาตัวไหนที่พยายามจะขโมยผู้ชายของลูกแม่ห๊ะ? แถมแต่งงานแล้วอีก? ลูกคิดว่าลูกควรจะเสียน้ำตาให้เรื่องพวกนี้งั้นเหรอ? สอนบทเรียนนางนั่นสิ! ให้นางนั่นรู้ว่าตัวมันเป็นผู้หญิงแบบไหน ลูกอยากให้แม่สอนลูกทีละขั้นเลยรึเปล่า?”

“คุณป้า หนูคงลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณป้าไม่เตือนหนู ขอบคุณนะคะ หนูรู้แล้วค่ะว่าควรเอายังไงต่อ” หยาดน้ำตาของอีวอนน์แปรเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ

เบียงก้าถูกลุคพาขึ้นไปชั้นบน

หลังจากถูกมือใหญ่โตของลุคนวด น่องของเธอก็ไม่เป็นตะคริวอีก

หากแต่ชายหนุ่มยังคงกังวลอยู่

“จัดการเรื่องของคุณเถอะค่ะ ฉันสบายดี” หลังจากที่เบียงก้ากลับถึงบ้าน เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินไปหยิบแก้วน้ำในครัวให้เขา จากนั้น เธอก็บอกให้เขาจัดธุระของตนต่อไป

วันนี้เธอมีความสุข

สิ่งที่ลุคได้กระทำต่อหน้าทุกคนนั้นถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับอีวอนน์

“คุณมีความสุขไหมที่ผมขจัดข้อครหาเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับอีวอนน์ด้วยวิธีแบบนั้น?” ชายคนนั้นพูดอย่างสงบใจ ก่อนจะดื่มน้ำในมือ

เบียงก้าถูกชายคนนั้นเปิดโปงความรู้สึกเดี๋ยวนั้นเลย เธอเห็นว่าเขาลุกขึ้นหลังจากเอ่ยถามเธอ ก่อนที่เขาก็เริ่มเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ ... ในท้ายที่สุด เธอก็ติดอยู่ที่มุมกำแพง พร้อมกับลมหายใจระอุของเขาที่เป่ารดอยู่บนใบหน้าของเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก