พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 185

เมื่อเบียงก้าไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ที่มาจากด้านหน้า เธอจึงเงยหน้าขึ้นทั้ง ๆ ที่อารมณ์ไม่ดีขณะที่เป็นตะคริว ในตอนนั้นเอง เธอก็เห็นผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาเธอ

เขาสูงและขายาว ท่าทีดูจริงจังมาก เมื่อเขาสวมชุดสูท เขาดูราวกับเป็นพระเจ้าจำแลงกายลงมา

เจ้านายก็ยังคงเป็นเจ้านายอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นตรงหน้ากระดานสนทนาบนถนนทางการเงินในนิวยอร์ก หรือห้องประชุมในสำนักงาน หรือแม้แต่ในชนบทที่บางครั้งพวกเขาจะจัดงานต่าง ๆ เขาก็ยังสามารถแสดงสีหน้าจริงจังได้

ราวกับว่าไม่มีอะไรหรือไม่มีใครในโลกนี้ที่สามารถทำให้เขาเปลี่ยนท่าทีของเขาได้ ใบหน้าและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความใจร้ายเสมอ

แม้ว่าเขาจะขับรถไปในชนบท แต่เขาก็ยังสวมชุดสูทที่คุ้นเคยและเลือกสรรมาอย่างมีรสนิยม เขามักจะทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความซับซ้อนและความยุ่งเหยิงอย่างสุดขีดอยู่เสมอ

เบียงก้าไม่เคยคาดหวังว่าลุคจะเดินมาหาเธอ

ทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้?

เขาหันหลังให้ดวงอาทิตย์อัสดง เบียงก้ามองมาที่เขา ในขณะที่ชำเลืองตา แล้วเธอก็หันกลับมามองข้างหลัง เธอแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ข้างหลังเธอ

เขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

ไม่ใช่ว่า เบียงก้าไม่ต้องการพูดคุยกับเขา เป็นเพียงว่าเธอไม่ต้องการจะพูดคุยกับเขาต่อหน้าทุกคนในบริษัท

“มีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ? ดูเหมือนว่าคุณจะไม่สบายตรงไหนใช่รึเปล่า?” ลุคนั่งยอง ๆ โดยไม่ต้องสนใจภาพลักษณ์ของผู้เป็นนายอีกต่อไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล ในขณะที่เขาสำรวจข้อเท้าและใบหน้าซีดของเธอ

ในเวลานี้สายตาของพวกเขาสบกัน เบียงก้าขมวดคิ้วเล็กน้อย และเธอสังเกตเห็นว่าเขาเองก็ขมวดคิ้วด้วย

เขาเป็นห่วงเป็นใยเธอ

เธอคิดว่าบางทีเขาอาจมาเพราะว่าเขาเป็นห่วง เธอส่ายหน้าและก้มศีรษะลงเพื่อที่เธอจะได้ไม่มองเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้น เธออธิบายว่า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ เชิญคุณคุยเรื่องงานต่อได้เลย”

เธอไม่ต้องการเป็นจุดสนใจในตอนนั้น

ลุคลุกขึ้น และทิวทัศน์เบื้องหลังพวกเขาพร้อมกับพนักงานที่อยู่รอบ ๆ กลายเป็นฉากประกอบ เขาพูดออกมาว่า “คุณครับ มานี่ที"

ซูเข้ามาหลังจากถูกเรียก

“เกิดอะไรขึ้นกับเบียงก้าเหรอครับ?” ดวงตาของลุคเต็มไปด้วยความกังวล แต่เมื่อเขาพูดกับซู ดวงตาของเขาดูจริงจัง

“เธอ…” ซูไม่เคยกลัวใคร แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้บังคับบัญชาของเธอก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเธอเผชิญหน้ากับเจ้านายที่ทรงพลัง เธอพูดตะกุกตะกัก “บี… บีกำลังเป็นตะคริวรุนแรงมากค่ะ น้ำที่เราไปว่ายน้ำนั้นเย็นเกินไปและร่างกายบีเองก็อ่อนแอมากค่ะ”

เมื่อซูพูดคำว่า 'ตะคริว' ลุคก็หันหลังแล้วนั่งยอง ๆ ในทันที เมื่อเขากำลังจะเอื้อมออกไปสัมผัสเบียงก้า เขาถามว่า “คุณยืนด้วยตัวเองไหวไหม?”

เบียงก้ามองดูชายคนนั้นซึ่งกำลังยื่นมือมาหาเธอ เธอต้องการจะยืนขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเธอขยับน่องแม้เพียงเล็กน้อย ความเจ็บปวดก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น

เธอขมวดคิ้ว

เมื่อเขาเห็นสิ่งนี้ ลุคคว้าตัวเธอและอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวไปโดยไม่พูดอะไร

"ปล่อยฉันลงนะคะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้” เสียงเบียงก้านั้นเล็กและแผ่วเบา เธอฟังดูเหมือนยุง แต่ก็ดังพอที่ผู้ชายที่อุ้มเธอไว้จะได้ยินเธอ

“ถ้าคุณขยับ ผมจะจูบคุณต่อหน้าทุกคนแน่”

ลุคอุ้มเธอและเดินไปที่รถเรนจ์โรเวอร์สีดำซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล เมื่อเธอพยายามจะลงจากตัวเขา เขาก็ก้มหน้ามองมา และมองเธอด้วยสายตาเยาะเย้ยแต่ก็สงสารในเวลาเดียวกัน

ทุกคนในที่เกิดเหตุยืนตัวแข็งและอ้าปากค้าง

ในทางกลับกัน อีวอนน์มองดูชายของเธออุ้มเบียงก้าออกไป เธอโกรธมากจนโยนผ้าคลุมไหล่ในมือทิ้ง

ไม่มียินเสียงอะไรเลย แม้แต่เสียงเดียว

ไม่มีใครกล้าถามว่าทำไมเจ้านายถึงพาเบียงก้าไป

ในขณะเดียวกัน อีวอนน์ คู่รักที่ถูกลือนาม เธอแทบไม่ได้แตะต้องเสื้อของเจ้านายเลย

เจ้านายไม่ได้มองที่อีวอนน์ด้วยซ้ำ ราวกับว่าเธอเป็นเพียงอากาศธาตุเท่านั้น และอยู่ในระดับเดียวกับพนักงานทั่วไปคนอื่น ๆ

เธอไม่มีคุณสมบัติพอที่จะทำให้เจ้านายมองเธอได้เลย

ยามอาทิตย์อัสดงและกิจกรรมต่าง ๆ ก็จบลง

เมื่อแผนกถัดไปกำลังเก็บของ พวกเขาก็เริ่มคุยกัน “ความสัมพันธ์ของเบียงก้ากับเจ้านายเป็นอย่างไร?”

“เบียงก้าเดินไม่ได้ ฉันคิดว่าเธอล้มหรือข้อเท้าอาจพลิก บางทีเจ้านายอาจแค่เป็นคนใจดีที่ยินดีจะช่วยเหลือพนักงานสาวของตนเท่านั้นก็ได้” มีคนตอบอย่างไร้เดียงสาขณะที่พวกเขาจัดของ

“เจ้านายเป็นคนใจดีงั้นเหรอ? ตาบอดเปล่าเนี้ย? เคยมีที่ไหนกันที่เจ้านายจะใจดี? เขาเย็นชา ถูกไหม? ไม่สิ เขาเป็นคนที่เยือกเย็นที่สุดในโลก! มากถึงมากที่สุดเลยแหละ!"

พนักงานหญิงที่ได้ยินเรื่องที่เกี่ยวกับอดีตของเจ้านาย และถอนหายใจแล้วพูดว่า “ในความเป็นจริง ถ้าเบียงก้าล้มลงหรือบิดข้อเท้าเธอพลิกจริง ๆ สิ่งที่เจ้านายน่าจะทำได้คือ สั่งคนให้โทรหา 911 เขาน่าจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำไป ฉันได้ยินมาว่าเขาโหดเหี้ยมกับตัวเองด้วย อย่าว่าแต่คนอื่นเลย”

เมื่ออีวอนน์หยิบกระเป๋าเธอแล้วไปที่รถ เธอได้ยินการสนทนาของพวกเขา

ผู้คนจากแผนกอื่นไม่เคยคุยกับอีวอนน์มาก่อน ดังนั้น แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าอีวอนน์เป็นใคร

พวกเขาพูดต่อหน้าเธอว่า “เจ้านายพาเธอไปที่รถส่วนตัวด้วยตัวเอง แน่นอนคงมีอะไรที่มากเกินกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับลูกน้องแล้วละ พวกคุณคิดว่าไง? ทุกครั้งที่แผนกออกแบบจะจ้างใครสักคน พวกเขาจะต้องผ่านเจ้านายก่อนจะได้เข้าไป ท้ายที่สุดแล้ว แผนกออกแบบมีความสำคัญต่อบริษัท เจ้านายคงจะจับตาดูเธออยู่แล้วตอนที่เธอมาสัมภาษณ์”

“ฉันได้ยินมาว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนเคยนั่งในที่นั่งผู้โดยสารของเจ้านายมาก่อน มีคนถามคุณดอยล์เกี่ยวกับเรื่องนี้ระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำประจำปี แต่เขาตอบว่า 'ถ้าพวกเขาไม่ใช่ภรรยาหรือลูกสาวของเจ้านาย ทำไมพวกเธอถึงจะต้องนั่งในที่นั่งผู้โดยสารในรถด้วยเล่า?'” ผู้หญิงคนนั้นเก็บข้าวของและมองที่เจสัน “ฉันจะถามเขาเองว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้รับอนุญาตให้นั่งในที่นั่งผู้โดยสารของเจ้านายตอนนี้”

เจสันคว้าสิ่งของของเบียงก้าและเดินกลับไปที่เรนจ์โรเวอร์สีดำ เขาไม่ได้รบกวนเจ้านายและเบียงก้า

เขาแค่วางสัมภาระของเบียงก้าไว้ในรถ

จากนั้น เขาก็ปิดประตูและเดินออกมา แต่ก่อนจะขึ้นรถ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความ

ซูยืนอยู่ห่าง ๆ เธอได้รับข้อความและมองดู

ซูเก็บข้าวของและเรียกนีน่า “เราต้องกลับไปพร้อมรถของคุณดอยล์นะ”

นีน่ารู้สึกสับสน "จริงเหรอ?"

ตอนนี้เธอกำลังทับถมใครอยู่รึเปล่าเอ่ย?

เพื่อนร่วมงานที่เคยเยินยออีวอนน์ก่อนหน้า ในตอนนั้นต่างก็มองดูเรนจ์โรเวอร์สีดำของเจ้านาย พวกเขาไม่เชื่อภาพที่เห็นตรงหน้า และท่าทีของพวกเขาก็เปลี่ยนไป

เจ้านายอยู่ในรถกับเบียงก้าเพียงคนเดียว พวกเขากำลังพูดกันเรื่องอะไรนะ?

พนักงานบางคนจากแผนกอื่นสะกดคำว่ามารยาทไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ พวกเขาจึงหยิบกล้องส่องทางไกลออกมาดู

ราวกับว่าพวกเขากำลังมองดูชีวิตส่วนตัวของเจ้านาย เหมือนดั่งกับกำลังสอดส่องชีวิตของคนดัง

จากกล้องส่องทางไกล กระจกหน้าต่างของเรนจ์ โรเวอร์สีดำเป็นแบบทึบแสง พวกเขามองเห็นได้เพียงเลือนรางว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน

เจ้านายกำลังใช้ผ้าขนหนูของบริษัทวางลงบนร่างของเบียงก้าเพื่อเช็ดผมเธอให้แห้ง

เขาดูเหมือนพ่อที่กำลังเช็ดผมลูกสาวให้แห้ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรัก

จากนั้น เจ้านายก็ถอดเสื้อสูทออกและคลุมตัวเบียงก้าไว้ เธอขมวดคิ้วขณะส่ายศีรษะอย่างรุนแรงในที่นั่งผู้โดยสาร

วิธีที่เขาดูแลเธอช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก!

ในท้ายที่สุด สิ่งที่ทำให้พวกเขาอิจฉาตาร้อนได้มากที่สุดคือ เจ้านายเอนกายและใช้นิ้วเรียวของเขากดลงบนน่องของเบียงก้า และนวดวนไปซ้ำ ๆ

ฉากทั้งหมดเหล่านี้ไม่เข้ากันกับภาพลักษณ์ที่เยือกเย็นและเย่อหยิ่งของเจ้านายที่พวกเขามีอยู่ในใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก