พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก นิยาย บท 22

ในคืนนั้น ณ คฤหาสน์ครอว์ฟอร์ด

ทั้งครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเย็น และลุค ครอว์ฟอร์ดไม่ได้ร่วมมื้ออาหารนั้นด้วย

อลิสัน แทนเนอร์หยิบชิ้นแตงกวาใส่ลงในชามของลานี่ จากนั้นก็หยิบใส่ลงในชามให้เรนนี่ “คุณย่าอยากให้สิ่งที่ดีกับพวกหลานนะ แม้ว่าจะไม่ชอบ แต่หลานจะต้องหัดกินบ้าง หลานกำลังเติบโตขึ้น ดังนั้นพวกหลานคงไม่อยากจะตัวเล็กไปตลอดใช่ไหมจ๊ะ?”

ทุกคนที่อยู่ร่วมโต๊ะต่างก็กำลังรับประทานอาหาร

บลองช์มองแตงกวาในชามแล้วตักเข้าปาก เขารับประทานเข้าไปอย่างว่าง่าย หลังจากนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่คุณย่าของตอน “คุณย่า ทำไมถึงไม่ทานหัวหอมบ้างล่ะครับ?”

มีจานหัวหอมผัดอยู่บนโต๊ะ บลองช์และน้องสาวของเขาต่างก็ชื่นชอบเช่นเดียวกับคุณปู่ทวด คุณลุงหลุยส์และคุณย่าซูซานเองก็ชอบหัวหอมเช่นกัน มีเพียงคุณย่าเท่านั้นที่ไม่ชอบหัวหอม

เธอมักจะผลักจานหัวหอมผัดออกห่างจากเธอ

คุณย่ามักจะพูดเสมอว่า กลิ่นของมันเหม็นจนทำให้เธอไม่อยากอาหาร

ก่อนที่อลิสันจะได้พูด ซูซาน อาร์มสตรองก็กล่าวออกมาอย่างเย้ยหยันว่า “เพราะว่าคุณย่าหลานเป็นพวกเรื่องมากยังไงล่ะ”

เมื่อผู้อาวุโสคอรว์ฟอร์ดได้ยินเช่นนั้น เขาก็ขมวดคิ้วและกระแอมออกมาเบา ๆ เพื่อเตือนสติซูซาน ลูกสะใภ้ของเขา เขากำลังต้องการบอกเธอว่าอย่าทะเลาะกันระหว่างรับประทานอาหารเย็น

ซูซานเลิกคิ้ว จากนั้นเธอจึงรับประทานต่อ เธอเพียงแค่คิดว่าเธอไม่ได้พูดอะไรผิด แต่เธอก็รู้ว่าขีดจำกัดของตนอยู่ตรงไหน ดังนั้น เธอจึงหยุดพูดทันที

อลิสันเองก็ได้ยินสิ่งที่เธอพูด แต่เธอกลับเพิกเฉยและหันกลับมาหาเด็ก ๆ อย่างไม่ใส่ใจ เธอพูดกับพวกเขาว่า “ที่ย่าไม่ทานหัวหอมมันคงจะเป็นเพราะกรรมพันธุ์ เพราะว่าคุณพ่อผู้ล่วงลับของย่าก็ไม่ทานหัวหอมเหมือนกันจ่ะ”

"เข้าใจแล้วครับ!" บลองช์ตอบในขณะที่เขาพยายามใช้ตะเกียบคีบอาหาร “ผมรู้จักผู้หญิงสวยคนหนึ่ง เธอเองก็ไม่ชอบทานหัวหอมเหมือนกัน”

อลิสันยิ้มตอบ

มีคนมากมายบนโลกใบนี้ที่ไม่กินหัวหอม

เช่นเดียวกันกับผักชี ที่หลายคนต่างก็หลีกเลี่ยงมัน

หลังจากอาหารเย็น เด็กทั้งสองคนก็ออกไปเล่นกัน เมื่อท้องฟ้ามืดสนิท พวกเขาก็กลับขึ้นไปชั้นบนอย่างเชื่อฟัง พวกเขาต้องอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวก่อนจะเข้านอน

ช่างเป็นค่ำคืนที่ยาวนานเหลือเกิน

เบียงก้ากำลังหลงทางอยู่ในความฝัน เธอพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง

ในฝัน เธอเห็นน้ำที่กำลังสาดกระเซ็น ลุคกำลังอาบน้ำอยู่ในขณะที่เธอเปิดประตูและเดินไปหาเขาจากด้านหลัง จากนั้นเธอก็กดร่างกายฃลงกับแผ่นหลังของเขาและกอดเข้าที่เอวอันเข้ารูปของชายหนุ่ม

เขาหันกลับมาและก้มหน้าลงบรรจงจูบเธอ จากนั้นเขาก็ทิ้งรอยแดงเอาไว้ตรงคอของเธอ

เธอเงยหน้าขึ้นและเรียกร้องสิ่งนั้นจากเขาอีก

เสียงลมหายใจที่หนักแน่นและการสัมผัสอันดุเดือดของเขาแผดเผาไปทั่วเรือนร่างของเธอ เส้ยผมของเธอจนไปถึงใบหน้าเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เธอไม่สามารถทนต่อความเร่าร้อนได้อีกต่อไป

ร่างกายอันร้อนรุ่มของเธอเริ่มสั่นเทา

เธอถอยออกห่างแต่ลุคก็ยังฉุดยื้อเธอเอาไว้ สายตาของพวกเขาสบกันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นริมฝีปากของพวกเขาก็ประกบกันในขณะที่ลิ้นของทั้งสองกำลังเต้นระรัว

เสียงการขัดขืนเล็กน้อยเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของเธอ เธอรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเธอกำลังสะบัดขึ้นลงอย่างสั่นเทา เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เธอก็มองเห็นขนตาอันพลิ้วไหวของชายผู้นั้นได้อย่างชัดเจน มันหนาจนแม้แต่ผู้หญิงเองก็ยังต้องอิจฉา

ทันใดนั้น ฉากในฝันของเธอก็เปลี่ยนไป

มหาเศรษฐีวัยกลางคนกำลังโบกมือให้เธอ ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความน่าขยะแขยง

"ไม่!" เบียงก้าตื่นจากความฝันและพลันลุกขึ้นนั่ง

หน้าอกของเธอรู้สึกหนักอึ้ง

หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อตระหนักได้ว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน

ขอบคุณพระเจ้า

ขอบคุณพระเจ้าที่มันเป็นเพียงแค่ความฝัน

มันก็เป็นอีกคืนหนึ่งในเมืองเอ บนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ไม่มีดวงดาวปรากฏ จิตใจครึ่งหนึ่งของเธอยังคงติดอยู่ในความฝันและเธอก็ไม่สามารถสลัดมันออกไปได้

นับตั้งแต่ที่เธอเห็นเศรษฐีวัยกลางคนในโทรทัศน์เมื่อ 5 ปีก่อน เธอก็มักจะจินตนาการถึงใบหน้าของพ่อของลูกน้อยด้วยใบหน้าของเศรษฐีผู้นั้นโดยอัตโนมัติ

ลูกสาวคนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเธอ ซึ่งเชื่อมต่อกับเธอด้วยเลือดเนื้อเชื้อไข ดังนั้นเบียงก้าจึงไม่สามารถลืมเธอได้อย่างสมบูรณ์ แต่เมื่อใดก็ตามที่เธอคิดถึงลูกของตัวเอง ใบหน้าของเศรษฐีผู้นั้นก็จะเข้ามาในหัวของเธอทันที

เขาดูน่ารังเกียจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก