เบียงก้าส่ายหัวและหักห้ามใจไม่ให้คิดถึงเรื่องแม่ตน แม่ที่เธอไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้แม้แต่
ชื่อ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ
ครู่หนึ่ง โทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
ปลายสายคือนีน่า แลงดอน เพื่อนสนิทของเบียงก้า
เบียงก้ารับสายนั้น
“ไงจ๊ะ นี่ก็นานมาก ๆ แล้วนะที่เราไม่วิดีโอคอลกัน ทำไมเธอต้องบ่ายเบี่ยงไม่ยอมคุยกับฉันสักที?” นีน่าบ่นผ่านโทรศัพท์ เธอวางมือไว้ที่แก้มอย่างเศร้าใจ แล้วกล่าวต่อ “บี เธอแน่ใจนะว่าจะไปอังกฤษจริง ๆ น่ะ? แล้วถ้าเธอโดนคนที่นั่นรังแกล่ะ? ฉันก็ไม่มีมือมีเท้าไกลถึงที่นั่นหรอกนะ”
“แล้วก็ ฉันได้ยินมานะว่าพวกผู้ชายที่นั่นเจนโลกกันจะตาย แถมหอพักนักเรียนยังเป็นแบบหอรวมด้วยนะ เมื่อเธอไปถึงที่นั่นแล้ว ก็ต้องระวังเรื่องนี้เอาไว้ด้วยนะ! นี่ เธอเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดไหมเนี่ย? แต่ช่างเถอะ เอาตรง ๆ เลยนะ ถ้าหนุ่ม ๆ พวกนั้นฮอตเสียจนเธอหักห้ามใจไว้ไม่อยู่ล่ะก็! อย่าลืมป้องกันล่ะ!”
ในหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ เบียงก้าเห็นว่านีน่ากำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารเล็ก ๆ ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะสั่งอาหารไป และกำลังรออาหารมาเสิร์ฟอยู่
บริเวณผนังของร้านอาหารด้านหลังนีน่า มีจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่พอสมควร
ทีวีเสนอรายงานข่าวบันเทิง พร้อมคำบรรยายที่เห็นได้อย่างชัดเจน มหาเศรษฐีวัยห้าสิบหกปีเพิ่งจะมีลูกสาวสด ๆ ร้อน ๆ!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่าแม่ของเด็กคนนั้นเป็นใคร
“บี?”
“เบียงก้า นี่เธอยังฟังฉันอยู่รึเปล่า?”
นีน่ามองเบียงก้าผ่านหน้าจอโทรศัพท์ เห็นเธอนิ่งไม่ไหวติง และอารมณ์ของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างพิลึก นีน่ารีบเขย่าหน้าจอของเธอ และพูดว่า ”เบียงก้า ได้ยินฉันไหม? เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า? ขอร้องแหละ อย่าทำให้ฉันกลัวแบบนี้สิ!”
ในตอนนี้ เบียงก้าค่อนข้างอ่อนไหวอย่างยิ่ง เมื่อเธอออกจากโรงพยาบาล เธอสาบานกับตัวเองว่าเธอจะไม่คิดถึงเด็กที่เธอเคยอุ้มท้องเป็นอันขาด แต่ทว่า มันเป็นไปได้อย่างไรกัน
เด็กคนนั้นเป็นเหมือนเลือดเนื้อเชื้อไขอีกครึ่งหนึ่งของเธอ
เบียงก้ากำลังจะสติแตก
เธอกำลังจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ
เอาแต่คิดถึงเรื่องนั้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรขึ้นมาเล่า?
เธอต้องหยุดคิดเรื่องนี้สักที
เธอวางสายและล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
นั่นไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกใจเย็นลง
บางที นั่นเป็นเพราะว่าเธอเคยถูกแม่ทอดทิ้งตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้น สิ่งที่นี้ก็กลายเป็นประวัติที่ซ้ำรอยเดิม แต่เกิดขึ้นกับลูกสาวเธอแทน
เธอไม่สามารถลืมวัยเด็กอันหนาวเหน็บของเธอได้ เธอไม่มีแม่ มีแค่พ่อและปู่เท่านั้น พ่อของเธอมีรายได้จากการทำงานหาเลี้ยงชีพอยู่ไกลบ้าน และปู่ของเธออายุมากขึ้นทุกวัน เพื่อนบ้านของเธอไม่เคยหยุดนินทาถึงพ่อแม่ของเธอเลย พวกเขาพูดถึงแต่เรื่องเสีย ๆ หาย ๆ เสียงเหล่านั้นก้องกังวานอยู่ในหัวเธอตลอดช่วงวัยเด็ก
เธอโตมากับการถูกรังแกจากคนที่รอบข้างที่เห็นแก่ตัว
เธอไม่รู้ว่าทำไมการที่เธอไม่มีแม่ถึงทำให้เธอต้องกลายเป็นเป้าของการกลั่นแกล้งด้วย พวกเขาทำร้ายเธอด้วยวาจา และคำสาปแช่งก็ก้องกังวานเต็มโสตประสาทของเธอ
บางครั้ง เธอก็รู้สึกเกลียดแม่เป็นอย่างมาก
เมื่อหลับตาลง ความคิดเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวคือรายงานข่าวบันเทิงทางทีวีในหัวข้อพ่อมหาเศรษฐีวัยกลางคน เขาเพิ่งได้ลูกสาวคนหนึ่งมา แต่ไม่มีใครรู้ว่า แม่ของเด็กหญิงผู้นั้นคือใคร...
ตอนนี้ เธอได้กลายเป็นแบบผู้หญิงที่เธอเกลียดที่สุดแล้ว เธอกลายเป็นแม่ที่ให้กำเนิดลูก แต่ไม่ได้รับผิดชอบชีวิตลูกเลย
เธอเดินกลับมาที่ห้องและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง ค้นหาข่าวเกี่ยวกับมหาเศรษฐีคนนั้นและลูกของเขา
ในรายงานระบุว่า ชายคนนี้อายุห้าสิบหกปี ศีรษะล้าน แต่รูปร่างดีและตัวสูง
ผ่านมาสักระยะแล้ว เบียงก้าไม่สามารถบอกได้ว่าชายมีอายุคนนี้เป็นพ่อของลูกเธอจริง ๆ
หรือไม่
จริงด้วย มีเสียงของเขาในรายงานข่าวด้วยนี่!
เบียงก้าเริ่มค้นหาวิดีโอของชายมหาเศรษฐีคนนี้ เธอพยายามฟังเสียงของเขา เธออยากรู้ว่าเป็นเสียงเดียวกันกับเสียงที่เธอได้ยินในคืนนั้นรึเปล่า
น่าเสียดาย เธอค้นหาเป็นเวลานานจนโทรศัพท์ของเธอแบตหมด แต่เธอก็ยังไม่เจอวิดีโอที่มีเสียงของเขาอยู่ในนั้น
ความสิ้นหวังทั้งหมดห่อหุ้มหัวใจเธอเอาไว้
…
ทางทิศตะวันออกของเมืองเอ
ณ บ้านของครอว์ฟอร์ด มีหนึ่งในสุนัขพันธุ์ดีที่บรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนักมักจะเลี้ยงเอาไว้กำลังวิ่งพล่านไปทั่ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก