สิบนาทีต่อมา การสัมภาษณ์ของฌองก็เสร็จสิ้น
เขาเปิดประตูและเดินออกไป
เบียงก้ายืนขึ้นในทันที “เป็นยังไงบ้างคะ?”
“กรรมการที่สัมภาษณ์ถามคำถามยากมาก แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่พี่รับมือไม่ได้นะ” ฌองก้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากของเบียงก้า
เบียงก้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“คนต่อไปค่ะ เบียงก้า เรย์น” เลขาสาวประกาศเรียก
เบียงก้ารีบจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยและเดินเข้าไปในห้องอย่างกังวล
วินาทีที่เธอเดินเข้ามาในห้อง ลุคจ้องมองเธอด้วยแววตาอันสับสน
เบียงก้านั่งลงอย่างเรียบร้อย และเงยหน้าขึ้นมาสบตาผู้ให้สัมภาษณ์ทีละคน
หลังจากนั้น เธอแนะนำตัวสั้น ๆ "สวัสดีค่ะ ทุกท่าน ก่อนอื่นเลย ขอพระขอบคุณที่ให้โอกาสดิฉันได้เข้าร่วมการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ดิฉันชื่อเบียงก้า เรย์นค่ะ”
เนื่องจากเธอตัดสินใจกลับประเทศนี้และหางานทำที่นี่ บริษัทที่เธอต้องการไปสัมภาษณ์ผุดขึ้นมาในความคิดมากมาย
อาจไม่ใช่วิธีที่สร้างสรรค์ที่สุดในการเริ่มต้น แต่ก็สมบูรณ์เพียงพอและไร้ปัญหาใด ๆ
การสัมภาษณ์ดำเนินต่อไป
ลุคประเมินเธอด้วยสายตาที่เย็นชา
บางที การจ้องมองของเขาอาจดูเฉียบแหลมเกินไป แม้ว่าเบียงก้าจะสามารถตอบคำถามของในการสัมภาษณ์ทั้งหมดได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก
มันไม่เพียงแค่รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมองเธอด้วยสายคมดุจมีด แต่กลับรู้สึกเหมือนมีหนามประหลาดทิ่มแทงเธอไปทั้งตัว
อันที่จริง เมื่อเดินเข้าไปในห้องครั้งแรก เบียงก้าก็เหลือบมองลุคเช่นเดียวกัน
แต่ถึงกระนั้น นี่เป็นการสัมภาษณ์งานอย่างเป็นทางการ และเธอต้องปฏิบัติตัวอย่างจริงจัง แม้ว่าเธอจะมีคำถามมากมายอยู่ในใจ แต่เธอต้องไม่ชะล่าใจและไม่ฟุ้งซ่าน
“คุณเรย์น คุณแต่งงานแล้วรึยังครับ?” เสียงอันเยือกเย็นของลุคขัดจังหวะการสัมภาษณ์ในทันที
คำถามนั้นทำให้ผู้ให้สัมภาษณ์มืออาชีพทุกท่านถึงพูดไม่ออก
ผู้ให้สัมภาษณ์หยุดการสัมภาษณ์เบียงก้าอย่างเป็นทางการ แล้วหันไปมองผู้บริหารพร้อมกัน
เพราะเขาเป็นส่วนหนึ่งของผู้ให้สัมภาษณ์ด้วย
“ไม่ค่ะ ดิฉันยังไม่ได้แต่งงานค่ะ” เบียงก้าเอ่ยขึ้นพลางพยายามสงบสติอารมณ์ แท้จริงแล้ว หัวใจของเธอเต้นระรัวแทบจะกระเด็นออกมา
“ถ้าอย่างนั้น คุณมีคนที่คุณตั้งใจจะแต่งงานด้วยไหมครับ?” ลุคขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามอีกครั้ง
เบียงก้านิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอพยักหน้าและตอบกลับ “ดิฉันมีแล้วค่ะ”
ผู้ให้สัมภาษณ์ทั้งหมดรู้สึกสับสนไม่น้อย พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้บริหารถึงตั้งคำถามนี้ออกไป?
บทสนทนาสั้น ๆ ระหว่างทั้งสองทำให้เบียงก้ามองเห็นคุณลักษณะรูปงามของลุคได้ดีขึ้น
นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนนี้แตกต่างจากเด็กชายวัยเยาว์ที่โด่งดังในโรงเรียนมาก
ไม่ว่าจะเป็นกิริยาท่าทางหรือสีหน้าของเขา ลุค ครอว์ฟอร์ดดูเป็นคนเย็นชาและโหดเหี้ยมไม่น้อย
…
ในที่สุด การสัมภาษณ์ก็เสร็จสิ้นลง
เบียงก้าเดินออกจากห้อง เธอพลันรู้สึกเข่าอ่อน
“ในห้องเป็นยังไงบ้าง? บอกมาสิ!" นีน่าเป็นคนแรกที่วิ่งไปหาเธอและไถ่ถาม
เบียงก้านิ่งงันไป เธอพูดขึ้น “คนที่สัมภาษณ์เขาถามฉันว่าฉันแต่งงานยัง และถ้าฉันไม่ได้แต่งงาน มีใครที่ฉันตั้งใจจะแต่งงานด้วยไหม”
ฌองขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น เป็นคำถามที่ฟังดูไม่ใช้มันสมองมากเท่าไหร่เลย?
เรียกได้ว่าลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวเธอก็ได้
ถึงกระนั้น นีน่ากล่าวขึ้น “โห นั่นเป็นเรื่องปกติในประเทศนี้มาก ๆ เลยนะ อันที่จริง นี่ถือว่า
พวกเขายังดีมีมารยาทที่ไม่ถามว่าเธอมีลูกแล้วรึยัง”
“แต่ทำไมพวกเขาถึงต้องถามแบบนั้นด้วยล่ะ” เบียงก้าเอ่ยถามด้วยความสงสัยขณะที่ทั้งสามลงเดินบันไดไป
“เพราะว่าเด็ก ๆ จะเข้ามารบกวนการทำงานของเธอไงล่ะ” นีน่าตอบโดยมองไปที่พี่ชายของเธอและเบียงก้า “บริษัทในประเทศนี้ส่วนใหญ่จะเลือกปฏิบัติกับผู้หญิงที่แต่งงานมีลูกแล้วน่ะสิ ในเมื่อเธอเลือกกลับมาที่นี่แล้ว ดังนั้นเธอต้องทำใจให้ชินนะ”
…
บ่ายวันนั้น
เบียงก้าและฌอง ต่างก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งมาว่า พวกเขาจะได้ทดลองงานสองเดือน หากพวกเขาสามารถผ่านการทดสอบทั้งหมดในช่วงสองเดือนข้างหน้า พวกเขาจะสามารถอยู่ที่บริษัท ทีคอร์ปอเรชั่นต่อไปในฐานะของพนักงานประจำได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พราวกลิ่นบุปผาตัณหารัก