ตงไฮ่? มิได้ติดตามท่านอ๋องไปเมืองซีเหยาหรอกหรือ?
“ให้เข้ามาเถิด” ฉินเจียวเยี่ยนเอ่ยอนุญาต โดยไม่ได้คิดที่จะไล่หลี่ชิงหงออกจากห้องหนังสือแต่อย่างใด ส่วนตงไฮ่ทำเพียงเหลือบมองหลี่ชิงหง ก่อนจะดึงสายตากลับมาที่ฉินเจียวเยี่ยน
ท่านอ๋องรับสั่งไว้แล้วว่า ต่อไปนี้ หลี่ชิงหงถือสถานะเป็นสหายของพระชายา หากมีการกระทำสิ่งใดที่แปลกแยกไปบ้างก็มิเป็นไร
ตงไฮ่ประสานมือคำนับ พร้อมเอ่ยรายงาน “ท่านอ๋องรับสั่งให้กระหม่อมมารายงานผลการตรวจสอบเสบียงของฉีอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”
รายงานผลการตรวจสอบเสบียงของฉีอ๋อง?
‘ฝากฮูหยินช่วยดูแลทุกสิ่งทุกอย่างของเราด้วย’
ถ้อยคำฝากฝังมาพร้อมภาพจินตนาการอันรุ่มร้อนในค่ำคืนที่จากลา จนฉินเจียวเยี่ยนต้องแอบยกมือขึ้นมาพัดวีใบหน้าที่ร้อนฉ่า “ว่ามาเถิด”
“คนของเราภายในคลังเสบียงหลวงรายงานว่า ข้าวสารทุกกระสอบเป็นข้าวใหม่ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวและได้มีการประทับตราของคลังเสบียงหลวง ดังนั้น ทุกเกวียนที่ออกจากเมืองหลวงเป็นข้าวใหม่อย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเจียวเยี่ยนเอียงคอ เคาะนิ้วลงบนโต๊ะไม้อย่างครุ่นคิด
หากต้นทางยืนยันว่าเป็นข้าวใหม่ แต่ปลายทางที่ได้รับกลับกลายเป็นข้าวเก่าขึ้นรา เช่นนั้น ก็มีเพียงคำตอบเดียว คือ มีการสับเปลี่ยนเสบียงเหล่านั้นระหว่างทาง
“ไปนำแผนที่มาให้ข้าหน่อย”
ตงไฮ่ไม่รอช้ารีบไปนำแผนที่ของแคว้นต้าเซี่ยมาจากห้องหนังสือของเซียวชิงเฟิงมากางลงบนโต๊ะ ฉินเจียวเยี่ยนฉวยเอาดินสอเขียนคิ้วจากมือของหลี่ชิงหงมาวาดวงกลมที่เมืองหลวงและเมืองซีเหยา
“ระยะทางจากเมืองหลวงและเมืองซีเหยาเป็นเท่าใด?”
“หากใช้ม้าเร็ว เพียงวันเดียวก็ถึงพ่ะย่ะค่ะ” ตงไฮ่ตอบ พลางมองท่าทางจริงจังของพระชายาตรงหน้าที่ดูแปลกตา ใบหน้านางมีแต่ความจริงจังพาดผ่าน “แต่ถ้าหากเป็นขบวนเสบียงหนึ่งพันเกวียนของฉีอ๋องจะใช้เวลาประมาณสองวันพ่ะย่ะค่ะ”
“ผ่านเมืองใดบ้าง?” ฉินเจียวเยี่ยนถามต่อ พลางมองชื่อเมืองต่าง ๆ ระหว่างเมืองหลวงและเมืองซีเหยา
ตงไฮ่ก้าวเข้าไปใกล้ แล้วใช้นิ้วชี้ที่เมืองหลงชวน “คืนแรกที่เมืองหลงชวนพ่ะย่ะค่ะ เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ เป็นจุดพักม้า และนิยมแลกเปลี่ยนสิ่งของของราษฎรที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปทางทิศตะวันตกได้อีกด้วย”
“ส่วนคืนที่สองเป็นเมืองชางหลิน” ตงไฮ่เลื่อนนิ้วชี้ไปที่เมืองชางหลิน “เมืองชางหลินเป็นอีกเมืองใหญ่มีลักษณะคล้ายเมืองหลงชวนพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเจียวเยี่ยนวงกลมรอบเมืองหลงชวนและเมืองชางหลิน วาดภาพลูกศรไปตามเมืองต่าง ๆ แล้วนางก็ยืนกอดอกจ้องมองแผนที่เงียบ ๆ “ยามนี้ ท่านอ๋องคงจะสืบข่าวอยู่ที่เมืองซีเหยาแล้วสินะ”
“พ่ะย่ะค่ะ หากคำนวณเวลา คาดว่าน่าจะถึงตั้งแต่เมื่อคืนพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเจียวเยี่ยนฉีกกระดาษออกมาเป็นแผ่นเล็ก ๆ แล้วแบมือไปทางหลี่ชิงหง
หลี่ชิงหงได้แต่งุนงง “อะไร?”
หลี่ชิงหงพยักหน้าอย่างเข้าใจได้ ด้วยช่องทางการสื่อสารในสมัยนี้ยังถูกจำกัดมากนัก
“อีกอย่าง ส่งทางนกพิราบ เขียนแต่รหัสลับสั้น ๆ ให้อีกฝ่ายคาดเดาด้วย เท่ดีจะตาย”
หลี่ชิงหง “...”
สรุปคือ เธอแค่อยากจะลองส่งข้อความทางนกพิราบ เพื่อความเท่?
ฉินเจียวเยี่ยนโยกศีรษะอย่างอารมณ์ดี เพราะตอนนี้ สิ่งที่นางทำได้ นางก็ลงมือทำไปจนหมดสิ้นแล้ว เหลือเพียงแต่รอฟังผลลัพธ์ก็เท่านั้น
“อ๊ะ จริงสิ” ฉินเจียวเยี่ยนอุทานขึ้นมา เมื่อนึกถึงบางสิ่ง “ตอนนี้ ชื่อและใบหน้าของเธอไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไปแล้วนะ แล้วเธอจะไปขายเครื่องสำอางได้ยังไง?”
หลี่ชิงหงหันหน้ามาสบตาฉินเจียวเยี่ยนช้า ๆ อย่างละเหี่ยใจ พลางขมวดคิ้วแน่น “แล้วใครเขาจะขายเครื่องสำอางด้วยหน้าสดกันละยะ”
ฉินเจียวเยี่ยน “...”
“บทที่เธอจะฉลาดก็ฉลาดซะ คนโบราณตกใจ แต่บทจะโง่นี่...”
“พูดขนาดนี้ เอาดินสอเขียนคิ้วมาแทงกันเลยก็ได้นะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาของท่านอ๋องธงแดง NC
เมื่อไหร่ตอนใหม่จะมาหรอคะ รอนานจุงเบย อดใจไม่ไหว 🥹...