“สรุปว่า เจ้าได้ตรวจสอบเสบียงเหล่านั้นด้วยตนเองก่อนออกจากเมืองหลวงแล้ว” เมื่อเห็นน้องชายพยักหน้า เซียวชิงเฟิงจึงได้กล่าวต่อ “ระหว่างพักที่สองเมือง เจ้าเมืองต่างจัดงานต้อนรับ ชวนเจ้าร่ำสุราจนเกือบรุ่งสาง ทำให้เจ้าไม่สามารถออกนอกเมืองพร้อมขบวนเสบียงได้?”
“พ่ะย่ะค่ะ...” เซียวชิงฉีก้มหน้ารับคำเสียงอ่อย เมื่อเริ่มรู้สึกผิดที่บกพร่องต่อหน้าที่
“รองแม่ทัพหลิวเป็นผู้ควบคุมดูแลขบวนเสบียงทั้งหมดใช่หรือไม่?”
เซียวชิงฉีตอบ “ใช่พ่ะย่ะค่ะ เอ๊ะ หรือว่า เสด็จพี่สงสัยรองแม่ทัพหลิวหรือ? แต่ว่าเขา...”
เดิมทีเซียวชิงฉีมิใช่คนโง่เขลา เพียงแต่อาจจะหลงคะนองไปตามประสาวัยหนุ่ม กอปรกับเมื่อมาถึงเมืองซีเหยา เจ้าเมืองก็ได้เข้ามาต้อนรับและเชิญเขาเข้าพักที่จวนเจ้าเมืองอย่างเป็นกันเอง
ส่วนเสบียงต่าง ๆ ก็ยกให้เป็นความรับผิดชอบของรองแม่ทัพหลิวทั้งสิ้น ครั้นเมื่อเกิดเรื่องขึ้นมา ก็เป็นช่วงย่ำค่ำที่เขากำลังรับประทานอาหารร่วมกับเจ้าเมืองซีเหยา
รองแม่ทัพหลิวเป็นผู้มารายงานความไม่พอใจของราษฎร พร้อมเล่าถึงสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด ด้วยความลนลานของเขาจึงยังไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ก็ถูกเจ้าเมืองซีเหยาและรองแม่ทัพหลิวเชิญแกมบังคับให้ประทับอยู่ที่เรือนรับรองภายในจวนเจ้าเมืองเสียแล้ว
โดยที่เจ้าเมืองซีเหยาอาสาจะออกไปเจรจาเพื่อลดแรงปะทะกับชาวเมืองแทนเขา จวบจนบัดนี้ กลับยังไม่มีการรายงานความเคลื่อนไหวใด ๆ เพิ่มเข้ามา
“บัดซบ!!” เซียวชิงฉีตบโต๊ะข้างตัวอย่างแรง ความโกรธแค้นที่โดนหลอกใช้ปะทุอยู่ในอก
ทั้ง ๆ ที่งานนี้ เสด็จพ่อมอบหมายให้เขาดูแลรับผิดชอบ แต่กลับมีคนปองร้าย ใส่ร้ายเขา จนอาจจะทำให้เสด็จพ่อไม่ไว้วางพระทัยในตัวเขาอีกต่อไป
“เสด็จพี่ ข้าจะออกไปจัดการพวกมัน!!” เซียวชิงฉีพูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด
หากงานง่าย ๆ เช่นนี้ เขายังดูแลไม่ได้ดี ครั้นกลับเมืองหลวงไป คงโดนหมู่เฟยหยิกจนตัวลายแน่ ๆ
เซียวชิงเฟิงเหลือบมองหน้าน้องชายอย่างระอา “ยามปกติ เจ้าก็ใจเย็นสุขุม เหตุไฉนครานี้จึงตกหลุมพรางง่าย ๆ กันเล่า?”
เซียวชิงฉีอดไม่ได้ที่จะตวัดสายตามองหวังชาง คนสนิท แต่สุดท้าย เขาก็ต้องโทษตนเองที่ไม่อาจตัดใจลุกจากเตียงนอนไปทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ “เป็นข้าที่ประมาทไปเองพ่ะย่ะค่ะ”
“ด้วยเกวียนจากเมืองหลวง นิยมใช้ไม้ซานจื่อ อีกทั้งยังมีการส่งเสบียงไปบรรเทาทุกข์ตามเมืองต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง จึงมีร่องรอยของการซ่อมแซมเป็นจำนวนมาก แต่เกวียนที่นี่ นอกจากจะทำจากไม้ฮวาจื่อแล้ว ยังมีสภาพใหม่ราวกับไม่เคยใช้งานมาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
นั่นหมายความว่า มีการสับเปลี่ยนทั้งเกวียนเลยสินะ...
ก็พอจะเข้าใจได้ ผู้ใดจะสามารถขนย้ายกระสอบข้าวหลายหมื่นจินได้ภายในสองคืน
สิ่งที่ง่ายที่สุด คือ การสลับทั้งเกวียนไปเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว
หลักฐานที่คนของเขาค้นพบไม่ได้สร้างความประหลาดใจแต่อย่างใด แต่สิ่งที่เขาต้องการ คือ การยืนยันความคิดของเขาต่างหาก
“หากเป็นเช่นนั้น แล้วเกวียนที่ทำด้วยไม้ซานจื่อจากเมืองหลวงจะไปอยู่ที่ใดกันหนอ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาของท่านอ๋องธงแดง NC
เมื่อไหร่ตอนใหม่จะมาหรอคะ รอนานจุงเบย อดใจไม่ไหว 🥹...