สัมผัสเย็น ๆ ประคบลงบนใบหน้าอย่างอ่อนโยน สติของนางค่อย ๆ กลับคืนมาช้า ๆ เปลือกตายกขึ้นแผ่วเบา เพดานเรือนไม่คุ้นตา ทำให้นางต้องขมวดคิ้วแน่น ภาพจำสุดท้ายก่อนที่จะดับวูบปรากฏขึ้นในห้วงความคิด
นางกำลังวิ่งหนี เพื่อล่อคนร้ายไปอีกทาง แต่ยังไม่ทันได้ทำสิ่งใด ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ต้นคอ เป็นต้นเหตุที่ทำให้นางสลบไป
“เยี่ยนเอ๋อร์!” หลินซื่อตะโกนเรียกชื่อบุตรสาวสุดที่รักที่กำลังใช้มือเช็ดใบหน้าให้นางอยู่บนเตียง หลินซื่อผุดลุกขึ้นนั่งในทันที สองมือลูบไล้เนื้อตัว ตรวจสอบสภาพร่างกายของบุตรสาวว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่
ก่อนจะเห็นรอยแดงที่ข้อมือและรอยฝ่ามือจาง ๆ บนแก้มนวล “จะ เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”
หลินซื่อพลิกใบหน้าของฉินเจียวเยี่ยนไปมา
“ข้าไม่เจ็บแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่” ฉินเจียวเยี่ยนยิ้มจาง เมื่อครู่ หมอหลวงต่งได้เข้ามาตรวจอาการของนางและหลินซื่อเรียบร้อยแล้ว เพียงทายาประคบสองสามวัน รอยเหล่านี้ก็หายทุเลาไปแล้ว
แต่คนที่ดูโล่งอกโล่งใจมากที่สุด ไม่ใช่ฉินเจียวเยี่ยน หากแต่เป็นหยางเซิงที่แอบจิกนิ้วคำนวณว่า ท่านอ๋องของตนจะกลับมาทันเห็นร่องรอยบาดเจ็บของพระชายาเหล่านี้หรือไม่
หมอหลวงต่งกล่าวว่า ทายาเพียงสองสามวัน...
วันนี้ ท่านอ๋องเพิ่งยกทัพไปเมืองชางหลิน ด้วยกำลังพลของกองทัพเงาพยัคฆ์ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็ถึง หากสู้รบขึ้นมา ด้วยนิสัยของเฟิงอ๋องที่ไม่อาจห่างพระชายาได้นาน...
น่ากลัวว่า มิพ้นวันสองวันก็อาจจะควบม้ากลับเมืองหลวงแต่เพียงผู้เดียวแล้ว!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!! เขาต้องแอบไปถามหมอหลวงต่ง ขอตำรับยาที่เร่งรักษารอยแผลของพระชายาดีกว่า
“เจ้า... นี่ เกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่? แม่งงไปหมดแล้ว” หลินซื่อมองซ้ายมองขวา เห็นบรรยากาศในจวนเฟิงอ๋องกลับมาเงียบสงบราวกับไม่เกิดเหตุร้ายใดขึ้นมา
แต่เมื่อครู่ มีคนร้ายบุกเข้าจวนมาเชียวนะ!?
หลินซื่ออดใจไม่ไหวที่จะยกมือขึ้นตีแขนของฉินเจียวเยี่ยน “เจ้านี่นะ...”
เพียะ!!
“อ่า ท่านแม่ตีข้าได้อย่างไร?” ฉินเจียวเยี่ยนลูบแขนตนเองปรอย ๆ “นี่เป็นแผนของท่านอ๋องนะเจ้าคะ หากท่านแม่ต้องการตี ท่านแม่ต้องไปตีท่านอ๋องสิเจ้าคะ”
หลินซื่อมองค้อนบุตรสาวตาคว่ำ แล้วข้าสามารถไปตีท่านอ๋องได้หรือ?
ส่วนหยางเซิงที่ยืนมองอยู่ไกล ๆ
ฮูหยินขอรับ ได้โปรดอย่าเพิ่งเพิ่มรอยแผลใด ๆ บนตัวพระชายาเลยนะขอรับ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาของท่านอ๋องธงแดง NC
เมื่อไหร่ตอนใหม่จะมาหรอคะ รอนานจุงเบย อดใจไม่ไหว 🥹...