พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 104

“วันนี้จวนอ๋องหลีครึกครื้นจริงๆ” ทุกคนเข้านั่งประจำที่ ฉู่เนี่ยนซีไม่ชอบงานแบบนี้เตรียมตัวจะจากไป ด้านหลังก็มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น

ฉู่เนี่ยนซีหันกลับไป ก็เห็นเย่เหลียนถือพัดเดินมาทีละก้าว

“ดูสีหน้าของเจ้า ร่างกายน่าจะฟื้นฟูแล้ว!” เย่เหลียนเดินมาถึงฉู่เนี่ยนซี ก้มหน้าเล็กน้อยสังเกตมองดวงตาอันเย็นชาคู่นั้นของนาง

ฉู่เนี่ยนซีรีบถอยหลังไปสองก้าว เว้นระยะห่าง “เสด็จพี่รอง! เฟยหลีน่าจะอยู่ห้องรับรองหน้า”

ความหมายนอกเหนือจากคำพูดก็คือพวกเขาล้วนอยู่ห้องรับรองหน้า ส่วนเจ้าพูดคุยกับหญิงภรรยาคนอื่นอย่างข้าเช่นนี้มันไม่เหมาะสม ควรจะไปหานายผู้ชายของจวนอ๋องถึงจะถูก

เย่เหลียนอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ยืดตัวตรง หัวเราะร่าเริง “ขอบคุณที่บอก! แต่ว่า.......”

ทันใดนั้นเขาก็เข้าใกล้อีกครั้ง “ข้ามา เพื่อขอโทษแทนเส้าหยุนโดยเฉพาะ”

“ขอโทษ? ไม่จำเป็น! อย่างไรเสีย ตีก็ตีไปแล้ว เรื่องในวันนั้นก็ไม่คิดค้างกันแล้ว” ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้ามองเขาโดยตรง สีหน้าไม่เกรงกลัว

เย่เหลียนมองดูท่าทางนางเช่นนี้ก็หัวเราะอย่างกะทันหัน “เนี่ยนซีนิสัยดีมากมิใช่หรือ? นิสัยใจเย็นทำงานรอบคอบ แต่เจ้ากลับไม่กลัวที่จะคัดค้านความเห็นของไทเฮา ก็จะลงโทษนาง เกรงว่าจะไม่ง่ายขนาดนั้นกระมัง!”

เย่เหลียนสีหน้ายากจะคาดเดา ในสายตามีความได้ใจ

ฉู่เนี่ยนซีอดขมวดคิ้วไม่ได้ “ไม่ทราบว่าเสด็จพี่รองนี่หมายความว่าอย่างไร? เกรงว่าท่านจะคิดมากไปแล้ว พระชายาของท่านใส่ร้ายข้าก่อน ซีเอ๋อร์จะไปใช่นิสัยที่ให้คนอื่นบังคับได้ แน่นอนว่าต้องร้องขอความยุติธรรมให้ถึงที่สุด!”

“มิหนำซ้ำ......ซีเอ๋อร์ก็ไม่ได้คัดค้านความเห็นของไทเฮา เพราะว่าไทเฮายุติธรรม เรื่องทำตามสัญญานั้น ก็คิดโดยไทเฮาถึงจะถูก!”

ฉู่เนี่ยนซีพูดอย่างเบา สำหรับวันนั้นนางกล้าใช้ป้ายทองคำข่มขู่ต่อหน้าไทเฮา เพียงเพราะว่านางรู้ ไทเฮาสามารถฟังคำพูดของนักบวชปลอมในวันเซ่นไหว้ เอานางไปเผ่าตาย จากนั้นก็คือทัศนคติที่ไทเฮามีต่อนางในงานชมดอกเบญจมาศ และความคิดที่จะปกป้องเจี่ยงเส้าหยุน ถึงแม้นางจะทำได้ดี ไทเฮาก็ไม่มีทางชอบนาง นางไม่ใส่ใจที่จะไปประจบใคร

ในเมื่อซ้ายขาวก็ความคิดแบบเดียวกัน สู้ทำให้ตัวเองสบายสักนิดดีกว่า และให้ทุกคนรู้ว่า นางไม่ได้รังแกง่ายๆ

ไม่ว่าจะแย่แค่ไหน สักวันนางยังสามารถแกล้งตายได้ จากนี้ไปก็เป็นเพียงซีซานเชิงในสำนักการแพทย์ กับเจ้าสำนักหอหุยหุ้น คุณชายซีในยุทธจักร! แบ่งแยกเส้นกับจวนเฉิงเซี่ยงจวนอ๋อง ก็ดีกว่าพลอยทำให้พวกเขาเดือดร้อนไปด้วย

เย่เหลียนมองดูดวงตาคู่นั้นที่เผยอยู่ข้างนอกของฉู่เนี่ยนซี ถึงแม้จะเย็นชา แต่ท่ามกลางดวงตาอันสดใสนั้นเสมือนร่วงสู่ดวงดาวนับพัน ทำให้คนไม่สามารถเคลื่อนสายตาได้

“องค์ชายรองยังมีเรื่องหรือไม่?” ฉู่เนี่ยนซีเห็นเขาเหม่อลอย นิ้วมือดุจหยกโบกไปมาตรงหน้าของเขา

เย่เหลียนดึงสติกลับมา กระแอมคออย่างผะอืดผะอม บนสีหน้ามีรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา

ในใจคิดว่าฉู่เนี่ยนซีจงใจเจาะจงเจี่ยงเส้าหยุน ก็เพราะว่านางมีความคิดอื่นต่อตัวเอง หึงหวงเท่านั้น

“ข้าเข้าใจความคิดของพวกผู้หญิงอย่างพวกเจ้า!”

พูดจบเย่เหลียนก็หัวเราะร่าเริงอีกครั้ง หมุนตัวไปที่ห้องรับรองหน้า

ฉู่เนี่ยนซีมองดูหลังของเขาที่จากไป ก็ขมวดคิ้วแน่น

เข้าใจ? เข้าใจอะไร?

ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกงงไม่เข้าใจ แต่ก็ขี้เกียจสนใจ กำลังเตรียมตัวจากไป ก็ชนเข้ากับคนหนึ่งตรงหน้า ตามมาด้วยความรู้สึกเปียกกลางอก

“อ้าก!”

เสียงตะโกนร้อง ระหว่างนั้นฉู่หว่านเอ๋อร์มือถือถ้วยน้ำชา สีหน้าตกใจ “พี่พระชายาท่านไม่เป็นไรใช่ไหม เดิมทีหว่านเอ๋อร์จะมาขอโทษท่านเพราะเรื่องครั้งก่อน.......คิดไม่ถึงว่าจะชนท่าน!”

ฉู่เนี่ยนซีจับเสื้อผ้าข้างหน้าที่ถูกราดจนเปียก เงยหน้ามองฉู่หว่านเอ๋อร์ “เจ้ามาได้อย่างไร?”

“คือพระชายารองซ่างกวนเห็นหว่านเอ๋อร์ไม่มีเพื่อนในเมืองปู้เย่ ถึงได้เรียกข้ามา และ.......และถือว่าเป็นการเลี้ยงส่งหว่านเอ๋อร์แล้ว!”

ฉู่เนี่ยนซีมองดูท่าทางสีหน้าอ่อนแอของนาง ก็ขมวดคิ้วเบาๆเป็นเส้นตรง

ฉู่เฉิงเซี่ยงเคยพูดกับนางก่อนหน้านี้จริง เมื่ออาการฉู่หว่านเอ๋อร์หายแล้วก็ส่งกลับจวน ตอนนี้เห็นนาง บาดแผลนี้เกรงว่าเกือบจะหายดีแล้ว ไม่รีบเก็บข้าวของ แต่กลับมีใจจะมาจวนอ๋องหลี เกรงว่าจะไม่ง่ายแค่นี้กระมัง

นางอดที่จะมองไปที่ซ่างกวนเย็นที่อยู่ไกลไม่ได้ เห็นเพียงนางกำลังมองมาทางนี้

ซ่างกวนเย็นเห็นฉู่เนี่ยนซีมองมาที่นาง ก็ลุกขึ้นเดินมาทางนี้อย่างช้าๆ เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำชาของฉู่เนี่ยนซี ก็ตกใจทันที “อ้า พี่สาว ทำไมเสื้อของท่านถึงเปื้อนคราบน้ำชาแผ่นใหญ่ขนาดนี้ รีบกลับไปเปลี่ยนเถิด”

“พี่พระชายา ขอโทษจริงๆ ข้าแค่คิดถึงเรื่องที่ทำผิดก่อนหน้านี้ คิดว่าก่อนจากไปมายอมรับผิด คิดไม่ถึงว่าท่านจะหันกลับมาพอดี” ฉู่หว่านเอ๋อร์ท่าทางอ่อนแอไร้เดียงสาใกล้จะร้องไห้แล้ว ทำให้สายตาทุกคนมองมาทางนี้

ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้าขึ้น สังเกตมองสองคนด้วยสีหน้าเย็นชา ริมฝีปากน้อยเปิดออก “ไม่เป็นไร เปลี่ยนเสื้อตัวตัวเองก็พอ”

พูดจบ ฉู่เนี่ยนซีก็กลับห้อง

ซ่างกวนเย็นส่งสายตาให้เฟยจู้ ขวางทางไปของนางไว้ เปิดปากพูด “ร่างกายพี่สาวเพิ่งดีขึ้น วันนี้ลมแรง เรือนของเย็นเอ๋อร์ใกล้กว่า หรือไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่ห้องข้าเถิด”

เฟยจู้รีบเข้าไปข้างหน้า “ข้าน้อยพาพระชายาไป! ที่ห้องของนายข้าน้อยยังมีเสื้อผ้าหลายชุดที่ไม่เคยใส่”

ฉู่เนี่ยนซีสังเกตมองพวกเขา อดคิดถึงความผิดปกติของพวกเขาไม่ได้ จากนั้นก็ยิ้มขึ้นทันที “ก็ดี”

พูดจบ นางก็เดินไปทางเรือนของซ่างกวนเย็นก่อน

นางก็อยากลองดู พวกเขาจะเล่นแผนการอะไรอีก!

อย่างรวดเร็ว ทั้งสองก็มาถึงในห้องของซ่างกวนเย็น

เฟยจู้ช่วยฉู่เนี่ยนซีหาเสื้อผ้าชุดหนึ่ง ก็เดินออกไป

ฉู่เนี่ยนซีสังเกตภายในห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น กลิ่นประหลาดอย่างหนึ่งลอยมา ฉู่เนี่ยนซีอดขมวดคิ้วไม่ได้

หางตานางมองไปที่นอกประตู ตะโกนออกเสียงทันที “ใคร!”

นางตะโกน ก็วิ่งออกไปนอกประตู แต่กลับรู้สึกเวียนหัวกะทันหัน และมีความเร่าร้อนบางอย่างเกิดขึ้นจากหัวใจ ล้มลงไปกับพื้นทันที “ยาเสน่ห์.......”

คนนอกประตูเดิมทีกำลังตกใจ ทันใดนั้นรู้สึกถึงในห้องนอนไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว ดีใจทันที ปิดจมูกไว้มองเข้าไปในห้อง เห็นฉู่เนี่ยนซีนอนอยู่บนพื้น ผิวที่อยู่นอกผ้าแดงก่ำไปทั้งฝืนตั้งนานแล้ว

เฟยจู้หัวเราะ รีบโบกมือให้กับคนที่ซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง “เสร็จแล้ว!”

เห็นเพียงชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่ไว้หนวดเครา สีหน้าลามกก้มเอววิ่งออกมา

ได้รับสัญญาณจากเฟยจู้แล้ว เขาป้อนยาเม็ดหนึ่งเข้าปาก จากนั้นถึงเดินเข้าไป

พอเขาเข้าไปก็สังเกตมองฉู่เนี่ยนซี ถึงแม้จะมีผ้าบางปิดไว้ แต่นอกผ้าบางนั้นผิวกลับขาวอมชมพู น่าเย้ายวนคน ดวงตาที่ปิดสนิททั้งคู่ ขนตาหย่อนคล้อยดั่งขนนก

เขาค่อยๆเปิดผ้าปิดหน้าของฉู่เนี่ยนซีออก มองโฉมหน้าของนาง ทันใดนั้นก็นั่งลงที่พื้น “แม่เจ้า ทำไมถึงสภาพผีแบบนี้ อ๋องหลีนี้ช่างรสชาติจัดจ้าน”

พูดจบ เขาก็เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก จากนั้นก็ปิดผ้าปิดหน้าของนางคืน “แต่ว่า.......นอกจากหน้าใบนี้ ลำพังหุ่นของพระชายาหลีนี่ก็สุดยอด อรชรสมส่วน สวมผ้าปิดหน้าแล้วก็ถือเป็นงดงามแล้ว!”

“ไม่รู้ว่ารสชาติของผู้หญิงท่านอ๋องเป็นอย่างไร.......”

พูดไปเขาก็จับคางไปมา มองหน้าอกนางอย่างลามก จากนั้นก็ยื่นมือที่ผิวกระด้าง ไปจับร่างกาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี