พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 106

มุมปากซ่างกวนเย็นอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ แต่ก็บดบังไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าตกใจ มองไปที่เย่เฟยหลี

“นี่.......ท่านอ๋อง........”

เย่เฟยหลีสีหน้าปกติ สายตาคมลึกกวาดมองประตูที่ปิดแน่น ฟังเสียงร้องครวญครางของชายหญิงในห้อง

ทุกคนต่างก็มองหน้ากันอย่างคุ้นเคย อยากจะจากไป แต่กลับถูกความสงสัยดึงรั้ง

“ก่อนหน้านี้พระชายาหลีไม่ใช่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพระชายารองหรือ........”

“หรือว่าในนี้จะเป็น.......”

เย่เฟยหลีได้ยินเช่นนี้ สายตาเย็นชากวาดมองคนที่พูด ทันใดนั้นคนนั้นรู้สึกอากาศหายใจหยุดไว้ในปาก

พวกนั้นที่อยากดูความครึกครื้น ขณะนี้ก็อดตัวสั่นไม่ได้

ต่างก็คิดว่าเรื่องซุบซิบหรือชีวิตสำคัญกว่า ต่างก็พากันขอตัว

เย่เฟยหลีกวาดมองทุกคน พูดเสียงต่ำขึ้นมา “ในเมื่อมาแล้ว ก็ดูคนในห้องให้ชัดเจนค่อยว่ากัน! ภรรยาของข้าไม่ทำเรื่องแบบแน่นอน!”

พูดไป เย่เฟยหลีก็ผลักประตูออกโดยตรง

คนใจฝ่อก็อดก้มหัวไม่ได้ แต่ก็มีคนบางส่วนยื่นคอมองเข้าไปข้างใน

สายตาซ่างกวนเย็นมีรอยยิ้มอันได้ใจ แต่กลับยังคงสภาพเศร้าโศก พอเข้าไปก็ตะโกนเสียงดัง “กลางวันแสกๆพวกเจ้าทำไมถึงได้........”

“อ้าก!​ ทำไมถึงเป็นพวกเจ้า!” ซ่างกวนเย็นมองคนที่นัวเนียกันบนเตียงสองคนจนชัดเจน ทันใดนั้นก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

เย่เฟยหลีขึงตาใส่นางทีหนึ่งอย่างเย็นชา ริมฝีปากมีเสน่ห์เผยอเล็กน้อย “มิเช่นนั้นเจ้าคิดว่าเป็นใคร?”

“ข้า........เปล่า!” ซ่างกวนเย็นสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ พูดอย่างฝืนทำเป็นสงบสติ

ทุกคนได้ยินคำสนทนาของทั้งสอง ก็ไม่ห่วงอะไรแล้ว คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าหลายคนก็มองไปที่เตียง พอมองแล้ว ก็ตกใจจนแทบคางหลุด

นี่.......อ๋องเหลียนและฉู่หว่านเอ๋อร์?

พวกเขาสองคนกลับทำเรื่องมั่วโลกีย์เช่นนี้ในห้องนอนของบ้านคนอื่น?

คนบนเตียงก็เกือบระบายหมดแล้ว และเหมือนถูกทำให้ตกใจ เรียกสติกลับมาเล็กน้อย มองไปที่ประตู ตกใจทันที

ฉู่หว่านเอ๋อร์หน้าตาแดงก่ำขณะที่เห็นคนมากมาย ก็ยิ่งสีเข้มกว่าเดิม รีบหดตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเย่เหลียน พยายามจะปิดร่างกายของตัวเอง

ส่วนเย่เหลียนเรียกสติกลับมาเล็กน้อย เมื่อมองคนในอ้อมกอดชัดแล้ว ดวงตาทั้งคู่ก็ยิ่งมืดครึ้มเหมือนดั่งน้ำหมึกที่หยดลงมา น่ากลัวที่สุด

เย่เฟยหลีมองดูสีหน้าของเขาอย่างเพลิดเพลิน มุมปากยิ้มขึ้นเล็กน้อย หันตัวออกไปจากประตูก่อน

ทุกคนเห็นเย่เฟยหลีจากไป ก็พากันเดินออกจากประตูเหมือนหนีตาย จากนั้นก็ปิดประตูไว้อย่างมีน้ำใจ อดเช็ดเหงื่อบนหน้าผากไม่ได้

เห็นอ๋องเหลียนมั่วโลกีย์กับคนอื่นในจวนอ๋องหลีแบบนี้ เรื่องนี้มันไม่ธรรมดา!

ทุกคนยืนอยู่กลางสวนเหงื่อไหลพราก เสมือนคนคบชู้คือพวกเขาอย่างนั้น ไม่สบายใจอย่างมาก กำลังคิดว่าจะหาเหตุผลอะไรจากไป ห้องด้านข้างก็มีเสียงร้องของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น!

“อ้าก! เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!”

ทุกคนพากันมองไปที่ตำหนักรอง สีหน้าเปลี่ยนไปไม่อาจเดาได้

ซ่างกวนเย็นเพราะว่าเรื่องของเย่เหลียนและฉู่หว่านเอ๋อร์ รู้สึกคาดไม่ถึง ไม่สามารถจัดการฉู่เนี่ยนซี ยิ่งทำให้นางเลือดลมซูบฉีด ตอนนี้ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในห้องเรือนน้อย ก็อดดีใจไม่ได้

หรือว่าในตำหนักรองจะเป็นฉู่เนี่ยนซี?

ซ่างกวนเย็นคิดเช่นนี้ สายตาก็มีแววดีใจเลื่อนผ่าน จากนั้นไม่รอคนอื่นพูด ก็ก้าวไปข้างหน้า “ใครอยู่ข้างใน!”

เกือบจะเวลาเดียวกัน นางผลักประตูออกอย่างรวดเร็ว ภายในห้องยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายการร่วมรัก

ซ่างกวนเย็นเงยหน้า ก็เห็นแผ่นหลังของชายฉกรรจ์พอดี ส่วนด้านหลังของเขาก็เห็นเพียงน่องเล็กๆขาวๆท่อนเดียวเท่านั้น

ชายฉกรรจ์หันกลับมา ในใจซ่างกวนเย็นตื่นเต้น เฟยจู้เคยอธิบายโฉมหน้าของคนนี้ให้นางฟัง ต้องเป็นเขาแน่นอน!

ส่วนคนที่หลบอยู่ด้านหลังเขาต้องเป็นฉู่เนี่ยนซีแน่นอน!

“อ้าง! พี่สาว.......ทำไมท่าน........ทำไมท่านถึงทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่น!” ซ่างกวนเย็นแกล้งทำเป็นสภาพตกใจ ปิดปากไว้ ตะโกนเสียงดังด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ เสียงดังมาก แทบจะสามารถทำให้ทุกคนในเรือนได้ยินอย่างชัดเจน

คนนอกประตูได้ยิน ก็มองไปที่เย่เฟยหลีอย่างระมัดระวัง!

หรือว่าในตำหนักรองนี่คือ........พระชายาหลี?

มิน่านางแค่เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับถึงตอนนี้แล้วยังไม่ปรากฏตัว!

นี่อ๋องหลี.......น่าอนาถเกินไปแล้ว!

ทุกคนคิดไป สายตาที่มองไปที่เย่เฟยหลีก็เปลี่ยนไป มีความเห็นใจและความดีใจ

“น้องสาวนี่เรียกใครว่าพี่สาวหรือ?”

เสียงอันเย็นชาดังขึ้นมาจากภายในลานบ้าน

ทุกคนพากันมองไปที่ประตูสวน ก็เห็นเพียงฉู่เนี่ยนซีกำลังเดินมาทางนี้อย่างช้าๆด้วยสีหน้ามึนงง

“หา? คือพระชายาหลี! แล้ว......ในนั้นคือใครกัน?”

คนภายในลานบ้านอดสงสัยไม่ได้ สภาพที่มองซ่างกวนเย็น ก็บอกว่าเป็นฉู่เนี่ยนซีชัดๆ แต่ตอนนี้ฉู่เนี่ยนซีกลับยืนอยู่ข้างหน้าพวกเขา

หลังจากซ่างกวนเย็ตรงประตูเห็นฉู่เนี่ยนซีแล้ว สีหน้าก็ไม่อยากเชื่อ ดวงตาเบิกกว้างทันที มองไปบนเตียง “ช่างกล้า! พวกเจ้าเป็นใคร!”

ชายฉกรรจ์ได้ยินเสียงตะโกน ก็ล้มลงบนพื้นอย่างว่องไว เปิดเผยคนบนเตียงพอดี

ก็เห็นเฟยจู้สภาพเหมือนอาการตกใจ ร่างทั้งตัวหดเป็นก้อน ใช้ผ้าห่มคลุมตัวไว้ร่างกายสั่นเล็กน้อย

“เฟยจู้?”

ได้ยินซ่างกวนเย็นเรียก เฟยจู้เหมือนเรียกสติคืนมาเสียอย่างนั้น เงยหน้ามองซ่างกวนเย็น น้ำตาไหลลงมาทันที

“พระชายารอง........”

ซ่างกวนเย็นคิดถึงคนในสวน กำลังจะปิดประตู ก็เห็นเพียงฉู่เนี่ยนซีก้าวเข้ามาในห้องก่อนแล้ว กำลังจะพูด ก็ถูกคนปิดตาไว้จากข้างหลัง

“สกปรก อย่าดู!” เสียงอันอ่อนโยนของเย่เฟยหลีดังขึ้นข้างหูของฉู่เนี่ยนซี จักจี้ ทำให้นางอดตัวสั่นไม่ได้

“เจ้า! ใส่เสื้อให้เรียบร้อย!” เย่เฟยหลีมองชายฉกรรจ์ด้วยสายตาเย็นชา

“ได้ได้ได้........” ชายฉกรรจ์ตกใจ รีบเก็บเสื้อผ้าบนพื้น สวมใส่อย่างกระวนกระวาย

เมื่อชายฉกรรจ์ใส่เสื้อเรียบร้อยแล้ว เย่เฟยหลีถึงได้เอามือออกจากตาของนาง

ฉู่เนี่ยนซีอดขึงตาใส่เขาไม่ได้ นางเป็นหมอ เห็นคนไข้มานับไม่ถ้วน อย่างร่างกายแบบนี้ เคยเห็นมากกว่าคนทั่วไปเยอะมาก นี่เย่เฟยหลีเห็นนางเป็นหญิงสาวทั่วไปแล้วหรือ?

เย่เฟยหลีไม่ใส่ใจสายตาของนางแม้แต่น้อย สายตาอันเย็นชานั้นมีรอยยิ้มเล็กน้อยมองนางไปทีหนึ่ง จากนั้นก็เดินออกจากห้อง

“จัดการเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมา”

พูดไป เขาก็ดึงตัวฉู่เนี่ยนซีเดินออกไปก่อน ไม่ได้มองซ่างกวนเย็นที่ยืนตะลึงอยู่ด้านข้างเลยแม้แต่น้อย

ซ่างกวนเย็นกัดฟันอย่างเกลียดแค้น ขึงตาใส่เฟยจู้ ออกไปพร้อมกัน

เพียงชั่วครู่ ชายฉกรรจ์และเฟยจู้ใส่เสื้อเรียบร้อยแล้วต่างก็คุกเข่าอยู่บนพื้น ส่วนขณะนี้เย่เหลียนในอีกห้องหนึ่งก็เดินออกมาแล้ว

ทุกคนต่างก็หาข้ออ้างจากไป

พูดเป็นเล่น เรื่องของพวกท่านอ๋อง พวกเขาไม่กล้ายุ่ง มิหนำซ้ำคนนี้ยังเป็นคนที่ช่วงนี้มีโอกาสได้ตำแหน่งมกุฎราชกุมารอีกด้วย

ทันใดนั้นในสวนก็เงียบสงบลงมา

เย่เฟยหลีนั่งอยู่บนโต๊ะหินกลางสวน สีหน้าสบายใจ เงยหน้าก็สบตาเข้ากับตาที่หรี่เล็กน้อยของเย่เหลียน “พี่รองช่างอารมณ์สนุกสนาน จวนอ๋องของข้าดูแล้วจะรับเรื่องความเจ้าชู้ของท่านไม่ไหวแล้ว แต่หากครั้งหน้ามีเรื่องแบบนี้ ท่านก็บอกคนเป็นน้องอย่างข้าได้ ข้าจะได้หาห้องรับแขกให้ท่าน ป้องกันการเกิดเรื่องอึดอัดอย่างวันนี้อีก!”

เย่เฟยหลีพูดแต่ละคำแต่ละประโยค ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเสียดสี

เย่เหลียงอดกำหมัดไว้แน่นไม่ได้ มองเย่เฟยหลีอย่างเกลียดแค้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี