พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 107

ฉู่เนี่ยนซีฟังคำพูดของพวกเขา ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว

ตอนที่เขาออกจากห้องนอนของซ่างกวนเย็น มีเพียงเย่เหลียงคนเดียว ตอนนั้นในห้องยังมีกลิ่นของยาเสน่ห์หลงเหลืออยู่ นางก็ใจดีเตือนเขาแล้ว ให้เขารีบออกไป

หากว่าเย่เหลียนจากไปหลังจากที่นางจากไป ก็ไม่มีทางโดนยาพิษ มิหนำซ้ำเขาเป็นท่านอ๋องคนหนึ่งก็ไม่มีทางอยู่ในห้องนอนของซ่างกวนเย็น ยกเว้น........

นางอดมองไปที่ฉู่หว่านเอ๋อร์ไม่ได้ นอกจากเย่เหลียนถูกคนขวางเอาไว้ ถ้าเช่นนี้แล้ว ฉู่หว่านเอ๋อร์ตอนนั้นก็อยู่ข้างนอก!

ดูแล้วฉู่หว่านเอ๋อร์คนนี้ก็ทุ่มสุดตัวแล้ว! กลับใช้วิธีแบบนี้อยู่เมืองปู้เย่ต่อ มิหนำซ้ำยังเข้าไปในจวนอ๋องเหลียงอย่างราบรื่น เพียงแค่......ซ่างกวนเย็นนี่เป็นสะพานให้คนอื่นเสียแล้ว!

ฉู่หว่านเอ๋อร์ถูกสายตาของนางมองจนเสียวสันหลัง แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นสงบสติ จากนั้นก็สีหน้าน่าสงสาร “อ๋องหลี ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด ตอนนั้นข้าแค่อยากมาดูว่าพี่พระชายาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วหรือยัง ถึงได้เข้าไป แต่ตอนนั้นเห็นเพียงอ๋องเหลียงอยู่ ดังนั้นก็พูดกันไปหลายประโยค แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเวียนหัวเร่าร้อน เรื่องที่เกิดหลังจากนั้น หว่านเอ๋อร์ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร.......”

พูดไป ฉู่หว่านเอ๋อร์น้ำตาไหลพราก ดึงเสื้อบนตัวแน่น ท่าทางเหมือนทนรับเรื่องน่าสงสารอย่างมาก!

คิ้วที่ขมวดแน่นของซ่างกวนเย็นคลี่คลายออกทันที จากนั้นก็สีหน้าสงสัย “ออ? อ๋องเหลียนอยู่ในห้องของเย็นเอ๋อร์? แต่หม่อมฉันจำได้ว่า พี่สาวเปลี่ยนเสื้ออยู่ในตำหนัก.......นี่........”

ซ่างกวนเย็นยิ่งพูดยิ่งรู้สึกแปลก ทันใดนั้นก็ปิดปากไว้ สีหน้าหวาดกลัว

ฉู่เนี่ยนซีมองดูท่าทางแกล้งทำเป็นอ่อนโยนเสแสร้งของนาง อดขึงตาใส่นางไม่ได้ “แต่ไหนแต่ไรมาข้าทำอะไรคล่องแคล่ว แค่เปลี่ยนเสื้อไม่ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่! ตอนที่ข้าเตรียมจะออกไป ก็เจออ๋องเหลียงพอดี ด้วยฐานะแล้ว ก็แค่ทักทายแล้วก็จากไป!”

“เป็นเช่นนี้จริงหรือ? แต่ฟังคำพูดของน้องหว่านเอ๋อร์ พวกเขาสองคนกลับเหมือนถูกวางยาพิษ!” ซ่างกวนเย็นพูดขึ้นอีกครั้ง

เย่เหลียงมองซ่างกวนเย็นด้วยสีหน้าเย็นชา รอบตัวเต็มไปด้วยความโหดร้าย

ผู้หญิงอย่างซ่างกวนเย็นคนนี้ ตอนนี้จะหลอกใช้ข้าโค่นล้มฉู่เนี่ยนซีเหรอ!

คิดมาถึงบนหัวเขา นี่มันช่างใจกล้าเกินไปแล้ว

แต่ว่า........เย่เหลียนก็มองไปที่ฉู่เนี่ยนซีอีกครั้ง เห็นเพียงสายตานางเต็มไปด้วยความเรียบเฉย สายตานี้อดทำให้เขาเต็มไปด้วยความอยากพิชิตในขึ้นมาอีก

หากทำให้เย่เฟยหลีสงสัยฉู่เนี่ยนซี อาจจะมีผลลัพธ์ที่ต่างกันก็ได้

“ข้าก็แค่เดินผ่านพอดี เจอผู้ชายคนหนึ่งจากไปพอดี เป็นห่วงว่าเกิดเรื่องในห้อง นี่ถึงได้เข้าไปดู พอดีได้เห็น.......” พูดไป เขามองไปที่ฉู่เนี่ยนซี “เห็นนางกำลังดื่มชาพอดี”

“แต่ว่า......พวกเราสองคนไม่ได้มีคำสนทนาอะไรมากจริง น้องสะใภ้ก็จากไปแล้ว! สำหรับหลังจากนั้นพวกเจ้าก็รู้แล้ว”

“ออ.......ใช่แล้ว! ผู้ชายคนนั้นก็คือคนนี้!” พูดไป เย่เหลียนมองชายฉกรรจ์ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วก็ชี้ จากนั้นก็มองไปที่ฉู่เนี่ยนซีอีกครั้ง “อันนี้เจ้าต้องอธิบายหน่อยว่าคนคนนี้คือใคร”

สายตาทั้งหลายมองไปที่ชายฉกรรจ์ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น สีหน้าฉู่เนี่ยนซีปกติยักคิ้วเล็กน้อย “คนนี้ไม่รู้จัก เกรงว่าอ๋องเหลียงท่านดูผิดแล้ว! บางทีคนอาจจะออกไปจากห้องอื่นก็เป็นไปได้ มิหนำซ้ำ ในเรือนนี้มีผู้ชายแปลกหน้าปรากฏตัว เรื่องนี้ต้องถามพระชายารองซ่างกวนแล้ว เพราะว่าเรือนเป็นของนาง”

ฉู่เนี่ยนซีนำเป้าหมายสายตาของทุกคนหันไปบนตัวของซ่างกวนเย็นสำเร็จ

ซ่างกวนเย็นใจฝ่อ แต่มองชายฉกรรจ์ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ทันใดนั้นก็มีความมั่นใจขึ้นมา “พี่สาวก็พูดเสีย คนนี้เย็นเอ๋อร์ไม่เคยเห็น เมื่อก่อนก็ไม่เคยเห็น วันนี้พี่สาวก็แค่เปลี่ยนเสื้อเท่านั้น ผู้ชายคนนี้ก็ปรากฏตัวแล้ว ยังคงต้องเป็นพี่สาวที่รู้ถึงจะถูก”

ฉู่เนี่ยนซีหัวเราะกะทันหัน มองไปที่นางอย่างเย็นชา “เช่นนั้นความหมายของเจ้าคืออะไร? คือข้ามีชู้ หรือว่าข้าวางยาให้กับอ๋องเหลียง หรือว่า.......ข้าหาคนมาปลุกปล้ำสาวใช้เจ้า?”

ฉู่เนี่ยนซียิ่งพูดสายตายิ่งเย็นชา บุคลิกทั้งตัวบีบแค้นคน ทำให้คนหายใจไม่ออก

ซ่างกวนเย็นพยายามบังคับใจให้สงบสติ ก็อดหัวเราะเย็นชาไม่ได้ “คำพูดพี่สาวนี่ท่านพูดเอง สถานการณ์ต่างๆนานาล้วนมีปัญหา คนเดียวที่เดิมแล้วควรอยู่ที่นี่ กลับไม่อยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าเมื่อครู่พี่สาวไปทำอะไรแล้ว”

“แต่ไหนแต่ไรข้าก็ไม่ชอบความครึกครื้น เปลี่ยนเสื้อเสร็จก็หาสถานที่สงบไปพักผ่อนแล้ว” ฉู่เนี่ยนซีพูดอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็พูดว่า “ทำไม ฟังความหมายของน้องสาวแล้ว กลับเหมือนหวังว่าคนที่ถูกจับได้บนเตียงเป็นข้า? ข้าโชคดีที่หลีกเลี่ยงไป แต่กลับเป็นหนามแทงใจเจ้าแล้วหรือ?”

ซ่างกวนเย็นอดตะลึงไม่ได้ รีบมองไปทางเย่หลีเฟย เห็นเพียงเขามองฉู่เนี่ยนซีด้วยสายตาเร่าร้อน เสมือนไม่เคยห่างออกไปเสียอย่างนั้น ยิ่งทำให้นางโกรธแค้นยิ่งขึ้น

“เรื่องราวเป็นอย่างไร ในใจของเจ้าชัดเจนที่สุด! อ๋องเหลียงกับน้องหว่านเอ๋อร์หลังจากที่ท่านจากตำหนักไปแล้ว ก็โดนพิษยาเสน่ห์พร้อมกัน ท่านกล้าพูดว่าไม่เกี่ยวกับท่าน?”

ซ่างกวนเย็นแทบจะเหมือนถูกความโกรธทำให้ขาดสติ ถามอย่างตรงๆ

สายตาของเย่เหลียงก็มืดครึ้ม สายตาที่มองไปที่ฉู่เนี่ยนซีก็มีความพิจารณาและมืดครึ้มยิ่งขึ้น

ฉู่เนี่ยนซีไม่สนใจสายตาของพวกเขาเลยสักนิด ยิ้มอย่างเบิกบาน “ทำไมข้าต้องวางยาต่ออ๋องเหลียงและฉู่หว่านเอ๋อร์? นางฉู่หว่านเอ๋อร์แผลขายดีแล้วก็ออกจากเมืองปู้เย่ได้ บางทีอาจจะกลับมาอีกไม่ได้แล้ว หรือว่าข้าทำเพื่อให้คนที่ข้าเคยเกลียดจนอยากให้นางไปตายอยู่ขวางหูขวางตาข้าหรือ?”

ฉู่เนี่ยนซีพูดตรงไปตรงมา ทำให้คนอื่นฟังแล้วอึ้งไปเล็กน้อย ต่างก็ไม่รู้ว่าฉู่เนี่ยนซีจะพูดจาตรงเช่นนี้

แต่ว่า นางกลับพูดได้อย่างมีเหตุผล เย่เหลียนคิดคำพูดของนางอยู่ สายตาอันมืดครึ้มก็ค่อยๆคลายออก

ฉู่เนี่ยนซีจะวางยาเขาทำไม เพียงเพื่อแค่ให้เขาอยู่กับฉู่หว่านเอ๋อร์?

ฉู่เนี่ยนซีพูดจบ มุมปากก็โก่งขึ้น “สำหรับใครเป็นคนวางยา ตรวจสอบได้ง่ายมาก เพราะว่า.......ทำเรื่องแบบนี้ต้องมีผลประโยชน์ ใครได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็เป็นคนนั้น!”

คำพูดของฉู่เนี่ยนซี ทำให้เย่เหลียงมองไปที่ฉู่หว่านเอ๋อร์ที่ยืนร้องไห้ตามัวอยู่ด้านข้าง

ฉู่หว่านเอ๋อร์ตะลึง น้ำตายิ่งไหลทะลัก “พวกท่าน......พวกท่านสงสัยว่าข้าวางยาให้ตัวเองหรือ?”

“ถึงข้าจะบ้าไปแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นนี้!” ฉู่หว่านเอ๋อร์ยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น มองดูสายตาพิจารณาของเย่เหลียน นอกเหนือจากความตื่นตระหนก ยิ่งคือความเกลียดในใจ ร้องไห้รุนแรงขึ้น “พวกท่านสงสัยข้า ได้! อย่างไรข้าก็สูญเสียความบริสุทธิ์แล้ว ไม่มีหน้าที่จะอยู่ทนกับคำครหาของคนอื่นแล้ว เช่นนั้นวันนี้หว่านเอ๋อร์ก็ให้ความตายพิสูจน์”

พูดจบ นางหลับตาตาสนิท ชนไปที่เสาด้านข้างอย่างรวดเร็ว

เย่เหลียนเห็นเช่นนี้ ตอนที่นางจะชนเสา ก็ขวางนางไว้อย่างมั่นคง

“ท่านให้ข้าไปตายเถิด! มีเพียงอย่างนี้ ถึงจะไม่ถูกคนสงสัยและครหา” ฉู่หว่านเอ๋อร์ร้องไห้ฟูมฟาย ตาทั้งสองข้างแดงบวม ยิ่งดูน่าสงสาร เสมือนวินาทีต่อไปก็จะขาดใจอย่างนั้น “โทษข้า ล้วนโทษข้า! จะมาที่นี่ในเวลานี้ มิเช่นนั้น.......มิเช่นนั้นก็ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ พลอยทำให้อ๋องเหลียนเดือดร้อนไปด้วย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี