ตอน บทที่ 33 ร่วมเตียงเคียงหมอน จาก พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 33 ร่วมเตียงเคียงหมอน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี ที่เขียนโดย ชานมเปรี้ยว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ชัดเจนว่ามือสังหารเหล่านี้ หลังจากที่เย่เฟยหลีออกมาหานาง จึงได้พากันซุ่มหมอบอยู่ จุดมุ่งหมายของพวกมันคือเย่เฟยหลี ไม่ใช่นาง
นางเดินทางเป็นความลับขนาดนี้ ทำไมถึงได้ถูกเย่ฉงเซิ่งพบเห็น?
หรือพูดได้ว่ามีใครเห็นนาง แล้วแอบไปบอกเย่ฉงเซิ่ง จากนั้นค่อยอาศัยนิสัยชอบหาเรื่องของเขา ให้เอาข่าวคราวไปบอกเข้าหูเย่เฟยหลี?
ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วเป็นปม เย่เฟยหลีรู้แค่ว่านางไปหอร้องรำทว่าไม่รู้ว่าความจริงแล้วนางไปบ่อน นั่นก็หมายความว่า คนที่เห็นนางน่าจะอยู่ในหอ ไม่ใช่ในบ่อน
จุดมุ่งหมายของคนที่อยู่เบื้องหลัง คือสังหารเย่เฟยหลีอย่างลับๆ และนางเป็นเพียงแค่สิ่งชักจูงเย่เฟยหลีออกมาจากจวนเท่านั้นเอง
“เจ้าใช้กริชเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เย่เฟยหลีก็ไม่กล้าหละหลวม ก่อนเหลียงหยวนจะนำองครักษ์ลับมา มือของเขาเองก็จะต้องจับกระบี่ที่อยู่ช่วงเอวไว้ด้วย
ฉู่เนี่ยนซีมีเรื่องเก็บไว้ในใจ เลยตอบไปว่า“ใช้เป็นนานแล้ว ท่านแค่ไม่รู้เท่านั้นเอง”
เย่เฟยหลีขมวดคิ้วเป็นปม กล่าวว่า”ดูเหมือนว่าข้าไม่รู้เกี่ยวกับเจ้าเยอะเลย”
ฉู่เนี่ยนซีไม่พูดจา นางจมดิ่งอยู่ในความคิดตัวเอง เย่เฟยหลีก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอีก ทว่าสายตากลับจับจ้องที่นาง นัยน์ตามีการไตร่ตรองและครุ่นคิด
เมื่อเวลาหนึ่งก้านธูปเหลียงหยวนได้นำองครักษ์ลับมา เขาเห็นสายตางงงวยของฉู่เนี่ยนซี เย่เฟยหลีเลยกล่าวอธิบายว่า“ด้านในจวนอ๋องหลีมีจำนวนหนึ่ง ด้านนอกมีจำนวนหนึ่ง เพื่อนำมาใช้ในช่วงคับขัน”
อาจเป็นเพราะหยูเป่ยบวกกับองครักษ์ลับของเย่เฟยหลีล้อมรอบโรงเตี๊ยมนี้ไว้ พวกนักฆ่าที่อยู่ด้านนอกคอยจ้องหาโอกาสลงมือ ทว่าหาเวลาที่เหมาะสมลงมือไม่ได้ เพราะฉะนั้นทั้งสองฝ่ายเลยกลายเป็นคุมเชิงกันอยู่ ชั่วพริบตาเดียวเลยกลายเป็นเงียบสงบ
เถ้าแก่เอาเครื่องนอนมาให้เพิ่ม หยูเป่ยรับมา ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเอาปูบนเตียงของท่านอ๋องหลีหรือไม่นั้น ก็เห็นฉู่เนี่ยนซีคว้าไปปูที่พื้น จากนั้นจึงรวบชุดนอนลง
เวลานี้ หยูเป่ยไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ทำได้เพียงมองหน้าของท่านอ๋องหลีที่ดูไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
“ฉู่เนี่ยนซี เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
หยูเป่ยกระแอมไอเบาๆ จากนั้นทำเป็นไม่สนใจแล้วถอยออกไป และคุ้มกันอยู่ตรงประตูอย่างว่าง่าย
ฉู่เนี่ยนซีนอนอยู่บนพื้น หลับตาลง คล้ายดั่งว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ กล่าวขึ้นอย่างราบเรียบว่า“ไม่มีอะไร”
เส้นเลือดบริเวณขมับของเย่เฟยหลีเต้น เหมือนกับว่ามีเสียงดังออกมา“เพราะฉะนั้นแล้ว เจ้าทำแบบนี้ให้ใครดู?”
ทำให้ใครดู?
ฉู่เนี่ยนซีลืมตามองไปทางเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ น้ำเสียงจนปัญญา รู้สึกเพียงว่าผู้ชายคนนี้เอาใจยากเกินไปแล้ว
“ท่านอ๋องหลี ตอนนั้นข้าหลอกท่านให้มาใช้ชีวิตกับข้า ข้าทำไม่ถูก ตอนนั้นท่านก็เกือบจะโยนข้าเข้าไปโรงม้าแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาต่อมาข้าได้กลับมาย้อนคิดดู และตอนนี้นี่คือผลจากการย้อนคิดของข้า ท่านอ๋องมีตรงจุดไหนที่ยังไม่พอใจหรือ?”
บรรยากาศภายในห้องค่อยๆปะทุขึ้น หยูเป่ยที่อยู่บริเวณประตูกลั้นหายใจ อีกทั้งถอยหลังไปข้างประตูสองก้าว ราวกับว่ากลัวท่านอ๋องหลีจะพลิกตัว ชักเอากริชออกมาจากเสื้อคลุม แล้วทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บไปด้วย
ฉู่เนี่ยนซีจ้องเขาอยู่สักพักหนึ่ง ไม่เห็นว่าเขาจะพูดอะไร นางเลยนอนหลับตาลงอีกครั้ง ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงไม่กี่วันผ่านมานี้
นางไม่รู้เลยว่าเย่เฟยหลีสีหน้าเย็นชา ลงมาจากเตียง นั่งยองๆอยู่ข้างนางแล้ว
ลมหายใจอุ่นร้อนสัมผัสอยู่บนหน้านาง ฉู่เนี่ยนซีลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิด แต่กลับเห็นเย่เฟยหลีจ้องตัวเอง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ขึ้นไปนอนบนเตียง”
เขาสวมใส่ชุดสีขาวและสีหน้าเย็นชา ขนคิ้วยาว แล้วยังมีผมกับตาที่ดำขลับราวกับหมึก ความขาวดำที่เด่นชัดแบบนี้ มองดูแล้วเป็นความรู้สึกน่าสงสาร ยากมากที่จะมองเห็นบนตัวเขาในวันปกติ
หยูเป่ยรู้สึกปวดหัว แต่ทว่าลืมสิ้นหมดแล้ว ครึ่งเดือนก่อนเย่เฟยหลี ทั้งสองคนยังเหมือนน้ำกับไฟอยู่เลย
สรุปแล้วองครักษ์ลับของเหลียงหยวนมีอยู่เท่าไหร่ หยูเป่ยก็ไม่แน่ใจ แต่เขาเฝ้าอยู่ทั้งคืน นอกจากเสียงต่อสู้ที่ดังมาอย่างเลือนรางจากด้านบนหลังคา ก็ไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวอื่นแล้ว
ตอนที่ฟ้าใกล้จะสาง เหลียงหยวนเดินมาพร้อมกับกลิ่นคาวเลือด ให้เขาเรียกเหล่าผู้เป็นนายของเขาตื่น
คาดว่าคนที่ควรจัดการล้วนจัดการเรียบร้อยแล้ว หยูเป่ยพยักหน้า แต่เขาจะกล้าเข้าไปเรียกในห้องจริงๆได้อย่างไรกัน ด้วยเหตุนี้เลยเคาะอยู่ที่ประตูสามครั้ง เรียกฉู่เนี่ยนซีเบาๆ
ฉู่เนี่ยนซีหลับไม่ลึก เลยตื่นขึ้นมา เอียงคอมองกลับเห็นศีรษะของเย่เฟยหลีเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ปลายนิ้วและริมฝีปากสั่นระริก
เขาฝันร้ายหรือ?
ฉู่เนี่ยนซีเรียกเบาๆเขาก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เลยจนปัญญาเอื้อมมือไปผลักเขา ใครจะรู้ว่ามือของนางเพิ่งจะสัมผัสโดนแขนเขา มือข้างนั้นของเย่เฟยหลีที่อยู่ในผ้าห่ม จู่ๆก็ยื่นออกมา เอากริชอันคมกริบนาบอยู่ที่คอของนางแล้ว
ฉู่เนี่ยนซีตกตะลึงพรึงเพริด ถอยหลังอย่างร้อนใจ แต่ด้านหลังเป็นเตียง มีตรงไหนที่ให้นางถอยได้ล่ะ?
จิตใต้สำนึกของเย่เฟยหลีเอากริชไปนาบตรงคอของนาง ทั้งสองคนสบสายตากัน นางเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของเขา แล้วยัง….มีความทุกข์ใจด้วย
ความทุกข์ใจที่ฝังอยู่ในส่วนลึก
การต่อสู้กันของทั้งสองคนอยู่บนเตียงได้ยินอย่างชัดเจน เมื่ออยู่ในช่วงฟ้าสางที่เงียบสงบ
หยูเป่ยที่อยู่ด้านนอกขมวดคิ้ว เขามองสำรวจเข้าไปด้านใน พอมองดูแล้วแทบทำให้เขาหายใจไม่ออก สาวเท้าเข้าไปหมายจะคว้ามือของเย่เฟยหลี“ปล่อยมือ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี
Please Update for your lovely fan club...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้ทางทีมงามอัพเดททุกวันเลยค่ะ😭...
แอดช่วยอัพต่อให้ด้วยนะคะ...
ทีมงานสู้ๆๆๆๆ จะติดตามต่อไป...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ใจจดใจจ่อรออ่านอยู่ค่ะ...
รอๆๆๆค่ะ เมื่อไรจะอัพให้...
อยู่ๆก็อัพอ่ะแอด 😓...
114 รบกวนอัพเดตต่อให้ด้วยค่ะ รออ่านต่อนะคะ...
ลงตอนเดียวเองหรอค่ะ...