พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 37

และเวลาเดียวกัน ที่เรือนของพระชายาหลี

เมื่อคืนน่าจะดื่มหนัก ฉู่เนี่ยนซีพลิกตัวไปพลิกตัวมาหลายหน ไม่รวบผมตัวเองก็ลงมาจากเตียงแล้ว นางรู้สึกว่าเบลอและหนักหัวมาก ราวกับว่าก้อนเหล็กขนาดใหญ่สองก้อนถูกผูกไว้ที่หน้าผากและด้านหลังศีรษะจนไม่อยากขยับ

เย่เฟยหลีไม่ใช่คนเมาง่าย มาตรแม้นว่าอยู่ในเมืองนี้ก็เป็นไม่เป็นสองรองใครเลย เขาตื่นมาตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นเร็วมากเหมือนที่ผ่านมา เขาสั่งให้คนรับใช้เอางานราชมาส่งถึงที่นี่ จากนั้นนั่งอ่านอยู่ข้างฉู่เนี่ยนซี

ฉู่เนี่ยนซีสติเลอะเลือนขมุกขมัว นอนตื่นสายตะวันโด่งฟ้าถึงได้ลืมตาขึ้นมาด้วยความไม่เต็มใจ

สายตากำลังรวบรวมจับจ้อง จู่ๆก็เห็นเย่เฟยหลีสวมใส่ชุดด้านใน ด้านนอกคลุมด้วยชุดเมื่อคืน นั่งอยู่ห่างจากนางไม่เกินสองเมตร กำลังรวบรวมสติมองสอบสวนคดีอยู่ในมืออยู่

เมื่อก้มลงมองตัวเอง เห็นผ้าห่มม้วนจนเป็นก้อน เนื่องจากเมื่อคืนนี้ดื่มหนักจนไม่ได้ทำการเปลี่ยนชุด นางนอนลงทันทีเลย ช่วงเอวยังมีรอยถูคราบน้ำมันของน่องไก่ที่กินเสร็จแล้ว

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกว่าตัวเองเป็นหยาบ ส่วนเย่เฟยหลีถึงเป็นองค์ชายใช้ชีวิตที่มีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวยอย่างแท้จริง

นางลุกขึ้นนั่งทันที และตกใจจนต้องถอยหลังกรูอยู่บนเตียง น้ำเสียงก็เปล่งเสียงดังขึ้นว่า“ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

เย่เฟยหลีหัวเราะอย่างเย็นชา วางพู่กันสีแดงดำที่ใช้ลง กล่าวว่า“ดูแล้วความเก่งในการดื่มเหล้าของเจ้า ก็อย่างนั้นแหละ”

“ข้า….ท่าน….”

“เหอะ ข้าเจ้าเป็นอะไรหรือ? หรือว่าเจ้าอยากจะให้เกิดอะไรขึ้นระหว่างข้าและเจ้า?”

เย่เฟยหลีได้เห็นท่าทางตื่นตกใจลุกลี้ลุกลนของนางไม่บ่อยนัก จู่ๆก็เกิดความคิดอยากแกล้งขึ้นมา เขาจัดการกับชุดของตัวเอง น้ำเสียงราบเรียบราวกับบอกว่าอากาศวันนี้เป็นอย่างไรๆ

เมื่อเห็นท่าทางฮึดฮัดของฉู่เนี่ยนซี เย่เฟยหลีเลยกล่าวขึ้นว่า“สบายใจได้ ข้าไม่ได้มีความสนใจอะไรเจ้าเลย”

สีหน้าท่าทางตึงเครียดของฉู่เนี่ยนซีคลี่คลายลง และสัมผัสความรู้สึกที่เชื่องช้าเพิ่งจะส่งไปถึงที่สมอง

ก็ถูก ถ้าหากว่าทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรจะทำขึ้นมาจริงๆ ตัวเองไม่มีทางที่จะไร้ความรู้สึกเช่นนี้เป็นแน่

“เช่นนั้นเช้าขนาดนี้ท่านมาทำอะไรที่นี่? แล้วยังย้ายห้องตำรามานี่หรือ?”

ฉู่เนี่ยนซีนวดคลึงดวงตา มองโต๊ะของตัวเองที่ถูกเขาครอบครอง สิ่งของของนางถูกดันไปไว้อีกด้าน โดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ที่มุม ก็เลยอดถามไม่ได้

ใครจะรู้ว่าเย่เฟยหลีไม่มีความเกรงใจในการเป็นแขกเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเอาจดหมายแผ่นสุดท้ายที่อ่านวางลงบนโต๊ะ หันมามองฉู่เนี่ยนซีนิ่งๆ

เดิมทีฉู่เนี่ยนซีก็ไม่ได้สนใจการที่คนอื่นพากันจ้องพูดถึงรอยแผลบนหน้าตัวเอง ช่วงปีที่ผ่านมานางเรียนรู้การดูถูกความเสียใจมามากจนสามารถเขียนตำราได้แล้ว แต่ในสายตาของเย่เฟยหลีคล้ายดั่งว่ามีบางสิ่งซ่อนเร้นอยู่มากมาย มันอธิบายไม่ถูก จนทำให้นางมีความรู้สึกกดดันขึ้นมาอย่างประหลาด

ปฏิกิริยาแรกของนางคือ ใช่หรือไม่ว่าเมื่อคืนแผลเป็นปลอมบนใบหน้าของนางหลุดตอนนอน หรือว่ามีส่วนไหนหลุด นางลูบไล้ใบหน้าทันที พบว่าทุกอย่างปกติดี ถึงได้ทอดถอนหายใจอย่างโล่งอก

แต่การกระทำนี้อยู่ในสายตาเย่เฟยหลี ทว่ากลับถูกเข้าใจไปอีกอย่างหนึ่ง

“ทักษะทางการแพทย์ของเจ้าดีขนาดนี้ ก็ไม่เคยลองรักษาให้ตัวเองหรือ?”

ครู่ใหญ่ๆน้ำเสียงเย็นชาของเขาดังมา ฉู่เนี่ยนซีส่ายหน้า ทำสายตาแกล้งโง่ กล่าวตอบว่า“พิษหลายสิบปี ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ข้าก็ไม่อยากไปมุ่งมั่นมากมายกับเรื่องที่ไม่มีประโยชน์”

ไม่มีประโยชน์หรือ? สำหรับนาง บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ไร้สาระหรือ?

นางดูออกว่าเย่เฟยหลีมีความสงสัย แต่หลังจากฉู่เนี่ยนซีนวดคลึงขมับที่ปวด นางขี้เกียจอธิบายมากมาย เลยสาวเท้าก้าวออกจากธรณีประตูเพื่อไปหาเสี่ยวเถาและหยูหนานให้ไปต้มซุปสร่างเมา

เย่เฟยหลีจับชุดแน่น ถึงแม้จะเป็นช่วงกลางฤดูร้อน แต่ลมตอนเช้าก็ค่อนข้างเย็น เห็นฉู่เนี่ยนซีนั่งอยู่ในเรือน กำลังดื่มซุบสร่างเมากับพวกเสี่ยวเถา เลยมีความรู้สึกประหลาดใจว่าการใช้ชีวิตแบบนี้ถือว่าเรียบง่ายดี

ฉู่เนี่ยนซีไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ที่เมื่อจับกุมสามีของตัวเองไว้ได้แล้วก็ไม่ปล่อย

กลับกันนางจะมีท่าทีท่านมาข้าก็ต้อนรับดูแล ท่านกลับข้าก็ไม่ส่งนะ

เย่เฟยหลีค้างคืนที่นี่หนึ่งคืนบวกกับอยู่ที่นี่ทั้งเช้า ไม่เหมาะสมที่จะอยู่นาน เพิ่งจะเหยียบก้าวเท้าออกจากธรณีประตูเรือนฉู่เนี่ยนซี ก็ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดยับยู่ยี่เข้ามา

“ท่านพี่สามของข้า ท่านนี่ให้ข้าหาตัวได้ง่ายเสียจริงๆเลย!”

เย่ฉงเซิ่งกล่าวออกมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าหึ่งว่า“ข้าถูกแม่เล้าหอร้องรำจับจ้องแล้ว แต่ลูกน้องของข้าถูกกุมไว้ที่นั่น ข้าไร้ซึ่งหนทาง จวนนี้ของท่านให้ข้ายืมหลบลี้ได้หรือไม่ท่านพี่!”

เย่เฟยหลีดันหน้าเขาให้ออกห่าง ตอนนี้ชินจนไม่ประหลาดใจแล้ว กล่าวขึ้นว่า“เรื่องเมื่อคืนที่เจ้าดื่มเมาพังทำลายข้าวของพวกเขาแพร่สะพัดแล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะส่งคนเอาเบี้ยไปให้ ส่วนเจ้าก็อยู่นี่ไปก่อน”

เย่ฉงเซิ่งตื้นตันใจจนน้ำหูน้ำตาจะไหล กล่าวว่า“มันไม่ใช่ความผิดของข้า! ท่านไม่รู้ท่าทีของท่านพี่รองของพวกเรา ทุกคนไปที่หอจุ้ยเยว่ไม่ใช่ว่าไปหาความสำราญหรือ? ข้าไปคารวะเหล้าเขา เขากลับไม่สนใจข้า ยิ่งน่ารังเกียจก็คือพวกสุนัขรับใช้เหล่านั้น เป็นพวกเขาที่หาเรื่องก่อน!”

เย่เฟยหลีนวดคลึงขมับ

ทุกครั้งที่เย่ฉงเซิ่งก่อเรื่อง มักจะพูดว่าฝ่ายตรงข้ามหาเรื่องก่อน แต่ความน่าเชื่อถือก็ครึ่งๆเถอะ

แต่ครั้งนี้เจอเขากับเย่เหลียน คำพูดนี้ของเย่ฉงเซิ่งกลับมีความน่าเชื่อถือขึ้นมาเลย

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ที่เขากับฉู่เนี่ยนซีเจอนักฆ่าลอบสังหาร เหลียงหยวนได้ทำการตรวจสอบแล้ว นักฆ่ากลุ่มนั้นเป็นกลุ่มนักฆ่าพเนจรที่ได้รับการว่าจ้างจากอ๋องเหลียนโดยอาศัยอำนาจของคนอื่น คืนนั้นคนที่เจอฉู่เนี่ยนซีที่หอร้องรำก็เป็นคนของเย่เหลียน และพวกเขาอาศัยคว้าโอกาสให้เย่ฉงเซิ่งเป็นคนมาบอกส่งข่าวเขา ล่อเขาออกจากจวน

นัยน์ตาเย่เฟยหลีเย็นชา เขาหันไปกำชับว่า“ช่วงนี้เจ้าอยู่นิ่งๆก่อน ช่วงนี้ท่านพี่รองกับฮองเฮาทำอะไรค่อนข้างหุนหันพลันแล่น ดูท่าเกรงว่าบนราชสำนักจะมีการเปลี่ยนแปลง”

แม้เย่ฉงเซิ่งจะดื่มเหล้าไม่เก่งสู้เย่เฟยหลี แต่ไม่ใช่คนที่จะเมาได้ง่ายๆเลย เมื่อเห็นเย่เฟยหลีพูดอย่างจริงจัง เขาก็ไม่แกล้งทำเป็นเมาแล้ว กล่าวว่า“ท่านพี่สาม ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

เรื่องการลอบสังหาร ไม่ดีนักที่จะเอ่ยปากบอกกับเย่ฉงเซิ่ง เย่เฟยหลีเลยเฉมองทางอื่น ไม่ได้ตอบออกมา

ใกล้จะถึงช่วงเที่ยงแล้ว เย่ฉงเซิ่งเอาซุปสร่างเมาที่เหลือของฉู่เนี่ยนซีออกมาจากครัว หลังจากดื่มลงไปแล้ว เขารู้สึกว่าตัวเองสดชื่นขึ้นไม่น้อย

เพิ่งจะวางถ้วยลง ก็ได้ยินเสียงคล้ายเสียงสะอึกสะอื้นดังมาจากเรือนด้านข้าง

เย่ฉงเซิ่งตั้งใจฟังอยู่นาน เลยออกไปดูว่ามีความครึกครื้นให้ดูหรือไม่

เมื่อเดินตามเสียงสะอึกสะอื้นไป เดินจนมาถึงสระน้ำ กลับได้เห็นซ่างกวนเย็นพิงอยู่ตรงข้างราวจับ ถือผ้าเช็ดหน้าเช็ดซับน้ำตา และเหมือนสาวใช้ข้างกายกำลังเกลี้ยกล่อมอะไรบางอย่างอยู่

เย่ฉงเซิ่งรู้จักซ่างกวนเย็น เขาเป็นสหายเล่นกับเย่เฟยหลีมาตั้งแต่เด็ก แน่นอนว่ารู้เรื่องในอดีตที่ซ่างกวนเย็นขวางกระบี่แทนท่านพี่สามเขา บวกกับเขาชอบสาวงาม สำหรับรูปโฉมซ่างกวนเย็นแล้วนั้น เลยทำให้เขาจำได้ดีเป็นพิเศษ

ใบหูเฟยจู้กระตุก สัมผัสได้ว่ามีคนมา เลยส่งสายตาให้ซ่างกวนเย็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี