และเวลาเดียวกัน ที่เรือนของพระชายาหลี
เมื่อคืนน่าจะดื่มหนัก ฉู่เนี่ยนซีพลิกตัวไปพลิกตัวมาหลายหน ไม่รวบผมตัวเองก็ลงมาจากเตียงแล้ว นางรู้สึกว่าเบลอและหนักหัวมาก ราวกับว่าก้อนเหล็กขนาดใหญ่สองก้อนถูกผูกไว้ที่หน้าผากและด้านหลังศีรษะจนไม่อยากขยับ
เย่เฟยหลีไม่ใช่คนเมาง่าย มาตรแม้นว่าอยู่ในเมืองนี้ก็เป็นไม่เป็นสองรองใครเลย เขาตื่นมาตั้งนานแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นเร็วมากเหมือนที่ผ่านมา เขาสั่งให้คนรับใช้เอางานราชมาส่งถึงที่นี่ จากนั้นนั่งอ่านอยู่ข้างฉู่เนี่ยนซี
ฉู่เนี่ยนซีสติเลอะเลือนขมุกขมัว นอนตื่นสายตะวันโด่งฟ้าถึงได้ลืมตาขึ้นมาด้วยความไม่เต็มใจ
สายตากำลังรวบรวมจับจ้อง จู่ๆก็เห็นเย่เฟยหลีสวมใส่ชุดด้านใน ด้านนอกคลุมด้วยชุดเมื่อคืน นั่งอยู่ห่างจากนางไม่เกินสองเมตร กำลังรวบรวมสติมองสอบสวนคดีอยู่ในมืออยู่
เมื่อก้มลงมองตัวเอง เห็นผ้าห่มม้วนจนเป็นก้อน เนื่องจากเมื่อคืนนี้ดื่มหนักจนไม่ได้ทำการเปลี่ยนชุด นางนอนลงทันทีเลย ช่วงเอวยังมีรอยถูคราบน้ำมันของน่องไก่ที่กินเสร็จแล้ว
เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกว่าตัวเองเป็นหยาบ ส่วนเย่เฟยหลีถึงเป็นองค์ชายใช้ชีวิตที่มีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวยอย่างแท้จริง
นางลุกขึ้นนั่งทันที และตกใจจนต้องถอยหลังกรูอยู่บนเตียง น้ำเสียงก็เปล่งเสียงดังขึ้นว่า“ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
เย่เฟยหลีหัวเราะอย่างเย็นชา วางพู่กันสีแดงดำที่ใช้ลง กล่าวว่า“ดูแล้วความเก่งในการดื่มเหล้าของเจ้า ก็อย่างนั้นแหละ”
“ข้า….ท่าน….”
“เหอะ ข้าเจ้าเป็นอะไรหรือ? หรือว่าเจ้าอยากจะให้เกิดอะไรขึ้นระหว่างข้าและเจ้า?”
เย่เฟยหลีได้เห็นท่าทางตื่นตกใจลุกลี้ลุกลนของนางไม่บ่อยนัก จู่ๆก็เกิดความคิดอยากแกล้งขึ้นมา เขาจัดการกับชุดของตัวเอง น้ำเสียงราบเรียบราวกับบอกว่าอากาศวันนี้เป็นอย่างไรๆ
เมื่อเห็นท่าทางฮึดฮัดของฉู่เนี่ยนซี เย่เฟยหลีเลยกล่าวขึ้นว่า“สบายใจได้ ข้าไม่ได้มีความสนใจอะไรเจ้าเลย”
สีหน้าท่าทางตึงเครียดของฉู่เนี่ยนซีคลี่คลายลง และสัมผัสความรู้สึกที่เชื่องช้าเพิ่งจะส่งไปถึงที่สมอง
ก็ถูก ถ้าหากว่าทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรจะทำขึ้นมาจริงๆ ตัวเองไม่มีทางที่จะไร้ความรู้สึกเช่นนี้เป็นแน่
“เช่นนั้นเช้าขนาดนี้ท่านมาทำอะไรที่นี่? แล้วยังย้ายห้องตำรามานี่หรือ?”
ฉู่เนี่ยนซีนวดคลึงดวงตา มองโต๊ะของตัวเองที่ถูกเขาครอบครอง สิ่งของของนางถูกดันไปไว้อีกด้าน โดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ที่มุม ก็เลยอดถามไม่ได้
ใครจะรู้ว่าเย่เฟยหลีไม่มีความเกรงใจในการเป็นแขกเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเอาจดหมายแผ่นสุดท้ายที่อ่านวางลงบนโต๊ะ หันมามองฉู่เนี่ยนซีนิ่งๆ
เดิมทีฉู่เนี่ยนซีก็ไม่ได้สนใจการที่คนอื่นพากันจ้องพูดถึงรอยแผลบนหน้าตัวเอง ช่วงปีที่ผ่านมานางเรียนรู้การดูถูกความเสียใจมามากจนสามารถเขียนตำราได้แล้ว แต่ในสายตาของเย่เฟยหลีคล้ายดั่งว่ามีบางสิ่งซ่อนเร้นอยู่มากมาย มันอธิบายไม่ถูก จนทำให้นางมีความรู้สึกกดดันขึ้นมาอย่างประหลาด
ปฏิกิริยาแรกของนางคือ ใช่หรือไม่ว่าเมื่อคืนแผลเป็นปลอมบนใบหน้าของนางหลุดตอนนอน หรือว่ามีส่วนไหนหลุด นางลูบไล้ใบหน้าทันที พบว่าทุกอย่างปกติดี ถึงได้ทอดถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่การกระทำนี้อยู่ในสายตาเย่เฟยหลี ทว่ากลับถูกเข้าใจไปอีกอย่างหนึ่ง
“ทักษะทางการแพทย์ของเจ้าดีขนาดนี้ ก็ไม่เคยลองรักษาให้ตัวเองหรือ?”
ครู่ใหญ่ๆน้ำเสียงเย็นชาของเขาดังมา ฉู่เนี่ยนซีส่ายหน้า ทำสายตาแกล้งโง่ กล่าวตอบว่า“พิษหลายสิบปี ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ข้าก็ไม่อยากไปมุ่งมั่นมากมายกับเรื่องที่ไม่มีประโยชน์”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี
Please Update for your lovely fan club...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้ทางทีมงามอัพเดททุกวันเลยค่ะ😭...
แอดช่วยอัพต่อให้ด้วยนะคะ...
ทีมงานสู้ๆๆๆๆ จะติดตามต่อไป...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ใจจดใจจ่อรออ่านอยู่ค่ะ...
รอๆๆๆค่ะ เมื่อไรจะอัพให้...
อยู่ๆก็อัพอ่ะแอด 😓...
114 รบกวนอัพเดตต่อให้ด้วยค่ะ รออ่านต่อนะคะ...
ลงตอนเดียวเองหรอค่ะ...