ฉู่เนี่ยนซีคิดจะเดินไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าเย่ฉงเซิ่งคนนี้จะพูดคุยโวไม่ละอายใจได้คืบจะเอาศอกแบบนี้
นางเอาเศษขนมฝูหรงที่เหลืออยู่ในมือทิ้งลงสระน้ำ ท่าทางเย็นชาขึ้นมา
นางเกลียดที่สุดคือคนอื่นแส่เรื่องนางโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งไม่รู้รายละเอียดลึกๆด้านในแล้ววิพากษ์วิจารณ์ เหมือนที่เย่ฉงเซิ่งทำอยู่แบบนี้
“คืนนั้นคนที่เห็นข้าคือท่านหรือ?”
“ใช่ ไม่อย่างนั้นข้าจะรายงานท่านพี่สามได้อย่างไร?”
“สับปลับ!”
เย่ฉงเซิ่งเบิกตาโพลงกว้าง ผู้หญิงคนนี้กล้าพูดว่าเขาสับปลับหรือ?
ฉู่เนี่ยนซีทำเสียงไม่พอใจ กล่าวว่า“คืนนั้นชัดเจนว่าเป็นคนของท่านอ๋องเหลียนเห็นข้า หลอกใช้ท่าน อาศัยการที่ท่านอยากเห็นท่านพี่สามของท่านอับอาย เลยทำทีแกล้งบอกข่าวท่าน!ไม่อย่างนั้นท่านคิดว่าทำไมระหว่างทางกลับจวนถึงได้เจอกับนักฆ่าลอบสังหารเข้าให้ล่ะ?ไม่ใช่เพราะท่านถูกคนหลอกใช้หรือ!”
เย่ฉงเซิ่งคิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงว่าบทสนทนานี้จะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ขึ้น แต่เรื่องที่เย่เฟยหลีเจอกับนักฆ่าทำไมเขาถึงไม่รู้?
เหตุใดเมื่อครู่นี้ท่านพี่สามไม่พูด?
“ดูท่านสิเพิ่งจะข้ามผ่านอายุยี่สิบ ทว่ากลับเหมือนเด็กสามขวบ เกินเยียวยาจริงๆ!”
ฉู่เนี่ยนซีสะบัดแขนเสื้อ มองเขาด้วยสายตารังเกียจ กล่าวขึ้นว่า“มีเวลาว่างฟังซ่างกวนเย็นพูดจาไร้สาระอยู่ที่นี่ก็เลยเริ่มสนใจเรื่องไร้สาระ มันไม่สู้กับการดูแลปากตัวท่านเองให้ดีเลยนะ อย่าได้ทำให้เย่เฟยหลีแทบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะตัวท่านอยากดูเรื่องสนุกสนานไร้สาระอีกเลย!”
เย่ฉงเซิ่งจ้องเขม็งมองนาง กำหมัดแน่นตัวสั่นระริก แต่กลับไม่มีคำตอบโต้
“เรื่องของข้า ข้าดูจัดการเองได้!”
ผ่านไปสักพักหนึ่ง เขาพูดออกมาหนึ่งประโยค และออกไปจากบริเวณสระน้ำอย่างรวดเร็วไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
ฉู่เนี่ยนซีสงบสติอารมณ์ลง ตัวเองไม่ได้อารมณ์เดือดพล่านแบบนี้มานานมากแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคนตรงหน้านี้มีความสำคัญกับเย่เฟยหลีมาก เกรงว่าแม้แต่คำเดียวนางก็ไม่พูดหรอก
กำลังจะหมุนตัวเดินออกไป พอหันไปก็เห็นเย่เฟยหลีสวมชุดสีดำ กำลังยืนสงบนิ่งอยู่ในป่าไผ่ คนทั้งคนดูว่างๆสบายอกสบายใจ ไม่เหมือนท่านอ๋องหลีที่สูงสง่าองอาจ กลับกันดูเหมือนคุณชายคนหนึ่งมาเดินเตร่ไปมา
ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้หลบเขา นางยืนอยู่กับที่มองเขาเดินมาหาตนเอง กล่าวอย่างนุ่มนวลขึ้นว่า“ข้าไม่ได้บอกเขาเรื่องที่เจอนักฆ่าลอบสังหาร เพราะกลัวเขาโทษตัวเอง”
“ท่านคิดที่จะปกป้องเขาไปถึงเมื่อไหร่? ความคิดเหมือนเด็กเช่นนี้ ท่านคิดจะเป็นพ่อเขาหรือ?”
ท่านพ่อของอ๋องเจ็ดคือฝ่าบาท คำพูดรุนแรงเช่นนี้มีเพียงฉู่เนี่ยนซีกล้าพูด แต่เย่เฟยหลีเพียงแค่มองนาง เขาคุ้นชินเอือมกับคำพูดประมาณนี้ของนางแล้ว
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่านักฆ่าเหล่านั้นเป็นคนของท่านอ๋องเหลียน?”เย่เฟยหลีเปลี่ยนบทสนทนา นัยน์ตาสั่นไหว
ฉู่เนี่ยนซีรู้ว่าเขาสงสัยตัวเองว่าอาจจะเป็นไส้ศึก เพราะฉะนั้นเลยไม่ได้อธิบายมาก
“จวนอ๋องหลีของพวกท่านมีคนสอดแนม จวนเฉิงเซี่ยงของท่านพ่อข้าก็คือเลี้ยงเสียข้าวสุกหรือ?”
เย่เฟยหลีจ้องมองนางชั่วขณะหนึ่ง เบนสายตาช้าๆ แต่ภายในใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด ตอนที่เห็นนางตำหนิเย่ฉงเซิ่งเมื่อครู่นี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี
Please Update for your lovely fan club...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้ทางทีมงามอัพเดททุกวันเลยค่ะ😭...
แอดช่วยอัพต่อให้ด้วยนะคะ...
ทีมงานสู้ๆๆๆๆ จะติดตามต่อไป...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ใจจดใจจ่อรออ่านอยู่ค่ะ...
รอๆๆๆค่ะ เมื่อไรจะอัพให้...
อยู่ๆก็อัพอ่ะแอด 😓...
114 รบกวนอัพเดตต่อให้ด้วยค่ะ รออ่านต่อนะคะ...
ลงตอนเดียวเองหรอค่ะ...