พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 41

“เจ้าไม่สบายตรงไหนหรือ?”

จู่ๆน้ำเสียงของเย่เฟยหลีก็ดังขึ้นข้างหู ฉู่เนี่ยนซีตกใจ หันกลับไปทันที ทว่ากลับเห็นเขาและตัวเองใกล้กันมาก ปลายจมูกแทบจะชนกันกับเขาแล้ว

“อ้อ ไม่เป็นไร ก็แค่มันร้อนจนเกินไป”นางลูบสัมผัสบริเวณใบหูที่โดนลมหายใจอุ่นร้อนของเขา เกิดความรู้สึกประหม่าจนต้องหลบ”เมื่อครู่ข้าเห็นชื่อของท่านอ๋องเหลียนในใบรายชื่อ เรื่องนี้ท่านรู้หรือไม่?”

เย่เฟยหลีเงียบไปสักพักหนึ่ง เลยเรียกคนรับใช้มา เอาเหล้าของฉู่เนี่ยนซีเปลี่ยนเป็นน้ำชาฤทธิ์เย็น

“ต่อให้เขามา ข้าก็ไม่แปลกใจ”

ผู้คนอยู่ทั่วบริเวณโดยรอบ หลังจากรอเป็นเวลานานทางด้านนี้ถึงได้เงียบสงบลง เย่เฟยหลีเหลือบมองฉู่เจี้ยนอี้ กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“ขาของฉู่เจี้ยนอี้ เป็นเจ้ารักษาหายใช่หรือไม่”

ฉู่เนี่ยนซีชะงักงัน จากนั้นปล่อยวางทันที ในเมื่อพิษของเย่เฟยหลี นางยังสามารถรักษาหายในระยะเวลาสั้นๆ เขาเดาได้ว่านางรักษาขาของฉู่เจี้ยนอี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

“อืม”

“ดูเหมือนว่าในจวนเฉิงเซี่ยงก็มีคนเกลียดเจ้านะ”แม้ว่าเย่เฟยหลีจะพูดกับนาง แต่สายตากลับมองไปทางฉู่หว่านเอ๋อร์

ฉู่เนี่ยนซีรู้ว่าเขาหมายถึงใคร เลยกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า”ข้าไม่ใช่บ่อเงินบ่อทอง ทำไม่ได้หรอกนะที่จะให้ทุกคนมาชอบ”

เย่เฟยหลีมองใบหน้าเรียบเฉยของนางด้วยความทึ่ง และก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ไม่นาน จู่ๆฉู่หว่านเอ๋อร์ได้ลุกขึ้นจากที่นั่ง รอยยิ้มบนใบหน้ามีความจริงจังขึ้นมา

ฉู่เนี่ยนซีมองตามสายตาของนาง ก็เห็นเย่เหลียนสวมชุดสีขาวเข้ามา สีหน้าเกลี้ยงเกลา สายตามีความเย็นชา สาวเท้าตามคนรับใช้เข้ามาในธรณีประตู

ฉู่เนี่ยนซีเลิกคิ้วขึ้น อีกทั้งมองไปทางฉู่หว่านเอ๋อร์ ในแววตาที่นางพยายามปกปิดแต่ทว่ากลับมองเห็นสายตาหยาดเยิ้มนั้นได้ และสัมผัสได้ถึงกลิ่นถึงความผิดปกติ

ฉู่หว่านเอ๋อร์ชื่นชอบเย่เหลียน

ฉู่เนี่ยนซีเผลอยิ้มออกมา หยิบน้ำชาฤทธิ์เย็นขึ้นมาจิบ เย่เฟยหลีมองรอยยิ้มของนาง และมองไปตามสายตาของนาง เลยเข้าใจแจ่มแจ้งขึ้นมาทันที

“น้อมเคารพท่านอ๋องเหลียงเพคะ”

ฉู่หว่านเอ๋อร์เดินมาตรงหน้าเย่เหลียน ถอนสายบัวเบาๆ สีหน้าเขินอายแดงระเรื่อ เมื่อนางมองไปยิ่งสวยงามเป็นอย่างมาก

เย่เหลียนเพียงแค่พยักหน้า สายตาไม่ได้หยุดมองใบหน้านางเลยแม้แต่วินาทีเดียว จากนั้นก็สะบัดชุดเล็กน้อย ตามเด็กรับใช้ไปเข้าที่นั่ง

นัยน์ตาฉู่หว่านเอ๋อร์มีความผิดหวังแฉลบผ่าน แต่อยู่ต่อหน้าผู้คนมากมาย นางยังคงยิ้มออกมาไม่หยุด และสั่งให้เด็กรับใช้เอาอาหารขึ้นโต๊ะและเทเหล้าให้เย่เหลียน

จากนั้นลงไปเตรียมการแสดงที่จะแสดงต่อ แต่ทางกลับกันเมื่อฉู่หว่านเอ๋อร์ออกไป ซ่างกวนเย็นเหมือนคิดอะไรอยู่ เลยตามออกไปด้วย

แน่นอนฉู่เจี้ยนอี้เป็นตัวเอกของงาน เขาเลยต้องพูดคุยกับเย่เหลียน แต่เมื่อทักทายได้ไม่กี่คำ ก็เดินถือจอกเหล้าเดินมาทางนี้ ฉู่เนี่ยนซียิ้มเล็กน้อย กำลังจะพูดอะไรขึ้นมา แต่กลับถูกฉู่เจี้ยนอี้ชิงกล่าวก่อนว่า“ข้าได้ยินการสนทนากันที่งานเลี้ยง เรื่องเจ้ารักษาขาคู่นี้ข้า เกรงว่าจะต้องถูกกลบฝังดินแล้ว”

“ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือท่านแข็งแรง ไม่ใช่ใครช่วยท่านให้แข็งแรง”

“ข้าแค่รู้สึกว่าทำผิดต่อเจ้า”นัยน์ตาฉู่เจี้ยนอี้มีความรู้สึกเสียใจและโทษตัวเองแฉลบผ่าน “แต่ความกังวลของเจ้ากับท่านพ่อก็ไม่ใช่ไม่มี ตอนนี้เจ้าอภิเษกสมรสกับท่านอ๋อง เขาเป็นคนที่ไม่ได้รับความโปรดปราน ส่วนชื่อเสียงเจ้าก่อนหน้านี้….ถ้าตอนนี้เจ้าโดดเด่นมากเกินไป เกรงว่าจะมีคนอื่นคิดว่าจวนเฉิงเซี่ยงสบคบก่อตั้งกลุ่มกับองค์ชายได้”

ฉู่เนี่ยนซีพยักหน้า“อืม แต่พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องขอโทษ ส่วนชื่อเสียงเหล่านี้ข้าก็ไม่ได้สนใจ”

ระหว่างสองพี่น้องพูดคุยกัน ไม่ได้รู้เลยว่าอีกด้านเริ่มทำการแสดงแล้ว จ้าวโม่เหยียนตั้งใจทำให้งานเลี้ยงนี้ออกมาดี ไม่เสียดายที่จะลงแรงเลย

ทันใดนั้นบนเวทีได้มีความครึกครื้นขึ้นมา ตรงกลางมีท่านอาจารย์เป่าไฟยืนอยู่ท่านหนึ่ง ด้านข้างมีคนเล่นศิลปะการต่อสู้กริชและกระบี่อยู่ ฉู่เจี้ยนอี้เลยนั่งลงข้างฉู่เนี่ยนซีและดูการแสดงด้วยกันเลยทันที

บรรยากาศครึกครื้นทันที แม้แต่ฉู่เฉิงเซี่ยงที่นั่งอยู่ตรงกลางยังพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ตอนกำลังดำเนินการแสดงอย่างคึกคักเร่าร้อน หลังจากฉู่หว่านเอ๋อร์หายไปสักพักหนึ่ง ทันใดนั้นหลังจากนางสวมชุดสีแดงออกมาปรากฏตัวอยู่ตรงกลุ่มไฟ ท่านอาจารย์พ่นไฟให้ความร่วมมือนาง ทำเปลวไฟขนาดใหญ่ออกมา  สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าสายตาผู้คนตอนนี้คือภาพสาวงามกับเปลวไฟ

เปลวไฟปลุกเร้าใจ!

สายตาทุกคนจับจ้องมองไปที่ฉู่หว่านเอ๋อร์ ไม่รู้เลยว่ากลองถูกย้ายขึ้นมาบนเวทีตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉู่หว่านเอ๋อร์ยิ้มแย้มเย้ายวน สะบัดแขนเสื้อออกไปไกลๆ เปลือยเท้ายืนระบำอยู่บนกลอง ทำให้คนละสายตาไม่ได้

การเต้นระบำปลุกเร้าใจดึงดูดเบี่ยงเบนความสนใจทุกคนไป ขณะที่ฉู่หว่านเอ๋อร์รวมชุดกระจัดกระจายกลับมา ตอนถึงฉากมายืนอยู่หน้าเวทีเพื่อขอบคุณ เด็กรับใช้ที่ประคองนาง ประคองไม่ดี ฉู่หว่านเอ๋อร์ตกใจเปล่งเสียงออกมา และหล่นลงมาจากเวทีสูง

แขกเหรื่อหายใจติดขัด ทยอยลุกขึ้นยืนดู เด็กรับใช้จำนวนหนึ่งลุกลี้ลุกลนเข้าไปประคอง จ้าวโม่เหยียนเองก็ตกใจ รีบยกกระโปรงขึ้นและวิ่งไปดู

ฉู่เนี่ยนซีกวาดสายตามองแขกเหรื่อในงานเลี้ยง เย่เฟยหลีจิบเหล้าเหมือนทองไม่รู้ร้อน ฉู่เฉิงเซี่ยงที่อยู่บนที่นั่งหลักขมวดคิ้วเป็นปม จะมีเพียงแต่เย่เฟยหลีที่ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“น้องสาวเจ้าคนนี้ มีฝีมือจริงๆ”

เมื่อครู่ฉู่หว่านเอ๋อร์สามารถยืนอย่างมั่นคงได้ แต่กลับพยายามทำให้ตนเองล้ม คาดว่าน่าจะมีแผนการอะไรร้ายๆแน่

ฉู่เนี่ยนซีกวาดสายตามองเขา ไม่เสียแรงที่คนคนนี้เรียนศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ห่างกันไกลขนาดนี้คิดไม่ถึงว่าจะดูการกระทำของฉู่หว่านเอ๋อร์ออก

“พระเจ้า ขาของแม่นางหว่านเอ๋อร์….รีบเชิญหมอมาเร็ว!”

“เลือดไหลแบบนี้ อย่าให้เป็นกระดูกหักเลย!”

“อย่าพากันมุง  รีบประคองแม่นางลุกขึ้น!”

…….

ฉู่เนี่ยนซีมองฉู่หว่านเอ๋อร์ที่มีน้ำตาซึมหางตาถูกประคองขึ้นด้วยสายตาเย็นชา คนที่อยู่ด้านข้างตะโกนราวกับเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นว่า“ไปเชิญหมอมาหรือยัง? จะต้องมีคนทำแผลนะ!”

สถานการณ์กำลังวุ่นวาย ทันใดนั้นประตูใหญ่ถูกเปิดออก ทุกคนหันไปมอง เป็นคนผมขาวหนาวเคราขาว คนแก่ท่าทางราวเทพเซียนคนหนึ่ง

ฉู่เนี่ยนซีเบิกตาโพลงกว้างเล็กน้อย หมอเทวดาเฮ่อหลัน!

เขามาได้ยังไง?

ฉู่หว่านเอ๋อร์เห็นหมอเทวดาเฮ่อหลันมา กัดฟันกรอดเงียบๆ และเริ่มกระสับกระส่าย แต่ไม่นานก็สามารถปกปิดไว้ได้

“หมอเทวดาเฮ่อหลัน รบกวนท่านแล้ว เดิมทีข้าเชิญท่านมาร่วมงานเลี้ยง แต่คิดไม่ถึง…..”น้ำเสียงนี้ไม่ดัง น่าสงสารมาก แต่กลับทำให้คนโดยรอบได้ยินอย่างชัดเจน

ทุกคนชะงักงัน ฉู่หว่านเอ๋อร์รู้จักกันกับหมอเทวดา

“พี่สะใภ้ใหญ่ หมอเทวดาเฮ่อหลันมีในรายชื่อแขกหรือไม่?”

ฉู่เนี่ยนซีมองหมอเทวดาเฮ่อหลัน ชัดเจนว่ามีความแปลกใจ เลยหันไปถามจ้าวโม่เหยียนด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ

ก่อนหน้านี้นางเคยไปหาหมอเทวดาเฮ่อหลัน คิดจะก่อตั้งสำนักการแพทย์ เขามาเป็นคนมีชื่อเสียง แบบนี้ก็จะได้คนไข้อย่างรวดเร็ว โลกใบเล็กอันล้ำค่าของนางนี้ก็จะเลื่อนขั้นได้

ตอนนั้นไม่ได้ยินว่าเขาจะมา

จ้าวโม่เหยียนเองก็ตกใจกับการมาของหมอเทวดาเฮ่อหลัน ส่ายหน้ากล่าวว่า“ไม่นะ หมอเทวดาท่านนี้โผล่มาแบบเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง ตอนนั้นพวกเราอยากจะเชิญเขามาจริง แต่หว่านเอ๋อร์บอกว่า หมอเทวดาไปรักษาคนไข้ด้านนอก หาเวลาไม่ได้ แต่ทำไมวันนี้ถึง….”

ฉู่เนี่ยนซียิ้ม ไม่พูดอะไร นางวางจอกเหล้าลง และลุกขึ้นไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่หว่านเอ๋อร์

ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้กระดูกหัก แต่ผิวหนังภายนอกได้รับบาดเจ็บ ดูเหมือนว่าเพื่อจะยืนยันความใกล้ชิดระหว่างหมอเทวดาคนนั้น และขาของฉู่เจี้ยนเออร์ว่าเป็นเขารักษา เลยเชิญเขามา ถือว่าทำได้เหี้ยมดี

ผู้หญิงนะ ทำกับตัวเองได้ทารุณมาก

ฉู่เนี่ยนซีแสยะยิ้ม ชิ บาดแผลที่ฉู่หว่านเอ๋อร์ทำร้ายตัวเองก็แค่ทำร้ายโดยเปล่าประโยชน์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี