พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 44

ถ้าเป็นนางเมื่อก่อน อาจจะถูกเขายุยง และคิดว่าท่าทีของเย่เฟยหลีที่มีต่อตัวเอง ก็เป็นแค่เพียงเรื่องผลประโยชน์

แต่มีแค่นางที่รู้จากกระดูกก้นบึ้งหัวใจ ว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีทางอาศัยผลประโยชน์จากผู้หญิงหรอก

ไม่ต้องพูดถึงว่านางรู้วิชาทางการแพทย์ สนิทสนมกับหมอเทวดาหยิ่งยะโสโอหังด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่ ต่อให้เขาเป็นคนมีอำนาจ เขาไม่ชอบก็ไม่มีทางมาพูดคุยกับนางแม้แต่ประโยคเดียวหรอก

พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างกลมเกลียว เพียงเพราะเรื่องหนังสือการหย่าร้าง ถึงทำให้เขาปล่อยวางลงได้ และคิดว่านางอยู่ที่จวนอ๋องไม่มีจุดมุ่งหมายเท่านั้นเอง

ถ้าไม่ใช่แบบนี้ ตอนนี้คาดว่าเย่เฟยหลีคงกลัวนางจะพัวพันเขา และทำตัวห่างไกลนางออกไปแล้วล่ะ

เพราะฉะนั้นการที่เย่เหลียนมาพูดเรื่องเหล่านี้ ถือเป็นเพียงการทำเรื่องเกินจำเป็นเท่านั้นเอง

แต่….เย่เหลียนไม่มีทางโง่จนถึงขั้นนี้ แล้วแค่มายั่วยุหรอกกระมัง

ฉู่เนี่ยนซีคิดพิจารณา เหลือบมองสายตาสอดส่องรอบตัว เลยเข้าใจทันที

นอกจากเขาจะพูดให้นางฟังแล้ว เขาก็อยากพูดให้คนอื่นร่วมฟังด้วย

พอถึงเวลานั้นเรื่องถึงหูฝ่าบาท เกรงว่าเย่เฟยหลีที่ไม่ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ยิ่งจะทำให้ฝ่าบาทคิดว่าเขาหลอกใช้ฝ่าบาท อยากจะอภิเษกสมรสแต่ทำแกล้งปฏิเสธและได้เข้าใกล้ขุนนางที่มีอำนาจ ความจริงรู้นานแล้วว่าฉู่เนี่ยนซีไม่ธรรมดา อภิเษกสมรสด้วยแล้วจะได้ผลประโยชน์มากมาย

แม้แต่จวนเฉิงเซี่ยงก็จะถูกสงสัยว่าแย่งชิงอำนาจกับราชวงศ์ และอาจจะเข้าแถวช่วงชิง

“เสด็จพี่รองเลิกล้อเล่นได้แล้ว เนี่ยนซีไม่เคยปกปิด ส่วนชื่อเสียงเป็นเพียงของนอกกาย เนี่ยนซีเพียงขี้เกียจอธิบายเท่านั้น ถึงได้เป็นแบบนี้”

“ส่วนเฟยหลีอภิเษกสมรสกับหม่อมฉัน เมืองปู้เย่นี้ใครไม่รู้บ้าง เป็นหม่อมฉันที่จะอภิเษกสมรสกับเขาเท่านั้น แม้ท่านพ่อของหม่อมฉันจะทำโทษหม่อมฉันหลายหน แต่อย่างไรหม่อมฉันก็เป็นคนแน่วแน่ โชคดีที่สวรรค์ย่อมเมตตาคนที่มีความเพียร ในที่สุดเฟยหลีก็เห็นความจริงใจของหม่อมฉัน ขมขื่นหมดสิ้นหวานชื่นตามมา”

ฉู่เนี่ยนซีกล่าวพูดอย่างฉลาดหลักแหลม นางบอกชัดเจนว่าตนเองเป็นแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ส่วนเย่เฟยหลีชอบหรือไม่ชอบนางนั้น นางก็เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่แรก เป็นนางที่อ้อนวอนฝ่าบาทให้พระราชทานการอภิเษกสมรสให้ ไม่ใช่ความต้องการของเย่เฟยหลี

และก็บอกอย่างชัดเจนว่า ตอนแรกจวนเฉิงเซี่ยงก็ไม่เห็นด้วยกับการอภิเษกสมรสนี้ ด้วยเหตุนี้เลยเคยลงโทษนาง

แบบนี้ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องเข้าแถวรวมกลุ่มช่วงชิงอำนาจ พูดมาแล้ว มันเป็นเพียงความรักลึกซึ้งระหว่างหนุ่มสาวเท่านั้นเอง

ไม่ว่าใครที่ได้ยิน คำที่เย่เหลียนพูดล้วนเป็นสิ่งสมมติขึ้นมา

เย่เฟยหลีมองนาง ภายใต้แสงอาทิตย์ นางเชิดศีรษะขึ้น ยิ้มมุมปากอย่างบางเบา ดวงตาเปล่งประกาย ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้เขารู้สึกว่ารอยแผลเป็นม่วงดำบนใบหน้านาง ไม่ได้ไม่เข้าตาขนาดนั้นแล้ว

เย่เหลียนหรี่สายตา กลิ่นอายอันตรายปรากฎออกมา แต่ยังหัวเราะฮ่าๆ มองนางด้วยสีหน้าท่าทางร้ายกาจ

“คำพูดอื่นเจ้าไม่ต้องจริงจังก็ได้ แต่มีประโยคหนึ่งที่เจ้าเอาไปคิดได้ เมื่อพวกเจ้าสองคนแยกทางกันแล้ว พวกเราอาจจะสามารถเปลี่ยนการเรียกขึ้นมาจริงๆก็ได้”

เย่เฟยหลีได้ยิน จึงเอียงตัวบังสายตาของเขา กล่าวลอดไรฟันออกมาว่า“ผู้หญิงของข้า เจ้าอย่าแม้แต่จะคิดเลย”

ฉู่เนี่ยนซียื่นศีรษะออกมาจากด้านหลังเขา ยิ้มอย่างละมุน กล่าวขึ้นว่า“เสด็จพี่รอง ในหนึ่งวันที่หม่อมฉันยังเป็นพระชายาหลีอยู่ ท่านก็ยังต้องเรียกหม่อมฉันว่าน้องสะใภ้อยู่เพคะ”

“ฮ่าๆๆ ไม่รีบร้อน!”

เย่เหลียนหัวเราะออกมา สะบัดฝุ่นที่ไม่มีอยู่บนร่างกายออก แล้วหมุนตัวออกไป

เย่เฟยหลีมองแผ่นหลังเย่เหลียนที่เดินออกไป นัยน์ตามีความเย็นชาแฉลบผ่าน ตามด้วยหันไปมองฉู่เนี่ยนซี

“เจ้าอยู่คุยเป็นเพื่อนฉู่เฉิงเซี่ยงกับฮูหยินเถอะ กินอาหารเย็นเสร็จค่อยกลับไป ข้าจะออกไปรับลมก่อน”

กล่าวจบ เย่เฟยหลีก็เดินออกไป

อีกด้านหนึ่ง ฉู่หว่านเอ๋อร์ถูกหามเข้ามาในเรือน หมอเทวดาเฮ่อหลันเป็นคนจัดการทำแผลให้นาง

“ขอบคุณท่านหมอเทวดามาก ครั้งนี้รบกวนท่านอีกแล้ว”ฉู่หว่านเอ๋อร์น้ำตาไหลริน สีหน้าซีดเผือดไร้เลือดฝาด มองดูแล้วน่าสงสารเหลือเกิน

ถึงแม้ชีวิตของหมอเทวดาเฮ่อหลันจะไม่สู้คนเหล่านั้นที่อยู่ในแวดวงชั้นสูง มีความฉลาดหลักแหลม แต่เขาก็ดูบุญคุณความแค้นระหว่างนางกับฉู่เนี่ยนซีออก

ด้วยเหตุนี้ท่าทีที่มีต่อนางเลยเย็นชาไม่น้อย

“แม่นางหว่านเอ๋อร์เกรงใจแล้ว เมื่อก่อนท่านก็เคยมอบยาวิเศษให้ข้าหนึ่งเม็ด ครั้งก่อนเรื่องขาของคุณชายใหญ่ฉู่ ข้าไม่สามารถช่วยอะไรได้ วันนี้ถือว่าได้ตอบแทนแม่นางแล้ว ตั้งแต่วันนี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างกัน”

หมอเทวดาเฮ่อหลันพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ ความหมายแฝงคือ ต่อไปนางไม่ต้องติดต่อเขาอีกแล้ว

ฉู่หว่านเอ๋อร์ได้ยิน จึงชะงักงัน หมายจะลุกขึ้นแต่ความเจ็บปวดบริเวณขาทำให้นางสูดหายใจลึก สีหน้าดูไม่ได้

“หมอเทวดาพูดอะไรกัน ยาวิเศษนั่นเอาไว้ที่ข้าก็ไม่มีประโยชน์ ข้าเพียงแค่เอาให้คนที่จะสามารถใช้มันได้ แต่ทักษะทางการแพทย์ของหมอเทวดาล้วนเป็นที่เลื่อมใสของหว่านเอ๋อร์มาตลอด”

“ข้ารู้จากฐานะของข้านั้น มันไม่คู่ควรกับรู้จักหมอเทวดา แต่ถ้าหว่านเอ๋อร์ทำอะไรตรงไหนให้หมอเทวดาไม่พอใจ หมอเทวดาบอกข้ามาได้เลย”

น้ำเสียงฉู่หว่านเอ๋อร์แผ่วเบาอิดโรย ท่าทางเสียใจอย่างมาก

หมอเทวดาเฮ่อหลันมองนางอย่างราบเรียบ กล่าวอย่างนุ่มนวลว่า“แม่นางไม่ได้ทำเรื่องอะไรให้ข้าไม่พอใจหรอก แต่เห็นแก่ที่พวกเรารู้จักกัน ข้าก็เลยพูดกับท่านบ้าง”

“พระชายาหลีไม่ใช่คนที่ท่านจะไปยั่วยุได้ ไม่เพียงแค่นางเป็นลูกรักเฉิงเซี่ยง และไม่ใช่เพราะนางอภิเษกสมรสกับท่านอ๋องหลี แต่เป็นเพราะมีความสามารถมากมายกลับไม่หยิ่งผยอง ถูกคนเข้าใจผิดโจมตีไม่หงุดหงิด คนที่ไม่หยิ่งผยองไม่หงุดหงิดสุขุม ต่อไปจะต้องประสบความสําเร็จอย่างมาก”

กล่าวจบ หมอเทวดาเฮ่อหลันก็สะบัดชุดออกไปโดยไม่สนใจฉู่หว่านเอ๋อร์

ฉู่หว่านเอ๋อร์มองตามแผ่นหลังของเขา ทุบกำปั้นลงบนเตียง กล่าวว่า“มีสิทธิอะไร! มีสิทธิอะไรที่เป็นฉู่เนี่ยนซีอีกแล้ว!”

เมื่อก่อนไม่ว่าฉู่เนี่ยนซีจะทำเรื่องนอกรีตอะไรก็ตาม ล้วนเป็นพ่อแม่พี่ชายปกป้อง ถึงแม้ฉู่เจี้ยนอี้จะบาดเจ็บที่ขาเพราะนาง ทั้งครอบครัวไม่ได้มีใครคับแค้นใจนางเลย

ส่วนนางพยายามเอาอกเอาใจทุกอย่าง แต่กลับสู้ฉู่เนี่ยนซีคนไร้ประโยชน์ไม่ได้

“ก็สิทธิที่นางหลอกให้คนลุ่มหลงเก่งกว่าเจ้านะสิ ”น้ำเสียงไพเราะละมุนดังมาจากตรงประตู ฉู่หว่านเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นดูก็เห็นว่าเป็นซ่างกวนเย็นสาวเท้าเดินมาอย่างช้าๆ

“ฉู่เนี่ยนซีทำให้คนลุ่มหลง ส่วนข้ากับเจ้าทำไม่ได้”

ซ่างกวนเย็นเดินมาด้านหน้าเตียงของนาง จับมือนางขึ้นอย่างคนเข้าอกเข้าใจ กล่าวว่า“ดูเจ้าสิ ต่อให้เกลียด ก็ไม่ควรเอามือตัวเองมาระบายอารมณ์นะ”

ฉู่หว่านเอ๋อร์สะบัดมือออก นัยน์ตามีความระมัดระวังและตำหนิ

ซ่างกวนเย็นเห็นอย่างนี้ ชะงักงันทันที จากนั้นพยายามยิ้มออกมา ดวงตางดงามดั่งดอกซิ่งมองนาง”ข้ารู้ว่าน้องตำหนิข้าที่วางกลยุทธ์ผิดพลาด ทำให้เจ้าบาดเจ็บเปล่าประโยชน์ แต่นั่นก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ข้าไล่หมอใกล้ๆนั้นออกไปหมด วันอย่างนี้ ถ้าหมอเทวดาไม่ปรากฎตัว ฉู่เนี่ยนซีจะต้องถูกบีบรักษา พอถึงตอนนั้นแผลเจ้าไม่หาย นางก็ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จะโทษก็โทษที่หมอเทวดามาได้ถูกเวลาเถอะนะ”

พูดจนถึงตอนท้าย นางได้เพิ่มระดับน้ำเสียง และสบประสานสายตากับฉู่หว่านเอ๋อร์

ฉู่หว่านเอ๋อร์หันหน้าหนีด้วยความประหม่า

หมอเทวดาเป็นนางที่เชิญมา แต่เทียบเชิญส่งนานแล้ว นางก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาปรากฏตัวตอนนี้

“พอแล้วนะ โทษข้า นับเวลาที่เขาจะมาไม่แม่น เช่นนั้นตอนนี้เราควรจะทำอย่างไรหรือท่านพี่ซ่างกวน ไม่สามารถตักเตือนฉู่เนี่ยนซีได้ เช่นนั้นท่านอ๋องเหลียน….จะไม่มีความสุขหรือไม่”

“ไม่หรอก….”

“ไม่หรอก? ท่านไม่ใช่บอกว่า ท่านอ๋องเหลียนกับท่านอ๋องหลีเป็นศัตรูคู่อาฆาต เพียงแค่เห็นท่านอ๋องหลีกับฉู่เนี่ยนซีเกิดเรื่อง เขาจะมีความสุข และจะสนใจข้ามากขึ้นหรือ?”

ฉู่หว่านเอ๋อร์ดึงมือซ่างกวนเย็นด้วยความร้อนใจ ถามขึ้นอย่างเร่งรีบ

ซ่างกวนเย็นมีท่าทางลำบากใจ ทำให้ฉู่หว่านเอ๋อร์ยิ่งร้อนใจ”ท่านพี่ซ่างกวน ท่านพูดมาเร็วเข้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี