พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 45

“พอแล้วๆ ข้าว่า”ซ่างกวนเย็นพลิกมือมาตบนางเบาๆ ท่าทางจนปัญญา กล่าวอย่างนุ่มนวลว่า“เมื่อครู่…..”

นางเอาสิ่งที่เย่เหลียนกับฉู่เนี่ยนซีคุยกันบนงานเลี้ยงเมื่อครู่นี้มาพูดอีกรอบหนึ่ง โดยเฉพาะเรื่องเย่เหลียนพูดกับฉู่เนี่ยนซีว่าให้นางแยกทางแล้วจะเปลี่ยนการเรียกชื่อ และยิ่งแต่งเสริมเติมเรื่องมากขึ้น

ทันใดนั้นฉู่หว่านเอ๋อร์ก็เหมือนกับสิงโตบ้าคลั่ง กำหมัดแน่น กล่าวขึ้น“มีสิทธิอะไร! นางมีสิทธิอะไร! เป็นฉู่เนี่ยนซีอีกแล้ว เป็นนางอีกแล้ว”

“เจ้าอย่าตะโกน ด้านนอกมีคน เจ้าใจเย็นหน่อย”

“จะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไร ข้าชอบท่านอ๋องเหลียนมาตั้งแต่เด็ก นางแย่งสิ่งของจากข้าไปมากมายแล้ว ตอนนี้ยังอยากจะแย่งท่านอ๋องเหลียนไปหรือ”

“เจ้าสวยกว่าฉู่เนี่ยนซีไม่รู้ตั้งกี่เท่า เหตุใดถึงไม่มั่นใจในตัวเอง บางที….บางทีท่านอ๋องเหลียนอาจเพียงแค่ไม่ถูกกันกับท่านอ๋องหลี ถึงได้เพิ่มความลำบากใจให้เขา”

ซ่างกวนเย็นพูดเกลี้ยกล่อมไม่หยุด ฉู่หว่านเอ๋อร์น้ำตาไหลพรากมองนาง ราวกับหาเสาหลักเจอ ถามด้วยน้ำเสียงอิดโรยว่า“จริงหรือ?”

“แน่นอน ถ้านางไม่ใช่พระชายาหลี คาดว่าท่านอ๋องเหลียนไม่ชายตามองนางอะไรขนาดนั้นหรอก แล้วยังจะจัดการนางทันทีด้วย ถึงอย่างไรวันนั้นก็อยู่บนท้องพระโรง นางเคยลบหลู่ท่านอ๋องเหลียน”

ฉู่หว่านเอ๋อร์ฟังคำพูดของนาง กำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นสายตาปรากฏความระมัดระวังกล่าวว่า“เหตุใดท่านถึงช่วยข้า?ถึงตอนนั้นข้าได้อภิเษกสมรสกับท่านอ๋องเหลียน ท่านก็เป็นคนจวนท่านอ๋องหลี แบบนี้ไม่เป็นผลดีต่อท่านเลย”

“ศัตรูของศัตรูก็คือมิตรสหาย เรื่องของผู้ชายระหว่างท่านอ๋องหลีกับท่านอ๋องเหลียนเกี่ยวอะไรกับเรา พวกเราสองคนมีศัตรูคนเดียวกันก็พอแล้ว คนที่เจ้าต้องการคือท่านอ๋องเหลียน ข้าต้องการตำแหน่งพระชายาหลี ศัตรูของเจ้าคือฉู่เนี่ยนซี ศัตรูข้าก็คือนางเช่นกัน”

ซ่างกวนเย็นพูดออกมาตามตรง ฉู่หว่านเอ๋อร์ก็ได้เบากังวลใจลง ใบหน้าปรากฎรอยยิ้มออกมา

“เป็นข้าที่คิดมากไป เช่นนั้นตอนนี้ข้าต้องทำอะไรบ้าง?”

“รอ รอโอกาส เพียงแค่พวกเราร่วมมือกัน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็เอาถึงแก่ชีวิตละ”

ซ่างกวนเย็นพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายความมาดร้ายทำลายคนอื่นสบสายตากันกับฉู่หว่านเอ๋อร์

อีกด้านหลังจากหมอเทวดาเฮ่อหลันออกมาจากเรือนของฉู่หว่านเอ๋อร์แล้ว ก็ไปที่ห้องโถงเพื่อไปพบฉู่เนี่ยนซี พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องสำนักการแพทย์ที่นางพูดกับเขา

ภายใต้สายตาประหลาดใจของผู้คน ฉู่เนี่ยนซีได้ถูกเฮ่อหลันเชิญออกไปด้วยความเคารพ

ทั้งสองเดินมาถึงศาลาในสวนหย่อมด้านหลังจึงได้หยุดลง เฮ่อหลันกล่าวขึ้นก่อนว่า“แม่นางเนี่ยนซีข้าตอบรับคำร้องขอของท่าน แต่ข้าเหมือนกับท่านอาจารย์คือไม่ชอบการควบคุม เกรงว่าจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน”

“หมอเทวดาไม่ต้องกังวล ท่านแค่แขวนชื่อเท่านั้นเอง ไม่ต้องนั่งตรวจ ส่วนค่าตอบแทนของท่านจะได้ร้อยละสิบของรายได้ทั้งหมด”

สำนักการแพทย์ไม่เพียงแค่ตรวจรักษาโรคยังทำการค้ายาสมุนไพรด้วย เทียบกับร้านขายยาขนาดใหญ่ของสำนักการแพทย์ได้เลย ถ้าหากถึงสมัยหลัง ร้อยละสิบนี้จะถือว่าเป็นจำนวนมหาศาลไม่ถูกเลย

“เพียงแค่แขวนชื่อ? “หมอเทวดาแปลกใจ แต่นึกถึงทักษะทางการแพทย์ของฉู่เนี่ยนซีที่เหนือกว่าเขา การลงตรวจไม่จำเป็นต้องมีเขา ก็จะต้องรักษาโรคที่ซับซ้อนได้แน่นอน

พอนึกถึงตรงนี้ นัยน์ตาเขาเลยเปล่งประกายขึ้นมาทันที เขาลูบหนวดเครา กล่าวขึ้นอีกว่า“นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในสามเงื่อนไขที่ข้าพนันแพ้ครั้งนั้นใช่หรือไม่?”

“แน่นอนว่าไม่นับ เนี่ยนซีไม่บังคับใคร”

“ได้!”หมอเทวดาเหมือนได้รับคำตอบที่ต้องการ ตบขาใหญ่ขึ้นทันที“ในเมื่อไม่ใช่หนึ่งในเงื่อนไข เช่นนั้นข้ามีข้อเรียกร้องหนึ่ง”

เห็นฉู่เนี่ยนซีไม่พูด เฮ่อหลันเลยกล่าวอย่างต่อเนื่องว่า“ข้าไม่ชอบตั๋วเงินตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แน่นอนว่าไม่ได้ต้องการร้อยละสิบ สิ่งที่ต้องการคือตอนแม่นางรักษา เพียงอนุญาตให้ข้าอยู่ข้างกายก็พอ”

หมอเทวดาเฮ่อหลันกลัวว่านางจะไม่เห็นด้วย เลยกล่าวพูดอีกว่า“ถึงแม้เทคนิคทางการแพทย์ข้าจะสู้แม่นางไม่ได้ แต่ยังไงก็รักษามาหลายปี เป็นลูกน้องก็ย่อมได้”

หมอเทวดาท่าทางยืนหยัดแน่วแน่ ถ้าให้คนปกติทั่วไปเห็น จะต้องตกใจอ้าปากค้างแน่นอน คิดไม่ถึงว่าจะมีคนทำให้หมอเทวดาเฮ่อหลันที่มีชื่อเสียงยินยอมเป็นลูกน้องได้ แล้วแบบนี้คือยังเป็นการขอด้วยตนเองด้วย

ฉู่เนี่ยนซีก็จนปัญญา รีบหันมองบริเวณโดยรอบ แล้วรีบตอบรับ

“หมอเทวดาอยากจะดูก็ดู แต่ไม่ทราบว่าหมอเทวดารู้หรือไม่ว่าที่ไหนทำการค้ายาสมุนไพร ตอนนี้สำนักการแพทย์ต้องการยาสมุนไพรแต่ละชนิด”

“มีนั่นมันมีแหละ ที่นั่นน่าจะมียาทุกชนิดที่ท่านต้องการ แต่ที่นั่นอันตราย ไม่เพียงแค่มีพิษปกคลุม ยังมีอารักขาป้องกันอยู่ คนทั่วไปไม่สามารถเข้าได้”

“มีสถานที่แบบนี้ด้วยหรือ”ฉู่เนี่ยนซีแปลกใจ“เช่นนั้นวันปกติตอนทำการค้าทำอย่างไรหรือ?”

“แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องมีคนคุ้นเคยทำสัญญาค้าขายด้วยกัน”

“ชื่ออะไรหรือ”

“หุบเขายา!”

“เช่นนั้นวันพรุ่งนี้หมอเทวดามีเวลาหรือไม่”

หมอเทวดาเฮ่อหลันโบกมือพัลวัน “ไม่…ข้าไม่มีเวลา ข้าจะกลับแล้ว….”

พูดจบเขาก็หมุนตัวเดินออกไปทันที น้ำเสียงฉู่เนี่ยนซีดังลอยมาว่า“นี่คือเงื่อนไขที่สองของข้า”

หมอเทวดาเฮ่อหลันชะงักงันทันที เหมือนกับกินหวงเหลียน สีหน้าเต็มไปด้วยความห่อเหี่ยว

พูดดิบดีว่าไม่บังคับคนไม่ใช่หรือ?

……

งานเลี้ยงบริเวณห้องโถงเสร็จสิ้นแล้ว แขกเหรื่อพากันทยอยกลับ จนถึงเวลาพลบค่ำเย่เฟยหลีถึงกลับมารับฉู่เนี่ยนซีกับซ่างกวนเย็นกลับด้วยกัน

ไม่รู้ว่าทำไม ระหว่างเดินทางซ่างกวนเย็นเงียบผิดปกติ นางไม่ได้หาเรื่องวุ่นวาย ฉู่เนี่ยนซีเองก็ขี้เกียจสนใจ

เช้าตรู่วันต่อมา ฉู่เนี่ยนซีตื่นมา ก็เรียกหยูซีมา เตรียมเครื่องแต่งกายจำนวนหนึ่งให้เขาเอาออกไปจากจวนก่อน แล้วไปรอนางที่ หอหุยหุ้น

เพิ่งจะสั่งการเสร็จ เสี่ยวเถาก็ยกถาดเข้ามา ใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“พระชายา พระชายาไม่รู้ ตอนนี้ด้านนอกต่างเล่ากันว่าท่านกับหมอเทวดาเฮ่อหลันรู้จักกัน เช้าตรู่คนก็มาเยี่ยมคารวะท่าน ท่านอ๋องนั่งอยู่ห้องโถงได้ให้กลับไปแล้วบางส่วนเพคะ”

“อ้อ”ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้มีความประหลาดใจ เป็นธรรมดาเมื่อเจอคนที่สูงส่งก็คารวะ เจอคนต่ำกว่าก็เหยียบ เพียงแค่อยากรู้จักเฮ่อหลันผ่านนาง แต่คิดไม่ถึงว่าเย่เฟยหลีจะต้อนรับขับสู่คนด้วยตนเอง

อ้อ?

พระชายาจะต้องนิ่งสงบขนาดนี้เชียวหรือ?

ภายในใจเสี่ยวเถาอดตำหนิไม่ได้ แต่นึกถึงนางว่าหนึ่งเดือนมานี้เป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไร ด้วยเหตุนี้เลยพูดอีกครั้ง

“พระชายารู้หรือไม่เพคะ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง พระชายาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงแน่นอนเพคะ”

ดวงตาโค้งมนของเสี่ยวเถาเปล่งประกาย ราวกับอยากจะกระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของฉู่เนี่ยนซี

เมื่อเห็นนางเป็นเช่นนี้ ฉู่เนี่ยนซีเลยส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แกล้งทำแปลกใจถามว่า“อืม เช่นนั้นเรื่องอะไรหรือ?”

“ท่านอ๋องเหลียนถูกคนตีเพคะ ! เล่ากันว่าออกมาจากงานเลี้ยงจวนเฉิงเซี่ยง ระหว่างทางกลับจวนได้ถูกทำร้าย ได้ยินว่าน่าเวทนามากเพคะ เมื่อเช้าเลยไม่ได้ไปว่าข้อราชการ”

คำพูดนี้ทำฉู่เนี่ยนซีชะงักงันได้จริง ท่านอ๋องเหลียนเป็นคนที่ฝ่าบาทรักโปรดปรานที่สุด กล้าทำร้ายเขา? ความกล้าของคนผู้นั่นจะต้องมีมากพอตัว

แต่ท่านอ๋องเหลียนพูดจาโอ้อวด จะต้องมีคนไม่พอใจอยู่มากแน่

แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง นางจะต้องไปรีบไปเจอหมอเทวดาเฮ่อหลันถึงจะถูก

หลังจากนั้นสักพักหนึ่ง ทั้งสองคนจัดการเตรียมแล้ว ฉู่เนี่ยนซีได้พาเสี่ยวเถาออกนอกจวน

ส่วนว่าทำไมไม่แอบออกไป แน่นอนว่ากลัวคนมาหานางไม่เห็นนางอยู่จวน ถึงตอนนั้นจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เลยไม่สู้เท่ากับการที่นางออกไปและบอกพวกเขาอย่างเปิดเผย ว่านางไม่อยู่จวนจะดีกว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี