พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 48

คนผู้นั้นมีความงงงวย จนเดินมาตรงหน้าขวดแล้วหยิบขึ้นมา เปิดจุกออก กลิ่นหอมจางๆลอยล่องออกมา ถ้าแม้จะจาง แต่คนที่เรียนวิชาป้องกันตัว กลับดมกลิ่นได้

“เป็นยาพิษคุมวิญญาณจริงๆ!”คนคนนั้นตื่นตะลึงทำสีหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ตามด้วยชี้ผู้ชายที่นอนทุรนทุรายอยู่บนพื้น กล่าวว่า”เจ้าทำเรื่องโง่แบบนี้ได้ยังไง!”

“เชวียเล่อ แขนของเจ้ามีปัญหา หรือว่าจมูกของเจ้าก็มีปัญหาด้วยหรือ? ในมือของเจ้าชัดเจนว่าคือยาแห่งความตาย หนึ่งคนในนั้นยกกระบี่ ดวงตาเล็กแคบมองด้วยการตักเตือน จากนั้นชี้ไปทางฉู่เนี่ยนซีกับหยูซีด้วย”เหล่าพี่น้อง ทั้งสองคนนี้ทำผิดกฎ ยังเอายาให้คนของเรากิน สังหารพวกเขาจัดการกับคนชั่ว!”

“สังหารพวกเขา!”

“สังหารพวกเขา!”

……

ฉู่เนี่ยนซีมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา นอกเหนือจากคนที่เข้าร่วมการทดสอบเมื่อครู่นี้ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนนี้ ผู้อารักขาหน้าประตูและคนลาดตระเวนรอบนอกป่าพิษก็ทยอยกระโจนออกมา นับหลายชีวิตได้

“พวกท่านทำเช่นนี้ไม่ได้นะ”เชวียเล่อมายืนปกป้องด้านหน้าทั้งสอง สีหน้าเต็มไปด้วยความร้อนใจ กล่าวว่า“นั่นคือยาพิษคุมวิญญาณ ข้าดมไม่ผิด คนที่ทำผิดก่อนคือพวกเรา มิเกี่ยวกับคุณชายซี”

ฉู่เนี่ยนซีมองผู้ชายที่มาขวางอยู่ตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว มองไปแล้วอายุแค่สิบหกสิบเจ็ดปีเอง ผิวขาวละมุน แม้หน้าตาจะไม่ได้ถือว่าหล่อ แต่ในความงดงามกลับมีความน่ารัก อยู่ยุคปัจจุบันน่าจะต้องเป็นชายที่ขี้อ้อนมาก

คนเหล่านี้ทำเช่นนี้ เขายังพยายามพูดเหตุผล ภพชาติแบบนี้มีความไร้เดียงสาเช่นนี้ ก็นับว่าหาได้ยาก

คนกลุ่มหนึ่งที่รีบมาเมื่อครู่นี้ ได้ยินที่เชวียเล่อพูด เลยเกิดความลังเลใจ

คนที่ตะโกนได้ยินเช่นนี้ สีหน้าเลยปกปิดความไม่สบายใจไม่มิด ตะโกนขึ้นว่า“เชวียเล่อ เจ้าเกลือเป็นหนอน ไม่สำนึกละอายใจต่อการที่เจ้าหุบเขาเลี้ยงดูมาเลยหรือ?”

“ข้า…ข้าไม่ได้เกลือเป็นหนอน….”

“ไม่ได้เป็นหรือ? เหล่าพี่น้องที่อยู่สนามประลองต่างเห็นกันหมด”

“ใช่นะสิ วรยุทธ์ของเจ้าผ่านการชี้แนะจากเจ้าหุบเขา ฝีมือเก่งกาจกว่าพวกเรา กลับเป็นคนแรกที่ถูกเขาจัดการหงายอยู่ที่พื้น ถ้าไม่ได้จงใจแกล้งยอมแพ้ การประลองของพวกเขาจะชนะได้อย่างไร”

“ใช่ๆ ข้ายังกลัดกลุ้มเลย ค่ายกลกระบี่ของพวกเราไม่เคยถูกโจมตีอย่างง่ายดายเช่นนี้ ทำไมหนุ่มหน้าขาวพูดไม่กี่คำก็ผ่านด่านแล้ว ที่แท้มีคนทรยศ”

…….

เชวียเล่อมองเพื่อนพ้องที่อยู่ด้วยกันมา คิดไม่ถึงว่าจะมาตำหนิตัวเองเช่นนี้ ภายในใจมีความรู้สึกเสียใจฉายแววออกมา ดวงตาสุกสกาวคู่นั้น ทั้งร้อนใจทั้งโกรธ กล่าวว่า“ทำไมพวกเจ้าถึงพูดเช่นนี้ เขาโจมตีจุดด้อยข้าได้พอดี ไม่ใช่พวกเจ้าเองก็ถูกโจมตีด้วยหรือ?”

“ใช่…ใช่ๆ….ข้ารู้ ข้าก็ถูกโจมตีจุดอ่อน ถึงได้นอนลง เชวียเล่อไม่ได้จงใจแกล้งยอมแพ้แน่นอน”

หนึ่งคนในกลุ่มพูดขึ้นมาด้วยความอ่อนล้า มองคนอื่นอย่างระมัดระวัง

เชวียเล่อได้ยินเช่นนี้ เลยรีบพยักหน้า

“ข้าว่าพวกเจ้าเป็นพวกเดียวกัน อาศัยมีความสัมพันธ์อันดีกัน ปกปิดปกป้อง แต่จ้าวเหยียนข้าแนะนำเจ้าอย่าได้ยุ่งเรื่องไร้สาระมากมายเลย ไม่อย่างนั้นแม้แต่เจ้าก็จะถูกเก็บไปพร้อมกับคนทรยศ”

เมื่อเปลี่ยนมาเป็นจ้าวเหยียน ได้ยินคำขู่ของพวกเขา จึงตัวเลยสั่นระริก ก้มหน้าลง ไม่มองเชวียเล่ออีก

“จ้าวเหยียน…..เจ้า…..”

เชวียเล่อมองการกระทำของเขา ในความเหลือเชื่อไม่อยากจะเชื่อนั้นมีทั้งความสิ้นหวังและเสียใจ

“เหล่าพี่น้อง วันนี้จัดการสังหารเชวียเล่อคนทรยศนี้ และสองคนที่ทำร้ายพี่น้องพวกเราเสีย!”

มีคนตะโกนประโยคนี้ขึ้น ทุกคนถูกปลุกปั่น ต่างพากันดึงกระบี่ในมือขึ้น

ฉู่เนี่ยนซีนัยน์ตาเย็นชา เปล่งเสียงที่ทำให้คนยิ่งหนาวเหน็บว่า“ช่างพูดอย่างเด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผายเสียจริง พี่น้องที่ท่านเรียกนั้นกำลังนอนทุรนทุรายอยู่บนพื้น ยังมีเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูปก็จะจบชีวิตแล้ว แต่ข้ากลับไม่เห็นพวกท่านใครสักคนหนึ่งไปในหุบเขาเพื่อเอายามา”

คนที่ฉลาดอยู่บ้างได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ทยอยพากันลังเลใจขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี