เมื่อฮ่องเต้พูดถึงตรงนี้ ก็หยุดลงครู่หนึ่ง คิดๆ แล้วจึงกล่าวต่อไปว่า "การลงโทษเจ้า พรุ่งนี้ให้เข้าพระราชวัง ไปช่วยสอนหนังสือให้กับผู้อาวุโสเหล่านั้นที่สำนักหมอหลวง"
เพียงฉู่เนี่ยนซีได้ฟัง ก็ขมวดคิ้วทันที และทำท่าทีน้อยใจ "ฝ่าบาท ไม่เช่นนั้นท่านก็เก็บรางวัลของข้าคืนไปเถิด"
ล้อเล่นหรือเปล่า กลุ่มคนเหล่านั้นในสำนักหมอหลวงไม่ใช่คนรับใช้ที่อาศัยอยู่ในพระราชวังนะ อีกทั้งยังมีวิสัยทัศน์ล้ำเลิศ นี่มันเป็นการดูถูกบรรดาหมอหลวง
นางเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ถ้าหากจะต้องรับมือกับพวกเขาอีก เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปเสียดีกว่า
"รางวัลที่ข้าให้จะมาบอกให้เอาคืนก็เอาคืนได้อย่างไร!" ฮ่องเต้โกรธเคือง ถลึงตาแล้วกล่าว!
"ฝ่าบาท ท่านลงโทษนางตรงไหนกัน ชัดเจนว่าเป็นการให้รางวัลนาง ถึงเวลานั้นนางก็จะต้องนิสัยเสียเป็นแน่"
สายตาที่ไม่แสดงออกของฉู่เฉิงเซี่ยง ในที่สุดก็กล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
ฮ่องเต้ไม่สนใจ ชำเลืองสายตามองเขา แล้วส่งเสียงไม่พอใจเล็กน้อย "ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เคยคบค้าสมาคมกับนางมากนัก แต่ก็รู้ว่ายัยหนูผู้นี้เป็นคนเย็นชา และใจร้อน ให้นางพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนกลุ่มนั้นมากขึ้น ก็คือการลงโทษ อีกอย่าง ข้าเห็นว่าเจ้าตามใจนางมาสิบแปดปีแล้ว นิสัยของนางก็ไม่ได้เสีย! ข้าตัดสินใจแล้ว ก็ทำตามเช่นนี้แล้วกัน"
ฉู่เนี่ยนซีคิดว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เห็นเย่เฟยหลีมองมาแล้วส่ายหน้า นางจึงทำได้เพียงกลืนคำพูดลงไป
"ซีเอ๋อร์น้อมรับคำสั่งเพคะ!"
"เอาล่ะ ทุกคนออกไปได้แล้ว ฉู่เฉิงเซี่ยงอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนข้าสักหน่อย!
"กระหม่อม (หม่อมฉัน) กราบทูลลาพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ!"
คนสองสามคนถอยออกไปตามๆ กัน ฉู่เฉิงเซี่ยงมองภาพด้านหลังของฉู่เนี่ยนซีที่จากไป ทำท่าคิดอะไรบางอย่าง ภายในสายตาอดไม่ได้ที่จะกังวลใจเล็กน้อย
"ฉู่เฉิงเซี่ยงมีเรื่องอะไร ถึงได้ใจลอยเช่นนี้ เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยได้หรือไม่?"
ฉู่เฉิงเซี่ยงได้ยินคำพูดของฮ่องเต้ ก็ได้สติกลับมาทันที จึงโค้งคำนับฮ่องเต้ "กระหม่อมเพียงแค่เป็นกังวลบุตรสาวที่อารมณ์ไม่ดี ถึงเวลานั้นอาจจะก่อกวนสำนักหมอหลวงจนเกิดความวุ่นวาย ฝ่าบาทยึดคืนคำสั่งดีกว่าหรือไม่"
"นั่งลง" ฮ่องเต้พูดจบ ก็มองฉู่เฉิงเซี่ยงที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาอย่างจริงจัง คล้ายกับว่าครุ่นคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นจึงพูดว่า "ข้าพูดออกไปแล้ว แน่นอนว่าไม่สามารถเอาคืนได้ ฉู่เฉิงเซี่ยงไม่ต้องเป็นกังวลไป ยัยหนูผู้นี้สามารถบีบบังคับคนอื่นได้ดีกว่าเจ้าเสียอีก ไม่รู้ว่าทำไม วันนี้ที่ได้พบนาง กลับรู้สึกว่านางยิ่งเหมือนกับน้องสาวผู้นั้นของเจ้าอย่างยิ่ง......"
ภายในใจของฉู่เฉิงเซี่ยงรู้สึกสั่นสะเทือน ความสับสนอลหม่านปรากฏขึ้นมาในดวงตา "เกรงว่าฝ่าบาทจะมองพลาดไปแล้ว ฉู่กุ้ยเฟยเฉลียวฉลาดว่านอนสอนง่ายมาตั้งแต่เด็ก บุตรสาวของกระหม่อมจะสามารถเทียบเทียมได้อย่างไรกัน"
"ความสามารถของเขาที่นับวันยิ่งแข็งแกร่งขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เจ้าคาดการณ์เท่านั้น" หลังจากฮ่องเต้ชำเลืองมองเขาเล็กน้อย มือเล่นหมากรุกอย่างสบายๆ ในสายตาคล้ายกับแฝงไปด้วยการนึกถึงอะไรบางอย่าง "เจ้ารู้ไหมว่าข้าพูดถึงใคร!"
ฉู่เฉิงเซี่ยงนั่งอยู่ตรงข้ามกับฮ่องเต้ เผชิญหน้าด้วยอารมณ์ที่ไม่แสดงออกแต่อย่างใด เพียงแต่มือที่กำแน่นในแขนเสื้อทรยศต่ออารมณ์ในเวลานี้ของเขา
……
วันต่อมา ฉู่เนี่ยนซีถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ บอกว่าในพระราชวังส่งคนมารับนางเข้าไป
ฉู่เนี่ยนซีเอนตัวนอนลงบนเตียง แล้วนำผ้าห่มคลุมหัว
หากว่าทำให้เสียเวลาอีก หรือไม่ก็มาหาข้ออ้างอะไรต่อ เกรงว่าฮ่องเต้จะส่งคนมารับถึงจวนโดยตรง
รำคาญจริงๆ! ยังนึกถึงยุคปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะเหนื่อย แต่นางก็ได้ใช้เวลากับสิ่งที่ชื่นชอบ!
"พระชายา เฉินกงกงรอนานแล้วเพคะ ท่านอย่าเพิ่งนอนเลยเพคะ" เสี่ยวเถามีสีหน้าร้อนใจ พูดขอร้องอ้อนวอน ท่าทีนั้นคล้ายกับว่าสามารถน้ำตาไหลออกมาได้ทุกเมื่อ
"เฉินกงกง?" ฉู่เนี่ยนซีเปิดผ้าห่มออกทันที "คนข้างกายฝ่าบาทเช่นนั้นหรือ?"
เสี่ยวเถาเห็นว่าฉู่เนี่ยนซีตอบ จึงรีบตอบรับว่า"เพคะ"
"ล้างหน้า!" ฉู่เนี่ยนซีลุกขึ้นทันที "เสี่ยวเถา เร็วเข้า!"
กระทั่งฝ่าบาทส่งคนข้างกายเข้ามา นี่ไม่ได้อยากจะให้นางอยู่ดีเลยจริงๆ
จู่ๆ ก็ราวกับว่าคิดอะไรได้ นางจึงมองไปยังเสี่ยวเถาอีกครั้ง "เออใช่ เมื่อคืนข้ากลับมาที่ห้องได้อย่างไรกัน"
นางจำได้ว่าพอออกจากพระราชวัง นางก็หลับไปขณะที่อยู่บนรถม้า
หรือว่า.......
"ท่านอ๋องอุ้มท่านกลับมาเพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี
Please Update for your lovely fan club...
ขอร้องทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้ทางทีมงามอัพเดททุกวันเลยค่ะ😭...
แอดช่วยอัพต่อให้ด้วยนะคะ...
ทีมงานสู้ๆๆๆๆ จะติดตามต่อไป...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ใจจดใจจ่อรออ่านอยู่ค่ะ...
รอๆๆๆค่ะ เมื่อไรจะอัพให้...
อยู่ๆก็อัพอ่ะแอด 😓...
114 รบกวนอัพเดตต่อให้ด้วยค่ะ รออ่านต่อนะคะ...
ลงตอนเดียวเองหรอค่ะ...