พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 56

ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้ามองไปตามเสียง เห็นเพียงที่บนต้นไม้ใหญ่ด้านข้างประตูใหญ่ของสำนักหมอหลวง มีผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงินเข้มประดับด้วยดอกไม้สีขาว กำลังมองมายังนางด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

เห็นนางมองเข้ามา ผู้หญิงคนนั้นจึงลอยลงมาจากบนต้นไม้ ตามการกระทำของนาง กิ่งก้านและใบไม้บนต้นไม้ก็สั่นเบาๆ และปลิวลอยตามลมตกลงมา ยิ่งส่งเสริมความรู้สึกถึงนางฟ้าที่ลงมายังโลกมนุษย์ได้มากยิ่งขึ้น

ระหว่างที่ฉู่เนี่ยนซีครุ่นคิดอยู่ หญิงสาวก็ลงมายังตรงหน้าของนาง เมื่อสบตากับในระยะที่ใกล้ ก็เห็นเพียงว่าผิวของหญิงสาวนั้นขาวผ่อง ดวงตาทั้งคู่แวววาวสดใสมีชีวิตชีวา จมูกงอนอ่อนช้อย ริมฝีปากแดงเหมือนผลเชอร์รี่ เมื่อตอนยิ้มก็ดูมีสง่าน่ารัก

"เจ้าก็คือพระชายาหลีใช่หรือไม่?" หญิงสาวเสียงหวานและมีชีวิตชีวา

ฉู่เนี่ยนซีได้สติกลับมา จึงยิ้มอย่างงดงาม "ใช่แล้ว"

"ยินดีที่ได้รู้จักเพคะ เพียงแต่......เจ้าไม่เหมือนกันในข่าวลือสักนิด" สีหน้าของหญิงสาวพิจารณา แต่ในแววตาไม่ได้มีเจตนาร้ายแม้แต่น้อย หลังจากนั้นจึงกล่าวต่อไปว่า "เพียงแต่......ข้าก็ไม่เคยเชื่อข่าวลืออยู่แล้ว เจ้าสง่างามมาก แล้วก็โดดเด่นอย่างมาก และดูเฉลียวฉลาดกว่าคนที่อยู่ในพระราชวังนี้เสียอีก!"

ฉู่เนี่ยนซีไม่คาดคิดว่าวันนี้จะถูกคนชื่นชมเช่นนี้ ถ้าหากเมื่อครู่นี้นางได้ฟังนางพูดมาโดยตลอด ไม่เชื่อข่าวลือก่อนหน้านี้ และชื่นชมว่านางฉลาด นางก็ไม่แปลกใจหรอก

แต่บัดนี้นางกลับชื่นชมว่านางสวย นี่จึงทำให้ฉู่เนี่ยนซีอดไม่ได้ที่จะลูบคลำใบหน้าของตนเอง เกรงว่ารอยแผลที่ปกปิดเอาไว้จะหลุดไปเสียแล้ว

แต่เมื่อคลำไปก็ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด

แต่การกระทำนี้ตกอยู่ในสายตาของหญิงสาว กลายเป็นการไปทิ่มแทงจุดเจ็บปวดของนาง เกรงว่านางจะเข้าใจผิดว่าตนเองไปเย้ยหยันนาง "ที่ข้าพูดทั้งหมดเป็นเรื่องจริงนะ ไท......ไทเฮาเคยบอกว่า คนที่งดงามไม่ใช่ดูเพียงแค่ภายนอก สำหรับข้าแล้ว เจ้าสวยเสียยิ่งกว่าใครๆ"

ฉู่เนี่ยนซีเห็นดวงตาที่ใสสะอาดและจริงใจของนางแล้ว ก็รู้ว่านางไม่ได้พูดแบบขอไปที ด้วยเหตุนี้นางจึงยิ้มอยู่ภายในใจ

"ขอบคุณ เจ้าเป็นคนแรกที่ชื่นชมข้าเช่นนี้"

หญิงสาวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ได้ยินเสียงตะโกนติดต่อกันเข้ามาจากที่ไกลๆ จึงดึงแขนของฉู่เนี่ยนซีเอาไว้ "สิ่งนี้มอบให้เจ้า คนใกล้ชิดเรียกข้าว่าหลิงเอ๋อร์ รับของขวัญจากข้าไปแล้ว พวกเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ในอนาคตพวกเราจะได้พบกันอีก"

นางพูดพลางหัวเราะคิกคัก แล้ววิ่งจากไปไกล

เสียงหัวเราะอันเพราะพริ้งของนาง แฝงไปด้วยความมีชีวิตชีวาเล็กน้อย ฉู่เนี่ยนซีมองภาพของหญิงสาวที่จากไปไกลแล้ว ถ้าหากไม่ใช่ปิ่นปักผมที่อยู่ในมือ นางก็คงจะคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องจริง

เพียงแต่ผู้หญิงคนนี้จะมาจะไปต่างก็รีบร้อน ฉู่เนี่ยนซีจึงรู้สึกว่าเป็นเพียงบุปผาชั่วคราวเท่านั้น งดงามแต่ไม่เอามาใส่ใจ

มันเป็นเพียงการฆ่าเวลาที่น่าเบื่อขององค์หญิงคนอื่นๆ ในพระราชวังเท่านั้น

เนื่องจากจุดประสงค์การเข้าพระราชวังสำเร็จแล้ว จากนั้นจึงออกจากพระราชวัง

เพียงแต่ไม่รู้ว่า เรื่องที่เกิดจากสำนักหมอหลวงในวันนี้ ในวันนั้นข่าวได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งพระราชวัง บอกว่าฉู่เนี่ยนซีใช้วาจาเอาชนะบรรดาผู้รู้ จนได้รับชัยชนะในที่สุด และสมุนไพรที่สุ่มเลือกเอามาตามอำเภอใจก็ทำให้บรรดาหมอหลวงของสำนักหมอหลวง ไม่ได้รับประทานข้าวกลางวัน อีกทั้งเมื่อคิดพิจารณาอย่างสุดความสามารถแล้ว ก็กลายเป็นหัวข้อสนทนายามว่างหลังอาหาร

เมื่อฮองเฮาได้รู้เรื่องนี้ ก็ทำลายข้าวของภายในห้องจนเสียหาย เดิมทีที่ไม่ชอบนางที่เป็นคนของตระกูลฉู่อยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความแค้นที่นางมีต่อฉู่เนี่ยนซีเข้าไปอีก

อีกด้านหนึ่ง ฉู่เนี่ยนซีมาถึงจวนอ๋องอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการแสดงออกของนางในช่วงเวลานี้ อีกทั้งยังรักษาคนรับใช้ภายในจวนเป็นครั้งคราว ด้วยบารมีของนางที่เพิ่มขึ้นในจวนอ๋องหลี ตลอดทางเมื่อคนพบเห็น ต่างก็คำนับด้วยความกระตือรือร้น

ถ้าหากพูดว่าเย่เฟยหลีอยู่ภายในใจของพวกเขา เช่นนั้นก็เปรียบเสมือนเทพเจ้า ถึงแม้จะเคารพและศรัทธา แต่ก็เย็นชาจนไม่อาจเข้าถึงได้

เช่นนั้นที่ฉู่เนี่ยนซีอยู่ภายในใจของพวกเขา ก็เปรียบเสมือนโพธิสัตว์ที่ลงมายังโลกมนุษย์ เคารพและศรัทธา แต่ใกล้ชิดสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก

และก็คือความเคารพยำเกรง และคำพูดชมเชยของเหล่าคนรับใช้นี้ จึงทำให้คนที่ไม่ได้อยู่ไกลจากด้านหลังของฉู่เนี่ยนซี กัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน

"พี่สาวสอนหนังสืในพระราชวังดีหรือไม่? แล้วกลับมาเมื่อไร"

ฉู่เนี่ยนซีกำลังกำชับสั่งให้สาวใช้สองสามคนช่วยนางเตรียมน้ำร้อนใส่อ่าง และส่งกลับไปที่เรือน ก็มีเสียงที่ไพเราะดังมาจากด้านหลัง

ฉู่เนี่ยนซีไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นใคร จึงกลอกตามองบนอย่างจนใจ แล้วหันกลับไปทันที

"แน่นอนว่าไม่เลว แล้วทำไมน้องสาวถึงมาเดินเล่นในสวนดอกไม้อย่างสบายอกสบายใจเช่นนี้ล่ะ"

ซ่างกวนเย็นเห็นนางมีสีหน้าไม่ใส่ใจ ภายในใจจึงดูถูกเหยียดหยามขึ้นมาทันที หมอหลวงในพระราชวังกลุ่มนั้นไหนเลยจะไม่ใช่ผู้ที่เก่งกาจในบรรดาผู้ที่เป็นหมอของที่นี่ แล้วพวกเขาจะสามารถฟังนางผู้ที่เป็นผู้หญิงไม่มีชื่อเสียงคนหนึ่งสั่งสอนได้อย่างไรกัน!

นางต้องการจะดูซิว่านางจะรักษาศักดิ์ศรีของนางไปได้นานแค่ไหน

"พี่สาวเอาอะไรมาพูดกัน น้องสาวไม่ได้เหมือนพี่สาวหรอกนะ ที่สามารถออกไปได้บ่อยๆ ก่อนออกเรือนแม่ของข้ามักจะสอนข้าว่า แต่งออกเรือนแล้วจะต้องสงบเสงี่ยมอยู่ภายในจวน ฉะนั้น หากข้าไม่มีธุระจึงทำเพียงแค่เดินเล่นอยู่ภายในสวนดอกไม้เท่านั้น"

แน่นอนว่า นางจะไม่บอกหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ว่า ท่านอ๋องและองค์ชายเจ็ดเพิ่งจะกลับมาจากค่ายทหาร ตอนนี้กำลังปรึกษาหารือกันอยู่ในศาลาสวนดอกไม้ นางจึงจงใจแต่งตัวแล้วเข้ามา

เพียงแต่ เกรงว่าหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ก็จะรู้ว่าท่านอ๋องอยู่ที่นี่เหมือนกัน ฉะนั้นจึงเดินเข้ามาทางนี้

ฉู่เนี่ยนซีได้ฟังคำพูดที่กลับตาลปัตรของนางแล้ว จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "ซ่างกวนเย็น ที่นี่มีเพียงข้าและเจ้าสองคน เจ้าเสแสร้งเช่นนี้ไม่ลำบากใจหรือ? พูดสิ่งที่บิดเบี้ยวเหล่านี้ก็คงเป็นเพียงแค่การพูดอย่างสนุกปาก"

"ข้างานยุ่งมาก ไม่มีเวลาว่างมาสนใจเจ้าหรอก! ทางที่ดีที่สุดเจ้าก็ไม่ควรที่จะมายุ่งกับข้านะ!"

ฉู่เนี่ยนซีพูดพลางไม่คิดที่จะสนใจนางอีก แต่เตรียมที่จะหันเดินจากไป

"ฉู่เนี่ยนซี เจ้าเป็นพระชายาหลีแล้วเป็นยังไง ท่านพี่หลีไม่ได้รักเจ้า คนที่เขารักคือข้า ภายในใจก็มีเพียงข้า ตำแหน่งพระชายาของเจ้าจะต้องเป็นของข้าในไม่ช้าก็เร็ว"

ซ่างกวนเย็นเห็นนางมีท่าทีไม่ใส่ใจและพูดจาอย่างเย่อหยิ่งอวดดี ทันใดก็รู้สึกเดือดดาล จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสแสร้งอีกต่อไป

หญิงอัปลักษณ์คนหนึ่งที่ไม่มีค่าอะไร ก็ไม่ใช่ว่านางเกิดมาเองหรือ? สักวันหนึ่ง นางก็จะต้องถูกนางเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า

ฉู่เนี่ยนซีหยุดชะงักฝีเท้าลง แล้วกวาดสายตาอันเย็นชามองไปยังนาง แล้วหัวเราะออกมาทันที

เมื่อซ่างกวนเย็นเห็นเช่นนี้ จึงขมวดคิ้ว แล้วแสดงสีหน้าไม่เข้าใจ "เจ้าหัวเราะอะไร!"

เมื่อฉู่เนี่ยนซีสงบจิตใจแล้ว จึงหยุดหัวเราะ "ก็หัวเราะที่เจ้าแสดงความในใจให้ตัวเองรู้อีกแล้วน่ะสิ"

"หมายความว่าอะไรกัน!"

"ก็หมายความว่า เจ้าได้พูดสิ่งที่ไม่มั่นใจภายในใจเจ้าออกมา เจ้าเน้นย้ำว่าเย่เฟยหลีรักเจ้าอยู่ตลอด เกรงว่าภายในใจของเจ้าก็คงจะไม่แน่ใจใช่ไหมล่ะ ส่วนเย่เฟยหลีจะรักหรือไม่รักข้า นั่นข้าไม่สนใจหรอก เพราะว่าเขาไม่มีทางทอดทิ้งข้า ฉะนั้นเจ้าจึงเป็นได้แค่เมียน้อยเท่านั้น!"

"เจ้า.....เจ้าพูดจาเหลวไหล! เป็นเพราะท่านพี่หลีชอบข้า จึงให้ข้าเข้ามาอยู่ในจวน แต่เจ้าเพียงแค่ถูกท่านพ่อของเจ้ายัดเข้ามาอยู่ในจวนอ๋องหลีเท่านั้น!"

ซ่างกวนเย็นโมโหเดือดดาล ตะโกนเสียงดัง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่มีความสวยเพียบพร้อมเหมือนที่ตนเองเป็นอยู่ปกติ

เพียงแต่ นี่ก็ไม่อาจโทษนางได้ นับตั้งแต่ที่นางเข้ามาในจวน ฉู่เนี่ยนซีก็คล้ายกับจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน บดขยี้นางทุกอย่าง กระทั่งท่าทีที่เย่เฟยหลีมีต่อนางก็ไม่เหมือนเดิม นี่จะทำให้นางไม่โกรธเคืองได้อย่างไร!

"ตกลงๆๆ คนที่ท่านพี่หลีของเจ้ารักที่สุดก็คือเจ้า" ฉู่เนี่ยนซีเม้มๆ ปากอย่างเจ้าเล่ห์ ขี้เกียจที่จะยุ่งเกี่ยวกับนาง จึงชำเลืองมองซ่างกวนเย็นที่โกรธเดือดดาล แล้วเตรียมที่จะจากไป

ซ่างกวนเย็นเห็นท่าทีแบบขอไปทีของนาง ใบหน้าก็ยิ่งเดือดดาล มองไปยังภาพด้านหลังของนาง เห็นสระดอกบัวที่อยู่ข้างๆ ในดวงตาของนางก็ปรากฏความโหดเหี้ยมขึ้นมาทันที!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี