พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 61

คำพูดนี้ทำให้หลันยีตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าจะรู้จักลูกหลงเสียนด้วย จะไม่ใจเต้นแรงได้อย่างไร แถมยังหลบเลี่ยงอีกด้วย อีกทั้งเมื่อเห็นสีหน้าของเขา ที่จริงจังเช่นนี้ เขาไม่คิดที่จะยอมรับจริงๆ หรือ?

"ของสิ่งนี้ข้าไม่ได้ใช้แล้ว วันนี้จึงเอามาด้วย แล้วจะเอากลับไปได้อย่างไรล่ะ คุณชายซีอย่าทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากแก่เราเลย"

ฉู่เนี่ยนซีมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกาย คิดไตร่ตรองเล็กน้อย และค่อยๆ กล่าวว่า "แม่นางนำสิ่งของมามากมายเช่นนี้ ของด้านหลังเหล่านั้นจะรับไว้ แต่ของชิ้นนี้แม่นางนำกลับไปเถอะ"

นางเคยเห็นหุบเขายาเจ้าหุบเขาด้วยหรือ สิ่งของล้ำค่าเช่นนี้ คิกจะมอบก็มอบให้ ช่างแปลกจริงๆ ของขวัญนี้นางไม่สามารถรับไว้ได้ แต่ความกรุณานั้นนางรับไว้หมด

เถ้าแก่จ้าวที่อยู่ข้างๆ นับตั้งแต่หลันยีและคนอื่นๆ เข้ามา ก็ตกตะลึงอยู่กับที่ไปแล้ว

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเถ้าแก่ของหอชุบชีวิตในเมืองปู้เย่นี้ แต่เขาก็เคยได้ยินคนของเบื้องบนพูดเช่นกัน ว่ายาของพวกเขาล้วนจัดหามาจากหุบเขายาทั้งสิ้น

ในตอนแรกเขามีท่าทีไม่อยากจะเชื่อ แต่หลังจากที่ได้เห็นตราประจำตัวที่เป็นของหุบเขายาโดยเฉพาะคาดเอวของคนกลุ่มนั้นอยู่ จึงเชื่อ และเหลือเพียงความตกตะลึงเท่านั้น

มองดูสิ่งที่สาวใช้เหล่านี้ถืออยู่ในมือ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักลูกหลงเสียน แต่เขารู้จักวัตถุดิบสมุนไพรที่ล้ำค่าเช่นโสมคนพันปีและบัวหิมะที่อยู่เบื้องหลังได้

นี่จึงทำให้เขามีสีหน้าโกรธเคือง และสั่นไปทั้งตัว นึกถึงเมื่อครู่นี้ที่เขาร้องป่าวประกาศอยู่ตรงหน้าซีซานเชิงเพื่อให้เขาปิดร้าน ชั่วขณะก็รู้สึกว่าเหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ

เขาตัวสั่นไปหมด มือทั้งคู่ถูไปมาอย่างกระสับกระส่ายข้างลำตัว พยายามฝืนรอยยิ้มออกมา และมองไปยังฉู่เนี่ยนซี : "คุณ......คุณชายซีเป็นคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อยๆ หากทราบว่าท่านกับหุบเขายาเจ้าหุบเขาเป็นอดีตต่อกัน ข้าน้อยจะไม่พูดอะไรที่ผิดพลาดไป และจะไม่พูดจาอย่างไม่รู้ที่สูงที่ต่ำเช่นนี้ คุณชายซีโปรดอย่าได้จดจำคนถ่อยอย่างข้าน้อยเลย และได้โปรดอภัยให้กับความบุ่มบ่ามของข้าน้อยด้วยเถิด"

"หื๊ม? เถ้าแก่จ้าวที่คือจะกล่าวโทษข้าว่าไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าใช่หรือไม่? จึงทำให้เจ้าเข้าใจผิดว่าข้าเป็นเพียงเด็กกะโปโลไม่มีอำนาจใดๆ ดังนั้นจึงทำให้เจ้าอยู่โยง เพื่อปลุกปั่นทุกคนให้สร้างความวุ่นวายใช่หรือไม่?"

ดวงตาทั้งคู่ของฉู่เนี่ยนซีหรี่ลงเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงอันตรายจนเกือบทำให้คนหายใจไม่ออก

เถ้าแก่จ้าวหายใจไม่ทั่วท้อง รีบโบกไม้โบกมือ โค้งตัวลง กระตือรือร้นกล่าวอย่างระมัดระวังว่า : "ไม่ใช่นะ คุณชายซีเข้าใจผิดแล้ว ก็แค่เดินผ่านไปเท่านั้น ไม่ได้จงใจจะไปที่นั่น เอ่อ......จู่ๆ ข้าน้อยก็นึกขึ้นได้ว่าที่บ้านยังมีธุระอยู่ ไม่รบกวนแล้ว!"

ท่าทางนี้ของเถ้าแก่จ้าว ฉับพลันก็ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกไม่เข้าใจ

"เถ้าแก่จ้าวนี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนทัศนคติไปเสียแล้วล่ะ คนกลุ่มนี้มีที่มาอย่างไร ไม่ใช่ว่าได้รับการข่มขู่หรอกหรือ"

"ดูเหมือนว่าจะมีอำนาจอย่างมาก เจ้าดูของเหล่านั้นที่ถืออยู่ในมือของพวกเขาสิ ล้วนเป็นของล้ำค่าทั้งสิ้น"

"ไม่ว่าที่มาของเขาจะเป็นอย่างไร นั่นก็ไม่ใช่หมอเทวดาเฮ่อหลัน ไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่สามารถใช้ชื่อเสียงของหมอเทวดา มาโอ้อวดเพื่อหลอกต้มตุ๋นได้"

ถ้าหากเป็นปกติ เถ้าแก่จ้าวได้ยินทุกคนพูดเช่นนี้ จะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ได้ยินคำพูดนี้ ในใจรู้สึกราวกับว่าอยากตาย

ทำกิจการนี้ จะไปล่วงเกินใครก็ได้ แต่ไม่กล้าไปผิดใจกับหุบเขายาหรอก เพราะวัตถุดิบยาสมุนไพรของแต่ละประเทศ ส่วนใหญ่แล้วซื้อมาจากหุบเขายา

ไม่เพียงแค่นี้ พิษของหุบเขายายังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เทียบเท่ากับซีจุ้นเลย และราคาแพงกว่าด้วย

ถ้าผิดใจกับหุบเขายา กิจการที่นี่ ก็เกรงว่าจะอยู่ไม่ได้เสียแล้ว

ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองทุกๆ คนจากหางตา และไม่คิดที่จะสนใจ มองไปทางหลันยี "ในเมื่อหลันยีแม่นางมาแล้ว ก็เข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ"

"ไม่ได้หรอก หลันยียังต้องกลับไปรายงานผลด้วย ขอให้คุณชายซีโชคดีมีมงคลกับการเปิดกิจการที่นี่อีกครั้ง" พูดจบหลันยีก็ส่งสายตาให้กับสาวใช้ที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นคนสองสามคนต่างทยอยนำสิ่งของมามอบให้พนักงานของสำนักการแพทย์

"เดี๋ยวสิ" ฉู่เนี่ยนซีชี้ไปที่ลูกหลงเสียน "อันนี้ แม่นางเอากลับไปเถอะ"

หลันยีมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย หากเอากลับไป ก็ยากที่จะอธิบายกับท่านนั้น แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของคุณชายซี เหมือนกับว่าตัดสินใจแล้ว

ด้วยเหตุนี้จึงคิดใคร่ครวญเล็กน้อย ในที่สุดก็จำใจต้องประนีประนอม "เช่นนั้นหลันยีจะทำตามที่ท่านต้องการ"

พูดจบ นางจึงหยิบกล่องผ้าขึ้นมา พยักหน้าให้ฉู่เนี่ยนซี จากนั้นก็พาสาวใช้ออกไป

หลันยีและคนอื่นๆ เพิ่งจะไป ในฝูงชนก็เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง

"ข้ามาช้าไปเสียแล้ว!"

เมื่อมองไป ก็เห็นชายชราคนหนึ่งพูดอย่างเหนื่อยหอบ ชายที่อยู่ด้านข้างสวมชุดสีดำ พร้อมสวมหน้ากากปกปิดใบหน้า มองดูแล้วแต่งตัวเหมือนกับคนที่อยู่ข้างกายซีซานเชิงเลย

สองคนนี้ก็คือ หมอเทวดาเฮ่อหลันกับหยูหนาน

หยูตงเห็นเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้กระทั่งหยูซีที่เย็นชาไม่แสดงออก ความระแวดระวังในแววตาก็ผ่อนคลายลงมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"ต้องขอโทษจริงๆ มีสหายเก่าของข้าเกิดเจ็บป่วย จึงล่าช้าเสียเวลาไป คุณชายซีอย่าตำหนิเลยนะ" หมอเทวดาเฮ่อหลันรีบเดินผ่านฝูงชน มาข้างๆ กายฉู่เนี่ยนซี คำนับเล็กน้อย วางท่าทางถ่อมตนอย่างมาก

นี่จึงทำให้ฝูงชนเหมือนหม้อทอดในชั่วพริบตา คึกคักเจี๊ยวจ๊าว

"พระเจ้า นี่คือหมอเทวดาเฮ่อหลันจริงๆ ข้าเคยเป็นคนรับใช้ในตระกูลใหญ่ จึงเคยเห็นรูปภาพของหมอเทวดาในห้องหนังสือของเจ้าของบ้าน ก็คือคนคนนี้"

"ใช่ๆๆ หมอเทวดาเฮ่อหลันคือคนที่พ่อของข้าเคารพเลื่อมใส และยังนำรูปภาพของเขามาบูชาในศาลบรรพบุรุษของตระกูลข้าด้วย"

"เจ้าหมายความว่าคนนี้คือหมอเทวดาเฮ่อหลันจริงๆ ใช่หรือไม่? แต่พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่าท่าทีของเขาที่มีต่อคุณชายซีผู้นั้น นั่นรู้สึกเหมือนกับผู้น้อยปฏิบัติต่อผู้อาวุโสเลยนะ"

"ใช่ๆๆ หรือว่า คุณชายซีท่านนี้ยังมีภูมิหลังอะไรอยู่? เมื่อครู่นี้เราพูดเช่นนั้น จะถูกเคียดแค้นหรือไม่?"

สำหรับการมาถึงของหมอเทวดาเฮ่อหลัน ทุกคนก็ตกตะลึง ในขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกังวลใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ด่าประจานและร้องตะโกนเหล่านั้น แทบอยากจะก้มหน้าลงพื้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังก้มโค้งลงและแอบหนีไปทางด้านหลัง กลัวจะถูกฉู่เนี่ยนซีโกรธแค้นเอาได้

แต่ในขณะนี้เถ้าแก่จ้าวที่อยู่ข้างๆ ไม่สามารถอธิบายอารมณ์ความรู้สึกของตนเองได้

หมอเทวดาเฮ่อหลันมาแล้ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะมาจริงๆ

หากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะประจบประแจงฉู่เนี่ยนซีอย่างแน่นอน เขาจะปฏิบัติให้ดีที่สุด

ในเวลานี้ฉู่เนี่ยนซีไม่ได้สนใจฝูงชน เพราะว่าในดวงตาของนาง คนเหล่านี้เป็นเพียงแขกที่เดินผ่านไปมา ไม่ได้ก่อเกิดผลกระทบใดๆ

นางยืนตัวตรง มองไปทางหมอเทวดาเฮ่อหลันด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย "หมอเทวดามาก็ดีแล้ว เราเข้าไปกันเถอะ"

"ดี!" หมอเทวดาเฮ่อหลันไม่เดินนำหน้า แต่ให้ฉู่เนี่ยนซีเดินไปก่อน การกระทำนี้ทำให้ทุกคนตกใจจนอ้าปากค้าง

แต่คนเหล่านั้นไม่ได้สนใจความรู้สึกของพวกเขา พูดคุยเฮฮาและเข้าไปในหอ

ตามเสียงเปิดกิจการ ประตูใหญ่ของสำนักการแพทย์ก็เปิดออก คนอื่นๆ ต่างพากันเข้ามา เบียดเสียดเข้ามาในสำนักการแพทย์แย่งชิงเพื่อจะเป็นคนแรก คนจะหาหมอก็หา คนที่จะซื้อของก็ซื้อ

กลุ่มคนของเถ้าแก่จ้าวยืนตกตึงอยู่กับที่ เห็นฝูงชนที่ทะลักเข้ามา ชั่วขณะก็รู้สึกอับอายอย่างมาก ความเมินเฉยของฉู่เนี่ยนซี ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตนเองเหมือนตัวตลกที่กระโดดโลดเต้นคนหนึ่ง เขากระวนกระวายใจ แต่คนกลับไม่เอาเขามาใส่ใจ กระทั่งไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองเสียด้วยซ้ำ

ในชั่วขณะ เถ้าแก่จ้าวก็ไม่รู้ว่า ควรจะดีใจหรือควรจะเสียใจดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี