พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 65

"ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ เรื่องเหล่านี้เสด็จพ่อคาดเดาเอาไว้แล้วไม่ใช่หรือ? แน่นอนว่าไม่ต้องให้กระหม่อมอธิบายหรอกพ่ะย่ะค่ะ"

"หึ ความกล้าหาญของพวกเจ้าทั้งสองมีไม่น้อยเลยจริงๆ กล้าทำให้องค์ชายเป็นใบ้ กระทั่งกล้าพูดว่าเจ้าเจ็ดกับรองพระชายาของเจ้ามีความสัมพันธ์กัน อีกทั้งยังกล้าปิดบังข้าด้วย ไม่กลัวว่าข้าจะโกรธ จนลงโทษพวกเจ้าหรอกหรือ?"

ฝ่าบาทจ้องมองด้วยความโกรธ แต่ในแววตาสงบเป็นปกติ

เย่เฟยหลีมองเขาอย่างเฉยเมย มุมปากยกยิ้มขึ้นมา "หากเสด็จพ่อต้องการจะลงโทษ เมื่อครู่นี้จะไม่ยอมปิดตาข้างหนึ่งหรอก"

สีหน้าท่าทางของฝ่าบาทดูไม่สะทกสะท้าน ลูบๆ หนวดเครา มองเย่เฟยหลีด้วยความลึกซึ้งอย่างคาดเดาไม่ถูก "เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงไม่ชอบเจ้า?"

เย่เฟยหลีหันกลับไปมองเขา กล่าวทีละถ้อยคำว่า "เพราะว่าในบรรดาองค์ชายทุกๆ คนของเสด็จพ่อ มีเพียงกระหม่อมเท่านั้นที่เหมือนท่านมากที่สุด!"

ฝ่าบาทตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังออกมา

เย่เฟยหลีไม่สะทกสะท้าน ยังคงสงบนิ่งดังเดิม กล่าวเรีบๆ ว่า "ก็เพราะว่าเสด็จพ่อไม่ชอบข้าจนเกินไป ฉะนั้นเดิมทีฮองเฮาจึงไม่เชื่อ มิฉะนั้นกระหม่อมก็ไม่สามารถเป็นหนามยอกอกของนางได้หรอก"

"เจ้ากล้าพูดเช่นนี้เลยหรือ"

"เสด็จพ่ออยากฟังความจริงไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?"

ฝ่าบาทมองเขาด้วยหางตา แทบอยากจะเข้าไปเฆี่ยนเข้าสักสองที แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะที่เขาพูดมาก็มีเหตุผล

"ตอนนี้ข้ายังมีชีวิตอยู่ ในราชสำนักก็เริ่มแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันแล้ว ไป๋ไท่เว่ยพี่ชายของฮองเฮาเป็นคนรับผิดชอบในราชสำนัก ส่วนไป๋ชิงหลานชายของนางก็ได้ความดีความชอบในการรบเมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งบุ๋นทั้งบู๊ นี่เป็นด้านหนึ่งในราชสำนัก ถึงแม้ว่าจะมีส่วนหนึ่งที่ชอบเจ้าก็ตาม เพียงแต่น้ำน้อยก็ย่อมแพ้ไฟ ไม่สามารถสู้อำนาจของพวกเขาได้ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ จึงทำได้เพียงกำจัดเจ้าก่อน ตอนนี้เจ้าได้ฉีกหน้าฮองเฮาไปแล้ว และไม่ต้องการราชบัลลังก์นี้ด้วย ในอนาคตเจ้าจะใช่ชีวิตอย่างไร"

ดวงตาทั้งคู่ของฝ่าบาท เต็มไปด้วยความกังวลใจ เย่เฟยหลีเป็นองค์ชายที่เขาพออกพอใจที่สุด อย่างไรเสียเสด็จแม่เป็นผู้หญิงที่ไม่มีอำนาจ แต่ฮองเฮานั้นทรงมีอำนาจมาก นางจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

เมื่อวัยเยาว์เย่เฟยหลีเฉลียวฉลาดไม่เหมือนคนปกติ เพื่อปกป้องเขา เขาจึงทำได้เพียงแสดงท่าทีว่าเกลียดชังเย่เฟยหลี เพื่อปกป้องเขา

แต่ไม่ว่าอย่างไร ฮองเฮาก็เข้าใจเขาดี

"ตอนนี้ ฮองเฮาถูกฉีกหน้าไป จะต้องไม่ให้อภัยกระหม่อมอย่างแน่นอน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การที่เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนจึงเป็นแผนที่ดี"

"เจ้าคิดจะทำอะไร"

"ราชบัลลังก์ ถึงแม้ว่ากระหม่อมจะไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ประเทศของตระกูลเย่นี้ ไม่สามารถเป็นของแซ่ไป๋เด็ดขาด"

สายตาของเย่เฟยหลีราวกับคบเพลิง ริมฝีปากบางๆ เปิดออกเล็กน้อย พูดออกมาทีละถ้อยทีละคำ

เย่เหลียนเป็นเพียงตัวหมากของฮองเฮาในการยึดอำนาจ หากเขาเป็นฝ่าบาท ฮองเฮาก็จะกลายเป็นไทเฮา ยึดกุมตำหนักใน และราชสำนักก็จะอยู่ในการควบคุมของไป๋ไท่เว่ย ส่วนกองกำลังทหารยังคงมีไป๋ชิงอยู่ แผ่นดินนี้ก็จะเป็นของตระกูลไป๋ของเขา

ฝ่าบาทเข้าใจเหตุผลโดยธรรมชาติ จึงไม่ได้พูดในหัวข้อนี้ต่อ แต่ดื่มน้ำชา และกล่าวว่า "ข้าเห็นว่าเจ้าปฏิบัติกับยัยหนูตระกูลฉู่คนนั้น ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่เจ้าปฏิญาณต่อต้านการแต่งงานเช่นนั้น ดูเหมือนว่าข้าจะใช้ราชบัลลังก์นี้กับการแต่งงานของนางเป็นทางเลือก เจ้าจึงยอมแต่งงานกับนางแค่ไม่ต้องการราชบัลลังก์นี้ ไม่รู้ว่ายัยหนูคนนั้นควรจะร้องไห้หรือหัวเราะดี เพียงแต่ว่ายังโชคดี ที่ยัยหนูคนนั้นทำให้คนเปลี่ยนไป เจ้าปฏิบัติต่อนางให้ดีๆ นางไม่ใช่คนธรรมดาๆ ในอนาคตจะต้องเหนือจินตนาการของทุกๆ คนอย่างแน่นอน"

เย่เฟยหลีไม่ตอบ ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ฝ่าบาทเห็นเช่นนั้น จึงค่อยๆ ลุกขึ้นมา "ข้าเหนื่อยแล้ว ขอตัวกลับวังก่อน อีกไม่กี่วันเสด็จย่าของเจ้าก็จะกลับมาแล้ว ถึงเวลานั้นนางก็คงจะยุ่งอีกแล้ว"

ฝ่าบาทพูดจบ จึงเดินออกไป เพียงแค่ในแววตาเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม

หึ ราชบัลลังก์ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าคิดว่าไม่ต้องการก็คือไม่ต้องการ ฉู่เฉิงเซี่ยงเพื่อลูกสาวสุดที่รักอย่างนาง ก็จะต้องสนับสนุนเย่เฟยหลีอย่างเต็มที่

เย่เฟยหลีถูกความโกรธทำให้เลอะเลือนทันที แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงได้เข้าไปในหลุมที่ฝ่าบาทขุดเอาไว้ให้เขาเสียแล้ว

จนกระทั่งต่อมา ฉู่เนี่ยนซีเห็นสีหน้าเศร้าโศกของเย่เฟยหลี จึงอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ ตระกูลอื่นล้วนเป็นบุตรชายที่หักหลังหลอกลวง แต่เย่เฟยหลีกลับถูกหลอกเสียอย่างนั้น

ฝ่าบาทกับฮองเฮานั่งรถกลับพระราชวังไป และซ่างกวนเย็นถูกกักบริเวณเอาไว้

ฉู่เนี่ยนซีได้ยินว่าฝ่าบาทไปแล้ว จึงตรงไปที่ห้องหนังสือของเย่เฟยหลี

เวลานี้เย่เฟยหลีถอดเสื้อเกราะออกแล้ว เปลี่ยนเป็นเสื้อขาว ดูเคร่งขรึมและองอาจน้อยลง แต่ดูสุภาพและหล่อเหลากว่าเล็กน้อย เวลานี้กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ พลิกดูบทความในมือ

เย่เฟยหลีเหมือนสัมผัสได้ว่ามีคนมา จึงเงยหน้าขึ้น และเห็นฉู่เนี่ยนซียืนอยู่หน้าประตูอย่างเงียบๆ

ฉู่เนี่ยนซีนึกถึงความเหม่อลอยของตนเอง จึงกระแอมไออย่าเขินอาย "เอ่อ......ข้ามาส่งยา"

พูดจบ นางจึงเดินมาข้างๆ โต๊ะ นำยาในมือวางลงบนโต๊ะ "นี่เป็นยาในการรักษาของเย่ฉงเซิ่ง"

จริงๆ แล้วนางไม่ได้วางยาพิษหรอก เพียงแต่ใช้จุดฝังเข็มที่กระทบกระเทือนจิตใจ จึงทำให้เขาไม่มีเสียง

แต่ยาอันนี้ สามารถทำให้จุดฝังเข็มที่ถูกกระทบกระเทือนจิตใจฟื้นฟูขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่านางจะไปแทงเข็มสักสองเข็มก็ได้ แต่นางผูกอาฆาต จะให้นางรักษาด้วยตนเอง เขายังคงไม่คู่ควร

"ตกลง!"

"อีกอย่างหนึ่ง ขอบคุณเจ้าด้วย" ฉู่เนี่ยนซีเอ่ยปากอย่างไม่รื่นหู มองเห็นท่าทางที่สงบนิ่งของเย่เฟยหลีที่มองนาง นางก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที "เพียงแต่ข้าไม่เสียใจที่ได้ทำแบบนี้"

พูดจบนางก็หันหลังกลับ ไม่มองเย่เฟยหลีอีก รีบเดินไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว

"ขอโทษนะ"

เสียงทุ้มแม่เหล็กของเย่เฟยหลีดังขึ้น แต่ในน้ำเสียงกลับมีความอ่อนโยน ทำให้ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาด้วยความตกตะลึง

เย่เฟยหลีมองนางด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ริมฝีปากบางๆ ที่เซ็กซี่เปิดออกเบาๆ "เมื่อวานข้าไม่ควรไม่เชื่อเจ้าเลย"

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฟยหลี ฉู่เนี่ยนซีตกตะลึงอยู่กับที่ เขาเหม่อมองนางอย่างจริงใจด้วยแววตาอ่อนโยนที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัว นางยังสงสัยว่า นางมองผิดไป

แต่ตั้งใจมองอยู่ครู่หนึ่ง ก็พบว่าไม่ได้มองผิดไป ถูกเขามองด้วยสายตาแผดเผา แก้มทั้งสองข้างก็แดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ฉู่เนี่ยนซีสูดหายใจเข้าลึกๆ ทันที และพยายามสงบสติอารมณ์ลงมา

"ไม่เป็นไร วันนี้เจ้าก็ช่วยข้าแล้ว เราถือว่าไม่ติดค้างกัน"

ฉู่เนี่ยนซียิ้มอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทีไม่สนใจ

เย่เฟยหลีได้ยินคำว่าไม่ติดค้างกัน ไม่รู้ว่าทำไม ในใจถึงมีอารมณ์แปลกๆ ซึ่งบอกไม่ถูกเหมือนกัน

ฉู่เนี่ยนซีไม่เห็นสีหน้าของเย่เฟยหลีที่เย็นชาลง จึงพูดต่อว่า "จะว่าไป เจ้าทำตามหลักธรรมชาติของมนุษย์ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นหญิงที่เจ้ารัก ต้องเลือกที่จะเชื่อนางเป็นอย่างแรก ยังไม่พอที่จะตำหนิรุนแรงได้ ไม่โทษเจ้าหรอก"

"ข้าไม่ได้ชอบนาง" คำพูดนี้ของเย่เฟยหลี แทบจะพูดโพล่งออกมาอย่างไม่ต้องคิด

หลังจากพูดจบ แม้แต่ตัวเองก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้

ก่อนหน้านี้ตอนที่แต่งงานกับซ่างกวนเย็น แทบจะทุกคนที่บอกว่าเขาชอบนาง แต่เขาไม่ได้ถือสาอะไร

เนื่องจากซ่างกวนเย็นมีพระคุณที่ช่วยชีวิต จึงให้นางเข้ามาที่จวนอ๋อง เขาเป็นเพื่อนที่ดีกับนาง ในตอนแรกเขาคิดว่าบางทีเขาอาจจะชอบซ่างกวนเย็น แต่หลังจากแต่งงานกัน แต่ทุกๆ ครั้งที่ทั้งสองคนใกล้ชิดกัน เขากลับไม่รู้สึกอะไร และจากไปด้วยเหตุผลหลายประการ

เขาจึงได้รู้ว่า ตนเองไม่ชอบนาง

ตอนนี้ได้ยินคำพูดของฉู่เนี่ยนซี เขาจึงรีบปฏิเสธทันที แม้แต่ในขณะนั้นเขาเองก็ไม่รู้ตัว เขาประหม่ากลัวว่านางจะเข้าใจผิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี