พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 67

สรุปบท บทที่ 67 นาง คือรากเหง้าของหายนะครั้งใหญ่: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี

อ่านสรุป บทที่ 67 นาง คือรากเหง้าของหายนะครั้งใหญ่ จาก พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี โดย ชานมเปรี้ยว

บทที่ บทที่ 67 นาง คือรากเหง้าของหายนะครั้งใหญ่ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชานมเปรี้ยว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หลังจากนั้นไม่นาน ท่านนักบวชหนวดเครายาว ร่างกายก็กลับมาสู้ความสงบ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ที่หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ

ทุกๆ คนเห็นท่าทีที่อ่อนแรงของเขา ฉับพลันล้วนถอนหายใจออกมา ในขณะที่ให้ความสนใจในวิธีการแก้หายนะ ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมท่านนักบวชที่ติดต่อเทพเจ้าจนต้องเหน็ดเหนื่อย นั่นคือความรักที่ยิ่งใหญ่

ฉู่เนี่ยนซีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ เจ้าชักกระตุกเจ้าก็ต้องเหงื่อออกเพราะความเหนื่อยล้าสิ

"ท่านนักบวช เป็นอย่างไรบ้าง!" ฝ่าบาทกับไทเฮารีบเดินไปข้างหน้า

ชายชราหนวดเครายาว เช็ดเหงื่อที่หน้าผากเล็กน้อย และพยักหน้า "สำเร็จลุล่วงแล้ว"

ได้ยินคำพูดนี้ คนในที่นั้นจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

"เช่นนั้นจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลย"

"เมื่อข้าน้อยได้ติดต่อกับเทพเจ้า จึงได้ทราบถึงรากเหง้าของหายนะครั้งใหญ่นี้ ตราบใดที่หาเจอ และเผาเพื่อสังเวย ไม่เพียงแต่หายนะจะถูกทำลายไป ยังจะปกป้องให้ไทเฮามีอายุยืนยาว บ้านเมืองและประชาชนก็จะอยู่เย็นเป็นสุขอีกด้วย"

ไทเฮารู้สึกดีใจ จึงรีบเอ่ยถามว่า "เช่นนั้นรากเหง้าของหายนะนี้ จะหาได้จากที่ใด"

"รากเหง้าของหายนะ นั่นคือผู้หญิงที่เกิดวันที่สามเดือนเก้า"

"อะไรนะ! ท่านนักบวชหมายความว่า จะต้องใช้คนที่มีชีวิตอยู่เป็นเครื่องสังเวยอย่างนั้นหรือ?" ดวงตาของไทเฮาเบิกกว้างทันที ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะเกี่ยวข้องกับประเทศ หากจะต้องสังเวยคนที่มีชีวิตอยู่ นั่นเป็นเรื่องที่โหดเหี้ยมจริงๆ

"ถูกต้อง แต่นางเป็นมนุษย์ แล้วก็เป็นหายนะด้วย ผู้หญิงคนนี้กระทบกระเทือนชะตากรรมของแคว้นปู้เย่ทั้งหมด เป็นการกลับชาติมาเกิดของดาวหายนะ การเซ่นสังเวยด้วยไฟเท่านั้นจึงจะกำจัดหายนะได้"

นักบวชเต๋าหนวดเครายาวลูบหนวดเครา และกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

ฮองเฮาซ่อนความยินดีเอาไว้ในใจ แสร้งทำท่าทางประหลาดใจ "บุตรสาวของซื่อหลาง บุตรสาวของใต้เท้าเฉิน และบุตรสาวของใต้เท้าเฮ่อ ดูเหมือนว่าจะเป็นชั่วยามนี้"

เป็นธรรมดาที่ฮองเฮาจะรู้และคุ้นเคยกับอายุและวันเกิดของผู้หญิงที่มาแต่งงานขององค์ชายแต่ละคน

คำพูดนี้ออกไปก็ไม่มีใครรู้สึกสงสัย แต่เมื่อคนสองสามคนนั้นถูกเอ่ยชื่อ จู่ๆ ก็เดินไปข้างหน้าและคุกเข่าคำนับ "ฝ่าบาท ไทเฮาลองคิดทบทวนก่อน กระหม่อมมีบุตรสาวเพียงคนเดียว จะไม่ใช่ดาวหายนะอย่างแน่นอน"

"บุตรสาวของกระหม่อมก็ว่านอนสอนง่าย ก็ไม่ใช่ดาวหายนะอย่างแน่นอน"

"ไทเฮาฝ่าบาททรงได้โปรดคิดทบทวนด้วยพ่ะย่ะค่ะ"

ตลอดเวลาทุกๆ คนต่างทอดถอนใจ เพราะยังมีครอบครัวอื่นที่มีคนเกิดในชั่วยามนี้ อดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะลงให้มากขึ้น กลัวว่าจะถูกค้นพบ

ฉู่เนี่ยนซีขมวดคิ้วแน่น สายตาเยือกเย็นมองไปยังฮองเฮา นางไม่เชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะว่านางก็เกิดในชั่วยามนี้เช่นกัน

เมื่อสบสายตากัน แววตาของฮองเฮาที่มองฉู่เนี่ยนซี ประกายไปด้วยความลำพองใจ

นี่ทำให้ฉู่เนี่ยนซีแทบอยากจะเข้าไปฉีกเนื้อนาง คนเหล่านี้ที่ถูกเอ่ยชื่อ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เป้าหมายของนาง เหตุที่ไม่เรียกนางโดยตรง เพราะกลัวจะถูกคนครหาว่าเป็นความจงใจของฮองเฮาก็เท่านั้น

ดูเหมือนว่าจะยังมีข้อมูลอื่นๆ อยู่ด้านหลังพวกเขา แน่นอนว่าดาวหายนะนั่นก็คือนาง

เย่เฟยหลีดูเหมือนว่าจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของฉู่เนี่ยนซี หันไปก็เห็นนางมองไปบนแท่นด้วยใบหน้าเย็นชา

ในใจรู้สึกตกตะลึง หรือว่า......

"ไทเฮา ฝ่าบาท......พระชายาหลี พระชายาหลีก็เกิดวันเดียวกันกับบุตรสาวของกระหม่อม" ซื่อหลางคุกเข่าลงบนพื้น ชี้นิ้วไปทางฉู่เนี่ยนซี และตะโกนกล่าว

แผ่นหลังของนางตั้งตรง ยืนอยู่ตรงนั้น แต่ทำให้คนรู้สึกได้ถึงความเย็นชาและสูงส่ง

นักบวชเต๋าหนวดเครายาว หรี่ตามอง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "เป็นผู้หญิงคนนี้จริงๆ หากข้าน้อยคาดเดาไม่ผิด เมื่อดาวหายนะบังเกิดขึ้น ผู้หญิงคนนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจนเป็นที่น่าตกใจ ไม่ทราบว่าใช่หรือไม่"

"ใช่ๆๆ จากหนึ่งเดือนที่ผ่านมาพระชายาหลีมีนิสัยใจคอเปลี่ยนไปมาก สิ่งเหล่านี้ประจักษ์แจ้งต่อสายตาทุกๆ คน"

ซื่อหลางและใต้เท้าหลิวที่อยู่ข้างๆ กล่าว และคนอื่นๆ ก็ต่างพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ฉู่เนี่ยนซีหัวเราะเยาะ ในตาคู่นั้นใสแจ๋วราวกับทางช้างเผือก แต่รอยยิ้ม กลับเต็มไปด้วยความเย็นชา

"หากดาวหายนะบังเกิดขึ้น จะทำให้คนเกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน เช่นนั้นรอยแผลเป็นบนใบหน้าข้าเกิดจากอะไรล่ะ? ท้ายที่สุดแล้วเป็นดาวหายนะที่ทิ้งเอาไว้ หรือทำให้คนเกิดความเปลี่ยนแปลงกันแน่"

น้ำเสียงฉู่เนี่ยนซีเย็นชา ทำให้นักบวชเต๋าตกตะลึงทันที

นี่คือความสะเพร่า เพียงแต่คนทั่วไปเมื่อเผชิญหน้ากับท่าทางเช่นนี้ จะต้องคุกเข่าขอร้องอ้อนวอน จะมาถอดความหมายในคำพูดอย่างใจเย็นเช่นนี้เสียที่ไหนกัน

"มีอย่างแน่นอน! รอยแผลเป็นบนใบหน้าของเจ้านี้ เป็นการลงโทษของสวรรค์สำหรับดาวหายนะ ดังนั้นจึงทิ้งเอาไว้ และการเปลี่ยนแปลงก็ได้เกิดขึ้นแล้วในขณะนั้น บางทีด้วยเหตุผลบางอย่างดาวหายนะจึงไม่ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา แต่เมื่อปลุกให้ตื่นขึ้นมาก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน คาดว่าพระชายาหลี......เอ่อ ไม่ใช่สิ ดาวหายนะได้ปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้ว"

คำพูดของชายชราหนวดเครายาว ดูลี้ลับอย่างมาก แต่ในสมัยโบราณ มีคนจำนวนมากที่เชื่อถือเทพเจ้า จึงเชื่อในคำพูดของเขา

เมื่อได้ยินว่าตอนนี้ดาวหายนะได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นแล้ว แม้แต่ไทเฮาก็หนีห่างด้วยใบหน้าหวาดกลัว

"หึหึ......" ฉู่เนี่ยนซีปิดปากหัวเราะ หลังจากหัวเราะก็เดินมาบนแท่น เข้าใกล้เขาทีละก้าวๆ "ท่านนักบวชติดต่อกับเทพเจ้าเช่นนี้ เทพเจ้าได้บอกกับเจ้าหรือไม่ ว่าท่านนักบวชจะตายเมื่อไหร่"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี