พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี นิยาย บท 75

ทันทีที่ทั้งสองคนเดินมาถึงทางเข้าถ้ำ เหลียงหยวนและคนอื่นๆ ก็มาตามหาพวกเขา เมื่อเห็นทั้งสองคนก็ดีใจและรีบวิ่งเข้ามา

“นายท่าน” เหลียงหยวนวิ่งไปหาทั้งสองคนด้วยสีหน้าเป็นกังวล “นายท่าน ท่านได้รับบาดเจ็บ”

เย่เฟยหลีสีหน้าซีดขาวและไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้า

เมื่อเห็นว่าเขาอ่อนแอเช่นนี้ เหลียงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนักใจ “พระชายา ให้ข้าน้อยทำเองขอรับ”

ในขณะพูด เขาก็ค่อยๆ รับเย่เฟยหลีที่พิงร่างของฉู่เนี่ยนซีมา และให้พิงบนร่างของตนเอง

กลิ่นหอมและความนุ่มนวลจากหญิงที่อยู่ข้างกายเขาหายไป ทำให้เย่เฟยหลีขมวดคิ้ว สายตาที่มีไอสังหารอันเยือกเย็นคู่นั้นมองไปที่เหลียงหยวน

ทันใดนั้นเหลียงหยวนก็รู้สึกเย็นวาบที่หลัง และตกใจกับสายตาที่ดูเยือกเย็นของเย่เฟยหลีที่พิงอยู่บนร่างของเขา “ท่านอ๋อง ท่านไม่สบายที่ใดหรือไม่ขอรับ? ข้าน้อยโดนแผลของท่านหรือ ท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะระวังให้มากขึ้น”

“ไม่เป็นไร......ข้าสบายดี” เย่เฟยหลีหรี่ตาลง และแทบจะกัดฟันพูด “เจ้าคงไม่ได้กลับไปฝึกที่สนามนานแล้วใช่หรือไม่ ในเมื่อปล่อยปละละเลยเช่นนี้ พรุ่งนี้ก็กลับไปเริ่มฝึกดูเถอะ”

เหลียงหยวนตกตะลึง เมื่อพูดถึงสนามฝึก เขาก็รู้สึกขนหัวลุกในทันที “ข้าน้อยสำนึกผิดแล้วขอรับ ต่อไปจะปกป้องท่านอ๋องอย่างสุดกำลัง และไม่ให้ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ขอท่านอ๋องได้โปรดเมตตา”

เหลียงหยวนคิดว่าเป็นเพราะเย่เฟยหลีได้รับบาดเจ็บ จึงตำหนิว่าเขาไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่คิดเลยทันทีที่คำพูดนี้ออกมา สีหน้าที่ซีดเซียวของเย่เฟยหลีจะยิ่งเย็นชาลง แม้แต่มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยกขึ้น หากในขณะนี้เขายังมีเรี่ยวแรง จะต้องเตะเขาออกไปในคราวเดียว

เขาเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา และในที่สุดก็ไม่อยากพูดไร้สาระ คำว่า ‘ไป’ หลุดออกมาจากริมฝีปากที่ไม่มีสีของเขา

เมื่อเห็นเช่นนี้ เหลียงหยวนก็ยิ่งตั้งใจประคองเขาให้ดี จากนั้นก็พูดพร่ำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในจวนไม่หยุดและเดินไปข้างหน้า

หลังจากออกจากป่าลึก เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีถูกประคองขึ้นไปบนเกี้ยว และไม่นานก็กลับมาถึงจวนอ๋องหลี

ทันทีที่เข้าประตู ซ่างกวนเย็นก็วิ่งเข้ามาหาพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า

“ท่านพี่หลี......ทำไมท่านถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้..... ”

เย่เฟยหลีมองไปที่ซ่างกวนเย็นที่วิ่งเข้ามาหา หลีกเลี่ยงมือของนางโดยไม่รู้ตัว และเหลือบมองฉู่เนี่ยนซีจากหางตาอย่างระมัดระวัง

เมื่อเห็นว่านางกำลังคุยกับหยูตง โดยไม่ได้สนใจทางด้านนี้ ในใจก็ค่อนข้างเสียความรู้สึก

“ต่อไปอย่าเรียกข้าเช่นนี้อีก หากผู้อื่นได้ยินจะเอาไปพูดได้ง่ายๆ ไม่รู้จักมารยาท สร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น” เย่เฟยหลีอ่อนแอมาก เสียงต่ำและเบา แต่ชัดเจนมาก

ซ่างกวนเย็นสงสัยว่าตนเองจะเกิดภาพหลอน และมองไปที่เขาอย่างตกตะลึง

ในขณะนี้แม้แต่ฉู่เนี่ยนซีก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ

“ได้ยินแล้วก็ออกไปได้แล้ว ข้าจะพักผ่อน” เย่เฟยลี่เงยหน้าขึ้นและพูดอีกครั้ง

ซ่างกวนเย็นจึงแน่ใจว่าไม่ได้ยินผิดไป และรู้สึกเสียใจในทันที “แต่……”

“ไม่มีแต่……”

ซ่างกวนเย็นกำมือแน่น ไม่สามารถซ่อนความอ่อนโยนบนใบหน้าได้ ทำได้เพียงโค้งตัวลง และกล่าวด้วยใบหน้าที่ไม่เต็มใจ “เข้าใจแล้วเพคะท่านอ๋อง”

ในขณะพูด นางก็จ้องมองฉู่เนี่ยนซีอย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง และหันหลังวิ่งออกไปจากห้อง

ฉู่เนี่ยนซีรู้สึกว่าบรรยากาศกดดัน หยูหนานก็เดินเข้ามาพอดี และกระซิบข้างหูของนางสองสามประโยค หลังจากนั้นฉู่เนี่ยนซีก็หาข้ออ้างจากไป

ในขณะนี้ในห้องเหลือเพียงแค่เหลียงหยวนและเย่เฟยหลีสองคนเท่านั้น

เหลียงหยวนยืนอยู่ข้างๆ เขาด้วยใบหน้าที่ยุ่งเหยิง ในที่สุดเขาก็กัดฟันและปริปากพูด

“ท่านอ๋องทรงคิดมากไปหรือไม่ขอรับ บางทีพระชายาซ่างกวนอาจจะแค่เป็นห่วงท่าน”

“นางออกจากวังไปก่อนพวกเรา หากเป็นคนธรรมดา คงรออยู่ที่บ้านเงียบๆ ทำไมทันทีที่กลับมาที่จวนถึงเรียกให้เจ้าไปตามหา”

สีหน้าท่าทางของเย่เฟยหลีเปลี่ยนไปมาอย่างไม่อาจคาดเดาได้ หากเปลี่ยนเป็นก่อนหน้านี้ เขาอาจจะไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ แต่เรื่องทยอยตามกันมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้เขารู้ว่าซ่างกวนเย็นไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่เห็น คราวก่อนเรื่องที่ตกน้ำ จู่ๆ ฮองเฮาและฝ่าบาทก็เสด็จมา เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ

แต่วันนี้ระหว่างทางกลับ เขาได้ยินเหลียงหยวนพูดว่าเมื่อวานซ่างกวนเย็นกลับมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก และก้าวเข้าไปในเรือนของเขาหลายครั้ง เมื่อเห็นเหลียงหยวนก็พูดอึกๆ อักๆ สุดท้ายก็บอกเหลียงหยวนว่าเย่เฟยลี่ไม่ได้กลับมา เกรงว่าจะเกิดเรื่องขึ้น จึงให้เขาออกไปตามหา แต่คนขับรถม้าถูกติดสินบน และพาพวกเขาไปยังสถานที่ห่างไกล หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้าไปในป่าลึก และไม่พบคนสวมหน้ากากที่จัดการกับร่องรอยของการต่อสู้ทั้งหมดในครั้งนั้น เป็นเหตุให้เหลียงหยวนใช้เวลาตามหางพวกเขาทั้งคืนก็ไม่พบ

การกระทำของซ่างกวนเย็นทำให้เขายิ่งสงสัย นางรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว นางเพียงแค่แจ้งเหลียงหยวน และคิดว่าเขายังพอมีสัญชาตญาณอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้เย่เฟยหลีจึงไม่ได้เปิดโปง

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่งคนไปจับตาดูซ่างกวนเย็นอย่างลับๆ ดูว่านางติดต่อกับใครบ้าง”

“ขอรับ”

……

ในอีกด้านหนึ่ง ฉู่เนี่ยนซีถูกหยูหนานเรียกให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และออกจากจวนไปที่สำนักการแพทย์

ห้องที่ถูกซ่อนอยู่ในชั้นสามของสำนักการแพทย์ ฉู่เนี่ยนซีสวมชุดบุรุษสีขาว ทันทีที่เดินเข้าไปก็เผชิญหน้ากับคนคนหนึ่งที่คุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น

“หมอเทวดา ท่านได้โปรดช่วยท่านพ่อของข้าด้วย” ชายสวมเสื้อผ้าสีกรมท่า ใบหน้าขาวผ่อง แม้ว่าหน้าตาไม่หล่อเหลาแต่ก็ถือว่างดงาม ในขณะนี้ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ และเสื้อผ้าขาดวิ่น เขาคุกเข่าลงอยู่ตรงหน้าฉู่เนี่ยนซี ดึงชายเสื้อของนางไว้แน่นด้วยสีหน้าอ้อนวอน

“เจ้าลุกขึ้นก่อนแล้วค่อยพูด!” ฉู่เนี่ยนซีประคองแขนของเขา และตั้งใจจะประคองเขาให้ลุกขึ้น แต่คนผู้นี้ไม่ขยับ

“นายท่าน นี่เป็นบุตรชายของเถ้าแก่จ้าวหอชุบชีวิต จ้าวเฉิงฉาย” เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูกของฉู่เนี่ยนซี หยูหนานก็อธิบายในทันที

ฉู่เนี่ยนซียังไม่ทันได้พูด จ้าวเฉิงฉายก็ร้องไห้อีกครั้ง “หมอเทวดา ท่านพ่อของข้าไม่ได้ตั้งใจทำให้ท่านขุ่นเคือง ท่านได้ปรดช่วยเขาด้วย หากท่านสามารถรักษาท่านพ่อของข้าได้ ข้ายอมเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนท่าน”

“เจ้าลุกขึ้นก่อน นั่งตรงนั้น” เมื่อเห็นเขาคุกเข่าอยู่ตลอดเวลา ฉู่เนี่ยนซีก็กล่าวอย่างเคร่งขรึม “เจ้ายังอยากจะช่วยท่านพ่อของเจ้าหรือไม่”

“อยาก! ข้าอยาก!” จ้าวเฉิงฉายตกใจและมองไปที่นางอย่างคาดหวัง

“เช่นนั้นก็ลุกขึ้น บอกมาว่าตอนนี้อาการป่วยของท่านพ่อเจ้าถึงขั้นไหนแล้ว”

จ้าวเฉิงฉายถูกหยูหนานประคองขึ้นมา

“เมื่อหลายวันก่อน ท่านพ่อของข้ามักจะอ่อนแรงอยู่เสมอ หลังจากตื่นนอนก็มักจะคลื่นไส้อยากอาเจียน กินอะไรไม่ได้ จนกระทั่งเมื่อวานจู่ๆ ก็เริ่มมีไข้ ในตอนนี้แม้แต่จะลุกจากเตียงก็ไม่ไหว ท่านพ่อของข้าจึงให้ข้ามาขอร้องท่า” ในขณะพูด จ้าวเฉิงฉายก็ตาแดงขึ้นมาอีกครั้ง “หมอเทวดา ท่านเป็นผู้ใหญ่อย่าได้ถือสาผู้น้อยเลย ได้โปรดช่วยท่านพ่อของข้าด้วย ขอแค่สามารถช่วยท่านพ่อของข้าได้ ท่านจะให้ข้าไปตายก็ย่อมได้!”

พูดจบจ้าวเฉิงฉายก็กำลังจะคุกเข่าลงอีกครั้ง แต่ถูกหยูหนานห้ามไว้

ฉู่เนี่ยนซีนึกไม่ถึงเลยว่าคนอย่างเถ้าแก่จ้าวจะสอนให้บุตรชายกตัญญูเช่นนี้ และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

“ข้าจะเอาชีวิตของเจ้าไปทำอะไร เอาล่ะ พาข้าไปหาท่านพ่อของเจ้าเถอะ”

“ได้! ได้!” จ้าวเฉิงฉายประหลาดใจ และเช็ดน้ำตาบนใบหน้าอย่างไม่ได้ใส่ใจ “หมอเทวดา เชิญ! ”

“อืม” ฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าและมองไปที่หยูหนาน “เจ้าไปตามผู้อาวุโสเฮ่อหลันมา”

ในตอนนั้นรับปากกับเฮ่อหลันว่าทุกครั้งที่ฉู่เนี่ยนซีออกตรวจจะให้เขาติดตามไปด้วย และในตอนนี้ก็ไม่สามารถละเลยได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคนงาม อย่าคิดหนี