เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1447

หากอยากได้ราชอำนาจขึ้นเป็นจักรพรรดิเป่ยฉินที่แท้จริง ก็ต้องยึดถือสิ่งซึ่งสืบทอดจากราชวงศ์ฮั่นเก่า ทั้งกฎเกณฑ์ พิธีรีตอง และความเชื่อ หากสิ่งเหล่านี้สูญไป ความสูงศักดิ์และศักดิ์ศรีก็พลันสิ้น แล้วจะยังเรียกว่าชาวเป่ยฉินได้หรือไม่?

ไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินก็เห็นพ้องกับข้อนี้ เพียงแต่ราชวงศ์ฮั่นเก่าห้ามสตรีว่าราชการ ด้วยเพศหญิงจึงเป็นปฏิปักษ์โดยธรรมชาติต่อราชอำนาจ นางจึงมิได้เสด็จขึ้นครองบัลลังก์เสียที

เพราะเหตุนั้น กระทั่งนางสิ้นลมหายใจหลังบัลลังก์มังกร นางยังพร่ำพึมพำอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “หากเราถือกำเนิดเป็นบุรุษ…”

นึกดูแล้ว นี่ก็คือพันธนาการแห่งกาลเวลาที่กักขังความคิดของผู้คนกระมัง

“จะว่าข้าหน้าด้านก็ได้ แต่แม่ของกู้ฉางเซิงน่ะ ชอบข้าไม่น้อย” หลิวฉิงลูบคาง พลางทำท่าเหมือนกำลังหวนคิดเรื่องราวเก่า “นางเคยเอ่ย หากสมัยยังสาวได้รู้จักคนเช่นข้า คงเปลี่ยนการตัดสินใจไปหลายเรื่อง เช่นอาจให้องค์หญิงใหญ่จาวหยางแต่งเข้าตระกูลเซี่ยเป็นฮูหยินใหญ่”

“หืม?” อวิ๋นหลิงหันมาขยิบตาใส่ “พี่ฉิง ฮูหยินใหญ่ตระกูลเซี่ยไม่ใช่มารดาของเซี่ยเจิ่นอวี้หรือ?”

หลิวฉิงตอบอย่างประหลาด “ใช่ แต่มีช่วงเวลาหนึ่งนางไม่ใช่”

มีช่วงเวลาหนึ่ง?

อวิ๋นหลิงเกิดความอยากรู้อยากเห็น “มีความเป็นมาเช่นไรหรือ?”

หลิวฉิงพลันถามขึ้น “เจ้าจำการค้ากระดาษลายไม้ระหว่างเป่ยฉินกับตงฉู่ได้หรือไม่?”

“จำได้สิ”

“เรื่องนั้นแหละ คือหมากสำคัญที่ไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินวางไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เพื่อควบคุมราชสำนักเป่ยฉิน และองค์หญิงใหญ่จาวหยางก็คือหมากในมือของนาง”

บ่ายวันหนึ่งที่มิอาจนับว่าว่างนัก สองสตรีนั่งเคี้ยวของว่างพลางสนทนาอยู่ในเรือนอุ่นทิศตะวันออก หลิวฉิงเล่าความหลังของราชวงศ์เป่ยฉินให้แก่อวิ๋นหลิง

ไทฮองไทเฮาเสี้ยวเจินมีโอรสหลายองค์ แม้สุดท้ายรอดชีวิตจากการแย่งชิงในวังเพียงสอง แต่ไม่ว่าพระโอรสองค์โตผู้ครองราชย์ หรือโอรสน้อยอย่างกู้ฉางเซิง นางก็มิได้เอ็นดูมากนัก

บุตรที่นางรักใคร่แท้จริงคือพระธิดาเพียงองค์เดียว องค์หญิงใหญ่จาวหยาง ผู้เป็นพี่สาวของกู้ฉางเซิง

แล้วองค์หญิงใหญ่จาวหยางคือสตรีเช่นไรเล่า?

นางมีทั้งความทะเยอทะยานและกลอุบายดุจแม่เฒ่าเสี้ยวเจิน อีกทั้งยังดื้อรั้นเช่นกู้จวินหนี เพียงแต่นางมิได้ทุ่มเทให้บุรุษ หากเป็นการภักดีและบูชามารดาอย่างสุดใจ

นางเป็นผู้ที่รักและเข้าใจฮูหยินเฒ่าเสี้ยวเจินมากที่สุดในโลก ฉะนั้นเพื่อสนองความยึดมั่นและปณิธานยิ่งใหญ่ของมารดา นางยอมอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างของตน

“ยี่สิบกว่าปีก่อน ตงฉู่เฟื่องฟูขึ้นด้วยการค้าทะเลลึก เพื่อบรรทุกสินค้าลงเรือและเกวียนให้มากขึ้น ธนบัตรค่อยๆ แทนที่เหรียญโลหะ ครองตลาดซื้อขายส่วนใหญ่ จึงก่อให้เกิดความวุ่นวานและปัญหาทางเศรษฐกิจมากมาย”

“ครั้นตงฉู่กำลังทุกข์เข็ญไม่รู้หนทางแก้ แม่เฒ่าเสี้ยวเจินก็นึกถึงกระดาษลายไม้ของตระกูลเซี่ย หากช่วยให้ตงฉู่คลี่คลายปัญหานี้ได้ เป่ยฉินก็ย่อมกอบโกยผลประโยชน์นับไม่ถ้วนอย่างง่ายดาย”

อวิ๋นหลิงพยักหน้าครุ่นคิด นางเคยสงสัยอยู่เสมอว่าเหตุใดเป่ยฉินจึงมั่งคั่งถึงเพียงนี้?

มักส่งทัพช่วยต้าโจวต้านทูเจวี่ย ทั้งยังมอบเงินทองช่วยเหลือ แต่ที่ตั้งแว่นแคว้นกลับอยู่ทางเหนือในแดนหนาวเหน็บ เส้นทางการค้าเสียเปรียบกว่าต้าโจว ทว่าความมั่งคั่งกลับมิด้อยกว่าชาวตงฉู่

ยามประชาราษฎร์ต้าโจวกัดกินกะหล่ำปลีแช่แข็งทนหนาว กู้จื่ออวี้กลับฟุ่มเฟื่อยถึงขั้นสร้างเรือนกระจกเลี้ยงดอกไม้เพียงเพื่อให้พระสนมสำราญ.

บัดนี้มองย้อนกลับไป กำไรที่เป่ยฉินได้รับจากการค้ากระดาษลายไม้นั้นเกินจินตนาการ

แท้จริงกระดาษลายไม้นั้นแรกเริ่มช่วยบรรเทาภัย แต่เมื่อใช้ไปนานย่อมเกิดการพึ่งพา กลับกลายเป็นจุดอ่อนของตงฉู่ ครั้นแคว้นตงฉู่ตระหนักภัยแฝงนี้ได้ จึงมิเต็มใจทำงานเป็นเบี้ยล่างเป่ยฉิน ลับหลังจึงทุ่มกำลังคิดค้นหาของทดแทน

อวิ๋นหลิงถอนใจเบา ๆ “ฟังเจ้าเล่าดังนี้ ข้าก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไมเซี่ยเจิ่นอวี้ถึงไม่ค่อยชอบข้า”

นางไม่ได้รู้สึกไปเองจริงๆ

หลิวฉิงเอ่ยเรียบ ๆ “เขาย่อมไม่ชอบเจ้า เช่นเดียวกับที่เขาเกลียดข้า และเกลียดอาหนีในอดีต”

เพราะพวกนางมีบางสิ่งคล้ายคลึงกับสองแม่ลูกเสี้ยวเจิน ไม่ว่าจะเป็นฐานะ นิสัย หรือวิธีการก้าวร้าวที่พร้อมทำลายทุกคนเพื่อบรรลุเป้าหมาย

“ฮูหยินตระกูลเซี่ยนั้นน่าสงสารนัก เดิมทีนางต้องถึงตาย แต่เพราะสามีเป็นคู่รักวัยเยาว์จึงปกป้องนางกับลูกสุดชีวิต นางจึงถูกลดชั้นเป็นเพียงอนุเท่านั้น ทว่าตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้ ทั้งนางและเซี่ยเจิ่นอวี้ต้องอยู่ท่ามกลางสายตาเย้ยหยันนับไม่ถ้วน ชาวเป่ยฉินยกย่องแต่คนแข็งแกร่ง อำนาจคือทุกสิ่ง แม้พวกเขาจะเป็นเหยื่อก็แทบไม่ได้รับความเห็นใจใด ๆ”

องค์หญิงใหญ่จาวหยางไม่เคยลดตัวมาแกล้งคู่แม่ลูกอันอ่อนแอนี้ นางต้องทุ่มเทเพื่ออุดมการณ์ยิ่งใหญ่ของมารดา แม้แต่บุตรชายคนโตของตระกูลเซี่ยยังเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง แล้วนางจะเสียเวลามาเล่นงานสองแม่ลูกนี้ทำไม

ทว่านางไม่คิดกลั่นแกล้ง ก็ยังมีผู้คนที่อยากเอาใจนางเป็นฝ่ายไปกดขี่แม่ลูกคู่นี้แทน

“สามีภรรยาตระกูลเซี่ยต่างก็ชิงชังสองแม่ลูกเสี้ยวเจินนัก ทว่าก็จนปัญญา เพราะเชื้อพระวงศ์ใหญ่เหนือตระกูลสูงศักดิ์เสมอ”

“สิ่งที่ฮูหยินตระกูลเซี่ยทนรับมิได้ที่สุด ก็คือนางเคยเชื่อว่าไม่ว่าใต้หล้าจะวิปลาสเพียงไร อย่างน้อยใจสามีก็ยังอยู่กับตน ทว่าในภายหลังบุตรชายใหญ่ตระกูลเซี่ยกลับหลงรักองค์หญิงใหญ่จาวหยางเสียเอง”

สภาพจิตใจของนางพังทลายในชั่วพริบตา เหลือเพียงเสาหลักอันเดียวดายค้ำยันให้นางยังฝืนมีชีวิตต่อไป

เสาหลักนั้นคือเซี่ยเจิ่นอวี้ บุตรชายของนาง ความหวังเพียงสิ่งเดียว

แต่ราวกับชะตากรรมจะวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิม ฟ้าลิขิตให้เขาได้พบกับกู้จวินหนี สาวน้อยที่ผู้คนล้อเลียนว่าเป็นองค์หญิงใหญ่จาวหยางคนที่สอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ