เข้าสู่ระบบผ่าน

ภรรยานำโชคสุดที่รัก นิยาย บท 3

เนื่องจากนางกำลังเติมฟืนในเตาจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าจ้าวจิ่นเอ๋อร์ถือบางอย่างอยู่ในมือ เพียงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นังหนู ไฉนจึงตื่นเช้าจัง? คนอื่นๆ ยังนอนหลับกันอยู่เลย ยายแก่อย่างข้าตื่นเช้าเป็นประจำอยู่แล้ว อาหารเช้าข้าเป็นคนทำเอง เจ้าไม่ต้องห่วงดอก”

จ้าวจิ่นเอ๋อร์ส่ายห่านป่าในมือพลางเอ่ยว่า “ท่านย่า ข้าเก็บห่านป่าได้เจ้าค่ะ”

ผู้เฒ่าฉินชะโงกหน้ามองแวบหนึ่งก่อนจะเช็ดมือแล้วเดินออกมาจากหลังเตา

นางรับห่านป่าจากมือจ้าวจิ่นเอ๋อร์พร้อมอุทานว่า “โอ้โห หนักมาก เจ้าไปเก็บมาจากที่ใด”

จ้าวจิ่นเอ๋อร์เล่าให้ผู้เฒ่าฉินฟังตามความจริง

ผู้เฒ่าฉินหน้าบานด้วยความดีใจ “นังหนูนี่ ช่างโชคดีจริงๆ”

จ้าวจิ่นเอ๋อร์อึ้งไปชั่วขณะ โตจนป่านนี้แล้ว คนในหมู่บ้านล้วนเรียกนางว่าตัวซวย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชมว่านางโชคดี...

“วางไว้ตรงนั้นเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะจัดการมันเอง ครอบครัวเราจะได้กินเนื้อเพราะนังหนูจิ่น” ผู้เฒ่าฉินเปิดฝาหม้ออย่างยิ้มแย้มจากนั้นก็ยกถ้วยมีไอร้อนลอยขึ้นมาจากในหม้อ “กินนี่ก่อนเถอะ”

จ้าวจิ่นเอ๋อร์รับมาแล้วมองดู พบว่าเป็นข้าวต้มแปดเซียนที่ต้มจนมีสีแดงเนื้อนุ่มและหอมละมุน

ผู้เฒ่าตระกูลฉินใจดีเกินไปแล้ว!

ในบ้านมีไข่ต้มมงคลสีแดงอยู่ มื้อเช้าก็เป็นข้าวต้มแปดเซียน ซึ่งหาไม่ได้ที่บ้านของท่านอา!

“กินซะสิ” ผู้เฒ่าฉินเอ่ยเร่งเร้า

จ้าวจิ่นเอ๋อร์หิวมากจริงๆ จึงตักเข้าปากด้วยช้อนดินเผาสีขาว รสชาตทั้งหวานและนุ่มลิ้น

เพียงคำเดียวนางก็ได้ลิ้มรสหลากหลายรสชาต ทั้งรสพุทรา ถั่วลิสง ดูเหมือนจะมีลําไยและเมล็ดบัวด้วย

สตรีในวังหลวงก็กินของพวกนี้สินะ?

ในขณะนั้น ฉินเจินจูน้องสาวคนเล็กของตระกูลฉินก็เข้ามา

เมื่อเห็นถ้วยของจ้าวจิ่นเอ๋อร์ ตาก็แทบจะถลนออกมา รีบตะโกนว่า “ท่านย่า! ข้าก็อยากกินข้าวต้มแปดเซียน!”

“ไปไหนก็ไป นั่นคือข้าวต้มที่กินเพื่อให้มีลูกชายเร็วๆ สะใภ้ใหม่ถึงจะกินได้ เด็กอย่างเจ้ามายุ่งวุ่นวายกระไรด้วย”

ฉินเจินจูเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “พี่สามป่วยหนัก และนางก็ผอมขนาดนี้ กินแล้วก็เหมือนไม่ได้กิน”

ความหมายของนางก็คือฉินมู่ซิวจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่วันก็หารู้ไม่ ส่วนจ้าวจิ่นเอ๋อร์ก็ผอมแห้งเหมือนต้นถั่วงอก แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่สองคนนี้จะมีลูกเร็วๆ นี้

คำพูดนั้น ไม่พูดยังดีเสียกว่า แต่พอพูดออกมาก็ทำให้ผู้เฒ่าฉินโกรธ

“ตีเพราะเจ้าโง่ที่ไม่รู้จักแยกแยะ! คนอื่นว่าให้พี่สะใภ้สามของเจ้า แต่เจ้าไม่เพียงไม่ช่วยด่ากลับ หนำซ้ำยังเอากลับมาเล่าให้พี่สะใภ้สามของเจ้าได้ยิน ในหัวของเจ้ามีแต่น้ำหรือขี้อยู่กันแน่?”

ผู้เฒ่าฉินยกไม้ขึ้นมาและเตรียมจะตีอีกครั้ง ทว่านายหญิงฉินหวังเฟิ่งอิงและลูกสะใภ้คนโตของนางหลิวเหม่ยอวี้บังเอิญเข้ามาพอดี จึงรีบดึงฉินเจินจูออกมาทันที

“ย่าของนาง โปรดหยั่งมือด้วย!”

“เจินจู รีบหนีไปเร็ว!”

ฉินเจินจูร้องโวยวายแล้ววิ่งหนีออกไป

นางวิ่งไปพร้อมกับตะโกนใส่จ้าวจิ่นเอ๋อร์ว่า “ตัวซวยแล้วยังไม่ให้พูดถึงอีกหรือ? เข้าบ้านวันแรกก็ทำให้ท่านย่าตีข้า ข้าว่าท่านไม่ใช่ตัวซวยหรอกนะ แต่เป็นมารป่วนบ้านเสียมากกว่า!”

ผู้เฒ่าฉินถือไม้ฟืนวิ่งไล่ตามจนถึงหน้าประตู ทว่าท้ายที่สุดก็วิ่งตามร่างที่เบาราวกับนกนางแอ่นอย่างหลานสาวไม่ทัน จึงต้องระบายอารมณ์ใส่หวังเฟิ่งอิงผู้เป็นมารดาของนางแทน

“ผู้หญิงไม่ดีเพียงคนเดียว หายนะสามชั่วรุ่น ดูสิว่าเจ้าสอนเจินจูให้กลายเป็นคนใจร้ายขนาดไหน! ปากจัดเช่นนี้ ต่อไปในอนาคตเมื่อไปอยู่บ้านสามีจะต้องโดนสั่งสอนมากมายแน่นอน”

เมื่อเห็นแม่สามีโกรธ หวังเฟิ่งอิงจึงไม่กล้าต่อปากต่อคำ “เจินจู ยังเด็กอยู่เลย ทั้งหมดก็เพราะฟังคนอื่นยุยง เดี๋ยวข้าจะไปหาหลี่กุ้ยจือเพื่อคุยให้รู้เรื่อง”

ผู้เฒ่าฉินถ่มน้ำลาย “อย่าไปให้ขายขี้หน้าตัวเองเลย ปากใครปากมัน คนเขาจะพูดอันใด เจ้ามีสิทธิ์อันใดไปยุ่ง? สิ่งที่เจ้าควรทำคือดูแลสั่งสอนลูกสาวของตัวเองให้ดี!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยานำโชคสุดที่รัก