"มีแบบนี้ด้วยเหรอ" ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงคนป่วย รับโทรศัพท์จากลูกน้องคนที่เขาให้ไปส่งเธอที่บ้าน
ทศกัณฐ์ไม่รู้หรอกว่าคำว่าป้าปากมากข้างบ้านเป็นยังไง เพราะชีวิตเขาไม่ได้โคจรไปเจอกับคนพวกนั้น แต่ก็พอได้ยินสาวๆ ในสังกัดพูดกันอยู่บ้าง เรื่องที่ถูกพูดดูถูกดูแคลนว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้
"แล้วมึงจะรีบโทรมารายงานทำไมตอนนี้ไอ้ชาติ" กว่าเพลิงจะทำให้เจ้านายพักรักษาตัวต่อก็ลำบาก แต่พอได้ยินไอ้ชาติโทรมารายงานเท่านั้นแหละ "ยังไงคืนนี้ผมก็ไม่ให้เจ้านายออก ต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าก่อน..ครับผม"
เขาจะเอาแต่อารมณ์ตัวเองก็ไม่ได้เพราะลูกน้องเป็นห่วงกันทุกคน ทศกัณฐ์ก็คิดอยู่ว่าไปตอนนี้ก็ทำอะไรมากไม่ได้ และอีกอย่างหนึ่งที่เขาต้องทำคือเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อน..ชายหนุ่มล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหา..
{"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร"} คำแรกที่ได้ยินจากปากพ่อเมื่อแจ้งว่าจะให้ไปสู่ขอผู้หญิงให้
{"คนรักผมครับ ผมอยากให้พ่อเตรียมตัวด้วย"} คนแรกที่เขาต้องโทรหาก็คือพ่ออยู่แล้ว ถึงแม้รู้ดีว่าจะเจออะไรบ้าง ก็ต้องได้ให้ท่านรับรู้ไว้
{"ผู้หญิงที่ไหน"}
และนี่มันก็คืออีกหนึ่งเหตุผล ถึงแม้ผู้หญิงคนนั้นจะโดนใจเขา แต่ถ้าไม่ถูกใจพ่อก็อีกล่ะ
{"เธอเป็นผู้หญิงชาวบ้านธรรมดาครับ"}
{"แกไปคบกับผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง แล้วแกไปรู้จักที่ไหน"} พลเอกเรวทัตคิดว่าลูกชายคงจะรู้จักในคลับในบาร์ ดีไม่ดีอาจจะเป็นผู้หญิงในสังกัดของลูกชายก็ได้ คนเป็นพ่อแทบจะลมจับอยู่แล้ว {"พ่อบอกแกแล้วใช่ไหม ถ้าจะชั่วครั้งชั่วคราวกับผู้หญิงพวกนี้ได้ แต่พ่อไม่อนุญาตให้จริงจังด้วย"}
{"พ่อจะไม่ไปสู่ขอให้ผมใช่ไหมครับ"}
{"ทศกัณฐ์ฟังพ่อนะ ถ้าลูกจะมีเมียต้องให้สมฐานะหน้าตา เวลาควงออกงาน.."}
ผู้เป็นพ่อยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำลูกชายก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
{"เหมือนพ่อใช่ไหมครับ ที่ต้องเก็บผู้หญิงคนหนึ่งไว้ออกหน้าออกตา โดยที่ไม่คิดถึงจิตใจของท่านเลย"}
{"ฉันเป็นพ่อแกนะ"}
{"ถ้าพ่อไม่ไปไม่เป็นไรครับ"} เขาตัดสายไปทันทีที่พูดจบโดยไม่รอฟังว่าพ่อจะต่อว่าอะไรอีก
มันไม่ได้ผิดไปจากที่ทศกัณฐ์คิดไว้เลย เพราะพ่อของเขาเคยพูดเปรยๆ เรื่องนี้ไว้บ้างแล้ว และไม่ใช่ว่าพ่อจะไม่เคยหาผู้หญิงมาให้ดูตัว แต่ลูกสาวคุณหญิงคุณนายพวกนั้นไม่โดนใจทศกัณฐ์เลยสักคน
หลังจากที่วางสายไป คนเป็นพ่อก็โทรมาอีกหลายครั้ง แต่ทศกัณฐ์ไม่ยอมรับ
พอเขาคิดอะไรขึ้นมาได้ แต่ก็ต้องได้หยุดความคิดตัวเองไป ถ้าขอความช่วยเหลือจากคนที่เขาคิดไว้ ..มันจะเป็นการตอกย้ำความรู้สึกของท่านมากเกินไปไหม
เช้าวันต่อมา..
"ทำไมถึงไม่บอกพี่ว่าได้กลับมาแอดมิทอีก" รามสูรรู้ข่าวก็รีบมาที่โรงพยาบาลก่อน
ทศกัณฐ์มองไปดูหน้าลูกน้องคนสนิทเมื่อเห็นพี่ชายเข้ามา คงเป็นฝีมือของเพลิงที่แจ้งไป แต่เขาก็ไม่ได้ตอบอะไร..ชายหนุ่มลุกขึ้นกำลังจะถอดสายน้ำเกลือ
"เราจะทำอะไร"
"ท่านจะออกจากโรงพยาบาลครับ" เพลิงเห็นเจ้านายไม่ตอบก็เลยเป็นคนตอบแทน
"ทำไมต้องรีบออก แผลที่เย็บใหม่หายดีแล้วเหรอ"
"ผมมีเรื่องต้องไปทำ" ทศกัณฐ์ก็คือทศกัณฐ์ไม่ค่อยชอบพูดแต่เน้นการกระทำมากกว่า เหมือนตอนที่เขาได้ข่าวเรื่องเรือสินค้าพี่ชายล่ม และได้ข่าวว่าพี่ชายออกเรือเพื่อไปช่วยผู้ประสบภัยเอง ทศกัณฐ์ก็รีบให้ลูกน้องนำเรือของกองทัพออก โดยที่ยังไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทางผู้ใหญ่รู้
"เรื่องอะไรเดี๋ยวพี่ทำให้" ตั้งแต่ทั้งสองเปิดใจเข้าหากัน ก็สนิทเหมือนคู่พี่น้องทั่วไป
"ไม่รู้สิ ปากเก่งชะมัด เราคุยด้วยดีๆ นะ แต่ด่าเราเหมือนรุ่นเดียวกันเลย" ป้าปากมากเริ่มฟ้องเพื่อนบ้าน
"เด็กยังไม่รู้จักโตก็แบบนี้แหละไม่มีพ่อแม่สั่งสอน" คนแบบนี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม พอคุยกับคนหนึ่งก็จะพูดไปในทางเดียวกัน แต่หันหลังให้แค่นั้นแหละก็นินทากันเอง
"อ้าวยาย.. ที่บ้านกำลังจะมีงานอะไรกันเหรอทำไมทำความสะอาดใหญ่เลย" พอเห็นว่าคนที่กำลังพูดถึงเดินผ่านมาทั้งสองก็เงียบไว้ก่อน
"ก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"จะไม่รู้ได้ยังไง คนไหนล่ะหลานเขยยาย"
"ไม่มีอยู่ในนี้หรอก"
"ว่าไปเรื่อยถ้าไม่มีแล้วจะมาทำความสะอาดให้ทำไม แล้วนี่ยายไปไหนมา"
"ก็ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ เด็กๆ พวกนี้แหละ" ที่ยายต้องไปซื้อเองเพราะตอนนี้หลานสาวนอนหลับ และเอวาก็ยังไม่รู้หรอกว่าหน้าบ้านเกิดอะไรขึ้น
"ป้ามันเกิดอะไรขึ้นเหรอ" ไม่ใช่แค่คนแก่หรอกที่อยากรู้ คนที่ขับรถผ่านไปมาก็จอดถาม
"ไม่รู้เหมือนกัน ถามเขาเขาก็ไม่บอกนี่ หึ! ทำเหมือนว่ากำลังจะมีงานใหญ่อย่างนั้นแหละ ดูสิทำความสะอาดไปถึงโน่นแล้ว" ป้าที่กลัวคนอื่นได้ดีกว่าลูกหลานตัวเอง พูดด้วยรอยยิ้มเยาะเล็กน้อย เมื่อลับหลังยายของเอวาแล้ว
"ไม่ได้ทำความสะอาดแค่นั้นนะป้า ตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้าน ตอนนี้หญ้าที่รกๆ ก็กำลังถูกตัด"
"อะไรมันจะเวอร์วังขนาดนั้น"
"ป้าไม่เชื่อก็ไปดูสิ ฉันเพิ่งผ่านมาเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก