มือหนาล้วงลงไปหาโทรศัพท์แล้วควักมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง เธอก็รู้แหละว่าตัวเองไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาเลย แต่นี่มันในงานแต่งและเธอก็เป็นเจ้าสาว เขาควรจะไว้หน้าเธอบ้าง
พอหยิบโทรศัพท์ออกมาชายหนุ่มก็ส่งไปให้กับคนสนิทที่ยืนอยู่ด้านหลัง
ดวงตาที่เริ่มจะมีม่านน้ำตาออกมาบดบังความงาม ตวัดขึ้นไปมองคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างกายแบบขอบคุณ
"เป็นอะไร" ไม่ใช่ว่าเขาไม่สังเกต ทีแรกก็ว่าจะเลื่อนดูสักหน่อย แต่พอสัมผัสร่างกายของอีกคนได้ เขาก็เลยส่งโทรศัพท์กลับไปด้านหลัง
แต่หญิงสาวยังไม่ได้ตอบ ผู้ใหญ่ก็เรียกตัวให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าไปในงานก่อน
งานแต่งในครั้งนี้ท่านพลเอกปล่อยให้นักข่าวและเพจดังทำข่าวได้ตามสบาย ส่วนมากทางสื่อออนไลน์ก็จะเป็นการเผยแพร่สด
เวลาผ่านไป..และงานแต่งก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเช่นกัน จนมาถึงช่วงสุดท้ายของงาน
ที่จริงเรื่องเรือนหอยังไม่ได้คุยกัน แต่ผกาแก้วจัดเตรียมที่บ้านของตัวเองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจ้าสาวที่คอยเดินตามหลังเจ้าบ่าวเวลาเดินไปพบปะแขกในงาน เอื้อมมือไปสะกิดแขนเสื้อเขาเบาๆ
คนตัวสูงมองต่ำลงมาดูว่าเธออยากจะคุยอะไรด้วย
"เรื่องห้องหอขอเป็นบ้านคุณได้ไหม" หญิงสาวกระซิบพูด ในงานเสียงดังมากเขาก็เลยไม่ได้ยิน ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาเล็กน้อยเพื่อให้เธอพูดใหม่อีกครั้ง
จังหวะนั้นกล้องหลายๆ ตัวของนักข่าวก็รีบเก็บภาพไว้ เพราะไม่ค่อยเห็นภาพหวานๆ ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเลย
"ก็เรื่องที่เราคุยกันไว้ไง เรื่องห้องหอ"
แต่คนที่ได้ยินไม่ได้มีแค่เจ้าบ่าว พุดตานแม่ของเจ้าบ่าว ที่ยืนอยู่ใกล้ลูกชายก็ได้ยินเช่นกัน สายตานางเหลือบมองดูลูกสะใภ้ป้ายแดง ช่างไม่มีความอายเหมือนแม่เอาซะเลย
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบเพราะว่าต้องได้หันกลับไปคุยกับผู้ใหญ่อีก จนถึงเวลาที่ส่งตัวเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวกลับเรือนหอ
"แม่ได้เตรียมเรือนหอไว้ให้ที่บ้านแล้ว เดี๋ยวเราไปส่งตัวกันที่บ้านเรานะ" จริงๆ ผู้ใหญ่ก็ยังไม่ได้คุยเรื่องห้องหอ เพราะต่างคนก็ไม่ได้หันหน้าเข้าหากัน แต่แม่เจ้าสาวได้จัดเตรียมรอไว้แล้ว ถ้าเจ้าบ่าวเลือกไปอยู่ที่บ้านของนางก็ถือว่าจะดีมาก
"คืนนี้ผมว่าจะไปค้างที่คอนโด คงไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ"
"ค้างคอนโดคืนแต่งงานเนี่ยนะ? เออ..ไม่มีปัญหาหรอกจ้ะ" นางคงไม่กล้าไปมีปัญหาอยู่แล้ว
"ถ้างั้นผมขอพาตัวเจ้าสาวไปเลยแล้วกันนะครับ" ชายหนุ่มเดินตรงไปที่รถของตัวเองซึ่งถูกจัดเตรียมไว้ และจังหวะที่เขาและเจ้าสาวเดินไป นักข่าวและเพจดังก็ยังคงจับภาพอยู่
ขับรถออกจากโรงแรมมาเพียงไม่นาน เธอก็ขอร้องให้เขาพาไปโรงพยาบาลก่อน
"คุณขึ้นไปข้างบนกับฉันได้ไหมคะ วันนี้วันแต่งงาน ฉันอยากพาคุณไปไหว้แม่" เธอรวบรวมความกล้าชวนเขาขึ้นไปด้วย
รามสูรก็เลยปลดเซฟตี้เบลท์ออก แล้วก็เปิดประตูลงจากรถก่อน หญิงสาวรีบลงตามไปแบบดีใจที่เขายอมทำตามสิ่งที่เธอขอ
เขายังอยู่ในชุดสูททำงานไม่ค่อยเท่าไรหรอก แต่เธอนี่สิอยู่ในชุดวิวาห์ แน่นอนว่ามันต้องเป็นเป้าสายตาของคนที่มาใช้บริการโรงพยาบาลแห่งนี้แน่
สโรชารีบซุกใบหน้าลงไปกับลำตัวของคนที่เป็นสามี เมื่อมีคนหยิบโทรศัพท์ออกมา เพราะเธอกลัวว่าเขาจะถ่ายภาพแล้วไปโพสต์ลงสื่อโซเชียล ถ้าแม่เห็นคงเป็นเรื่องแน่
ชายหนุ่มก็เลยถอดเสื้อสูทเพื่อให้เธอปิดบังใบหน้าไว้
พอประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบนหญิงสาวก็คืนเสื้อสูทให้กับเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก