เช้าวันต่อมา..
เมื่อคืนนี้พอสัมผัสได้ว่าเธอร้องไห้ เขาก็เลยเก็บเจ้าสิ่งนั้นไว้ และปล่อยให้เธอได้นอน
"เย็นนี้ผมจะมาอยู่เป็นเพื่อนอีก ผมต้องเข้าบริษัทก่อนนะครับ" ประโยคแรกเขาพูดกับคนเป็นภรรยา ประโยคต่อมาชายหนุ่มหันไปพูดกับแม่เธอที่นอนอยู่บนเตียง
"เดี๋ยวฉันลงไปส่งค่ะ"
"ไม่ต้องหรอกอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่เถอะ" ก่อนที่จะออกมาชายหนุ่มโน้มตัวลงไปหอมแก้มเธอเบาๆ สโรชาไม่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร แต่ก็ขอบคุณเขามากที่ทำให้แม่มีรอยยิ้มขึ้นมาได้
"แม่ดีใจนะที่ลูกเจอคนที่รักลูกจริง" ไม่เหมือนนาง ถ้าชาติหน้ามีจริงคงไม่ต้องมาเป็นอนุของคนอื่นแบบนี้
"โรสก็บอกแม่แล้วไงคะว่าลูกเขยของแม่เป็นคนดี และเขาก็รักลูกสาวแม่มากเลยนะ"
ขณะที่เธอกำลังเตรียมผลไม้ให้แม่ โทรศัพท์จากแม่ใหญ่ก็โทรเข้ามา
พอสโรชารับแล้วก็ถูกต่อว่าไปยกใหญ่ เรื่องที่ไม่กลับมาบ้านเลย จริงๆ นางก็อยากให้พาลูกเขยมาบ้านบ้างนั่นแหละ
{"พรุ่งนี้โรสจะกลับไปค่ะ"}
{"มาเย็นนี้เลย แม่เตรียมอาหารเย็นไว้รอแล้ว"}
{"เย็นนี้หรือคะ"} หญิงสาวมองไปดูแม่ที่นอนอยู่บนเตียง ถ้ากลับไปไม่นานคงพอได้ แต่เขาจะไปด้วยไหมนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง
ที่จริงแม่ของเธอก็ได้ยินเสียงลูกสาวคุยโทรศัพท์ แต่นางไม่ถาม เพราะไม่อยากทำให้ลูกไม่สบายใจ
จนเวลาผ่านล่วงเลยมาถึงตอนเย็นของวันเดียวกัน
แล้วเขาจะมาตอนไหน ..หญิงสาวลงมายืนรออยู่หน้าโรงพยาบาล ถ้าใครผ่านเข้าออกต้องเข้าประตูตรงนี้แน่ จะโทรหาก็ไม่กล้า เดี๋ยวหาว่าโทรไปรบกวนอีก
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปก็แล้ว สองชั่วโมงกำลังจะผ่านไป หญิงสาวก็เลยตัดสินใจเดินออกมาเพื่อเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ถ้าแม่ใหญ่ไม่เห็นหน้าเธอวันนี้คงเป็นเรื่องแน่ แต่ขณะที่กำลังเดินออกมารถของคนที่เธอกำลังรออยู่ก็วิ่งมาจอดด้านหน้า
"จะไปไหน" ชายหนุ่มเลื่อนกระจกลงเล็กน้อยเพื่อถาม
"คุณมาก็ดีแล้วค่ะ แม่ใหญ่โทรมาให้กลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน" หญิงสาวกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ เธอนึกขึ้นได้ก็เลยถอยมาเปิดประตูด้านหลังแล้วรีบขึ้นไปนั่ง
ไม่ต้องตั้งใจฟังก็ได้ยินเสียงคนตรงหน้าพ้นลมหายใจออกมา แต่เธอก็ทำเป็นไม่ได้ยิน เขาคงเอือมระอาเธอมาก
ที่จริงวันนี้งานของเขายุ่งมาก มาโรงพยาบาลหวังจะได้นอนพักผ่อนเลย แต่ก็ต้องได้พาเธอตระเวนกลับไปบ้านอีก
ใช้เวลาอยู่บนท้องถนนพอสมควรเพราะเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่หลายๆ บริษัทกำลังเลิกงาน
แต่สโรชาก็โทรมาบอกทางบ้านแล้วว่ากำลังเดินทาง พอมาถึงทั้งสองก็ไปนั่งร่วมรับประทานอาหาร วันนี้พ่อของเธอกลับมาบ้านเพื่อนทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา
"เห็นคุณพ่อของเราบอกว่างานที่บริษัทมีปัญหาเหรอ" ท่านพลโทชวนลูกเขยคุยระหว่างที่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่
"เรื่องของที่ส่งออกนั่นแหละครับ เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยของก็เลยเสียหาย"
"เป็นแบบนี้แย่เลยนะ แล้วแก้ไขปัญหายังไงล่ะ"
"ให้ฝ่ายผลิตผลิตขึ้นมาใหม่ครับ"
สโรชาได้แต่นั่งฟัง ถ้าพ่อไม่ถามเธอคงไม่รู้เรื่องนี้
"ถ้างั้นต้องทานเยอะๆ แล้วล่ะจะได้มีแรงทำงาน" ว่าแล้วแม่ภรรยาก็ตักอาหารวางใส่จานให้ลูกเขย โดยมีสายตาของสามีกรอกมองตาม
ส่วนลูกสาวไม่ได้ใส่ใจอะไร เธอทำแค่นั่งทานข้าวอยู่เงียบๆ
"คืนนี้ก็ค้างกันที่นี่เลยจะได้ไม่ต้องเหนื่อยขับรถ" นางยังคงพูดต่อ
จากที่ทานข้าวอยู่เงียบๆ สโรชาหันมองดูเขา เพราะคืนนี้ยังไงเธอก็ต้องกลับไปนอนที่โรงพยาบาลให้ได้
แต่เขาก็ไม่ได้ช่วยพูดอะไร แถมยังตักอาหารที่แม่ตักให้เมื่อสักครู่ใส่ปาก
"เราเป็นอะไร" นางหันมามองลูกสาวบ้าง เพราะลูกสาวเอาแต่จ้องหน้าสามี
"เปล่าค่ะ"
"ถึงจะมีสามีแล้วแม่ก็ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวโทรมเข้าใจไหม..ดูสิ" นางเริ่มตำหนิลูกสาว
หลังทานข้าวเสร็จ..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภรรยาที่(ไม่)รัก